CARS

“BUELL” รถจักรยานยนต์ Racing หัวใจ ‘Harley-Davidson’ กับการโกงความตาย และกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

By: HYENA April 11, 2021

เชื่อว่าผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในรถจักรยานยนต์คงจะสะดุดตาสะกิดใจทุกครั้งที่ได้เห็นรถจักรยานยนต์อย่าง Harley-Davidson แล่นผ่าน ด้วยทรวดทรงที่อวบอิ่ม และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่น่าเกรงขาม

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นทุกคนที่ชื่นชอบมันไปซะทีเดียว เพราะถ้าหากใครที่ชอบรถจักรยานยนต์สไตล์ Sport จ๋า ๆ รูปทรงปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวก็อาจจะมองว่า Harley-Davidson ออกแนวมีอายุไปสักนิด ทำให้ระยะหลัง Harley-Davidson ต้องปรับตัวด้วยการออก Model ใหม่ ๆ ที่รับอิทธิพลความ Sport เพิ่มเข้าไปขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Street 750 รวมไปถึง Pan American หรือแม้กระทั่ง Livewire ซึ่งเป็น Harley-Davidson ระบบไฟฟ้า

รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ ครั้งหนึ่งเคยมีรถจักรยานยนต์ Harley-Davidson รูปทรง Sport มานานแล้ว แม้ปัจจุบันจะไม่มีการผลิตไปแล้วก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “Buell Motorcycle” กัน เพราะนี่คือหนึ่งในแบรนด์ที่นำเอา Harley-Davidson แบบทั้งดุ้น มาปรับโฉมเพิ่มความ Sport ให้ถึงขีดสุด จนสะดุดตาคนรัก Harley-Davidson ทั่วโลกมาแล้ว


What Was The Buell Motorcycle Company?

บริษัท Buell Motorcycle เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกันแท้ ๆ เหมือนกับ Harley-Davidson ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1983 ผู้ก่อตั้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Erik Buell อดีตวิศวกรตัวกลั่นของ Harley-Davidson นั่นเอง

ในตอนแรก Erik ได้ออกมาตั้งบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ของตัวเอง ใช้ชื่อว่า Pittsburgh Performance Products แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ก่อนจะทำการ Rebranding ครั้งใหญ่ และเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น Buell Motorcycle Company แล้ว หันมาสร้างรถจักรยานยนต์เพื่อแข่งขันใน AMA Formula 1 แทน


Who Is Erik Buell? 

สำหรับชายที่ชื่อว่า Erik Buell นั้น หลายคนในโลกยานยนต์นั้นถึงกับยกให้เขาเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีในรถจักรยานยนต์ตัวพ่อเลยทีเดียว เขาเติบโตที่รัฐเพนซิลเวเนีย และหลงใหลการขี่รถจักรยานยนต์มาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น หลังจากเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัย เขาก็เริ่มต้นเดินตามความฝันในวัยเด็ก ด้วยการสมัครเข้าไปทำงานในบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ Harley-Davidson

และนอกจากเรียนรู้การทำงาน และการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ต้องขลุกตัวอยู่กับมันทุกวันภายในโรงงาน Harley-Davidson แล้ว เขายังใช้เวลาว่างที่เหลืออยู่ไปกับการเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์ และเป็นคนซ่อมบำรุง ตกแต่ง ดัดแปลงรถด้วยตัวเองอีกด้วย

แต่ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานั้น Erik จะประสบความสำเร็จกับชีวิตการเป็นนักแข่งมากกว่า เขาจึงตัดสินใจทุ่มเทให้กับการแข่งรถแบบเต็มที่ ด้วยการลาออกจากบริษัท Harley-Davidson ในช่วงปี 1980 มาสร้างบริษัทผลิต และตกแต่งจักรยานยนต์เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็ทั้งแข่ง และพยายามที่จะสร้างรถจักรยานยนต์ของตัวเองขึ้นมา โดยมีโจทย์ว่า ต้องการรถจักรยานยนต์ที่ดีกว่า Yamaha TZ  ซึ่งเขาใช้แข่งอยู่ในเวลานั้นให้ได้


Here Comes Harley-Davidson.

หลังจากที่ใช้เวลางัด ๆ แงะ ๆ พัฒนารถอยู่หลายปี Erik ก็สร้างรถสำหรับการแข่งขัน AMA Formula 1 ออกมาได้สำเร็จ และมันก็โดดเด่นอย่างมากเมื่อโลดแล่นอยู่ในสนาม โดยรถจักรยานยนต์คันแรกของ Buell ก็คือ RW750 แต่หลังจากนั้นไม่นาน การแข่งขัน AMA Formula 1 ก็ปิดตัวลง

Erik ต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกฎในการสร้างรถเข้าแข่งขันในรายการต่าง ๆ ที่บังคับให้รถจักรยานยนต์มีความเป็น Street Bike มีความ Racing มากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ Erik เกิดไอเดียใหม่ในการสร้างรถขึ้นมา ด้วยการที่ใช้เครื่องยนต์ที่เขารู้จักมันมันดี และมีพละกำลังมหาศาลจาก Harley-Davidson มาใส่ในตัวถังที่เขาออกแบบให้มีความเป็นรถแข่งมากกว่ารถ Touring ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ Harley-Davidson

แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะถึงแม้ว่า Erik จะสร้างรถออกมาได้ดีแค่ไหนก็ตาม การใช้เครื่องยนต์ของ Harley-Davidson ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นปัญหาตามมา เพราะไม่สามารถทำการซื้อขายรถ Buell ที่ใส่เครื่องยนต์ Harley-Davidson อย่างเป็นทางการได้

จนกระทั่งในปี 1993 บริษัท Harley-Davidson ซึ่งจับตาดู Erik มาตลอดได้เข้ามาเจรจาขอซื้อหุ้น Buell จาก Erik เป็นจำนวน 49% โดยมีข้อแม้ว่า Erik ต้องผลิตรถสไตล์ Sport, Racing ตามที่เขาถนัดออกมา เพราะทาง Harley-Davidson อาจจะไม่ค่อยเชี่ยวชาญทางนี้ จึงอาศัยความสามารถของ Erik ในการออกแบบ

แต่ในชณะเดียวกันชิ้นส่วนบางชิ้นโดยเฉพาะหัวใจสำคัญอย่างเครื่องยนต์ยังต้องเป็น Harley-Davidson เท่านั้น ซึ่งนั่นก็สามารถสร้างชื่อและขยายตลาดให้ทั้งคู่ได้ไม่น้อย ทำให้ Erik ตกลงขายหุ้น และ Buell จึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Harley-Davidson ตั้งแต่นั้นมา

ตั้งแต่ปี 1993 ที่ Erik ได้ขายหุ้นไปให้กับทาง Harley-Davidson รถจักรยานยนต์ Buell ก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งเข้าปี 1998 Harley-Davidson แอบทารุณหัวใจ Erik เล็ก ๆ ด้วยการบีบ Erick จากการขอซื้อหุ้นเพิ่มอีก 49% และจะให้ Erik ถือหุ้นที่เหลืออยู่เพียง 2% เท่านั้น ทำให้ Erik ตัดสินใจขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดให้กับ Harley-Davidson ตามต้องการ

Buell’s End.

เมื่อเข้าสู่ปี 2003 Harley-Davidson ประสบกับปัญหาเศรฐกิจที่หนักหน่วง ทำให้ต้องตัดสินใจปิดตัวบริษัท Buell Motorcycle Company ลง หลายคนมองว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Harley-Davidson แต่สำหรับแฟนของ Erik Buell กลับมองว่า เขาโชคดีเป็นบ้า และเป็นการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในระยะเวลาทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่ Harley-Davidson ซื้อหุ้นทั้งหมดจาก Erik มานั้น พวกเขาสามารถผลิต Buell ออกมาจำหน่ายได้เพียงแค่ 135,000 คันเท่านั้น และว่ากันว่าผลจากการที่เขาเสียเงินก้อนใหญ่ไปกับการซื้อหุ้นครั้งนี้ ยังคงส่งผลกระทบกับการเงินของ Harley-Davidson มาจนกระทั่งปัจจุบันเลยทีเดียว


Erik Buell Racing.

หลังจากที่ Harley-Davidson และ Buell เจ๊งบ๊งไปแบบกู่ไม่กลับ ปี 2009 Erik Buell ได้ทำการสวนกระแสเหมือนเป็นการเอาคืน Harley-Davidson นิด ๆ ด้วยการเปิดตัวบริษัท Erik Buell Racing (EBR) ขึ้นมา หันมาจับตลาดรถจักรยานยนต์สาย Racing ขนานแท้มากขึ้น และมันก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีโมเดลเจ๋ง ๆ ออกมามากมาย

The heart of Buell was always racing.

แม้ว่าที่ผ่านมา Buell จะมีขึ้น ๆ ลง ๆ หาย ๆ ไปบ้าง แต่ด้วยคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และศักยภาพของแบรนด์ที่โดดเด่นทำให้พวกเขารอดพ้นวิกฤตอย่างปาฏิหาริย์มานับครั้งไม่ถ้วน ว่ากันว่า การมีอยู่ของ Buell ที่ยังคงทนมาอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้คือความแน่วแน่ในแนวทางของแบรนด์ที่ยังคงคลั่งไคล้ตั้งใจจะผลิตรถ Racing ที่ดีที่สุดออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง DNA นี้ไม่เคยหายไปตั้งแต่วันแรกที่ Erik เริ่มต้นที่จะสร้างรถเพื่อจะเอาชนะ และทำรถจักรยานยนต์ที่ดีกว่า Yamaha TZ ของตัวเอง

และล่าสุดในปี 2021 นี้ มีข่าวหนาหูว่า Buell พร้อมจะลุกขึ้นมาผงาดชูชันอีกครั้ง พร้อมประกาศว่าในปี 2024 พวกเขาจะเปิดตัว Buell โฉมใหม่ 10 โมเดลรวด ซึ่งในการกลับมาครั้งนี้ Erik Buell ตั้งใจจะเปิดตัว 3 โมเดลเรือธงอย่าง 1190Rx ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมแฟริ่งแบบ Sport เต็มสูบ, 1190SX ที่มาพร้อมความดุดันแบบ Sport Naked และ รุ่นที่ 3 คือ 1190 Super Touring ที่จะมาตีตลาด Adventure Touring แบบที่ Buell ไม่เคยทำมาก่อนด้วย

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line