Business

เช่ารถแต่ไม่ขับ? เทรนด์ใหม่มาแรงแดนปลาดิบที่ทำให้ธุรกิจ CAR-SHARING โตเอา ๆ

By: anonymK July 9, 2019

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เรามักเห็นผู้คนเดินทางด้วยจักรยานและเดินเท้าอย่างจริงจัง เพราะถนนหนทางที่ได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี กฎหมายแรง และระบบขนส่งสาธารณะจัดว่าสะดวกครอบคลุม ดังนั้น ถ้าเราบอกว่าธุรกิจ Car-Sharing หรือการเช่ารถระยะสั้นกำลังเติบโตในกลุ่มประชากรแดนปลาดิบ คุณอาจจะไม่เชื่อ แถมถ้าบอกว่าคนที่เช่า ๆ ไปใช้ ถ้าลองไปส่องดูเข็มไมล์เขาแล้วจะงงใหญ่ว่ามันแทบไม่กระดิกไปจากเดิมเลย คงยิ่งสงสัยว่าจะเป็นไปได้อย่างไร

Car Sharing

ก่อนอื่นเราต้องบอกก่อนว่า Car-Sharing มันไม่เหมือน Car Rental หรือบริษัทที่ให้บริการเช่ารถตามปกติเสียทีเดียว เนื่องจากเขารวมรูปแบบการบริการให้เช่าแบบปัจเจกที่คนรู้สึกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น สั่งจองได้ผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีรูปแบบให้บริการ 2 ประเภท ได้แก่

  1. Peer to Peer (P2P) ที่จับคู่ระหว่างเจ้าของรถที่ต้องการหารายได้เสริมกับคนที่อยากเช่ารถ เพื่อไม่ให้เจ้าของรถเสียโอกาสจากการจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านในวันและเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน
  2. Business to Consumer (B2C) การเช่ารถที่คล้ายกับแบบแรก แต่เหมือน Car Rental เพราะรถที่เอามาให้บริการเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเช่า มีข้อดีที่ไม่ต้องเอารถมาคืนที่เดิมเพราะมีจุดจอดเพื่อคืนรถหลายแห่ง (กรณีบริษัทให้เช่ามีหลายสาขา)

จุดประสงค์ของการให้บริการรูปแบบ Car Sharing คือการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนท้องถนน ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศที่มีความหนาแน่นของพลเมืองสูง แม้จะฟังดูขัดแย้งแต่ในความเป็นจริงเมืองที่มีพลเมืองแน่นมักจะเป็นเมืองที่วางระบบสาธารณูปโภคและการขนส่งดีทำให้รถบนถนนน้อยลง คนหันมาจอดรถมากขึ้น พอถนนว่างก็เลยเหมาะกับคนเมืองที่อยากขับเช่ารถไปไหนมาไหนระยะเวลาสั้น ๆ เพราะแม้จะจ่ายมากกว่าแต่ก็สะดวกกว่า และยังเป็นข้อเสนอที่วิน-วิน กับคนมีรถขับแต่ไม่อยากจ่ายค่าน้ำมันและไม่อยากเครื่องพังเพราะจอดแช่ไว้นาน ๆ ด้วย

เช่าไม่ขับ จ่ายทำไมให้เปลืองเงิน?

กลับมาเรื่องเช่าไม่ขับ เช่าแล้วไม่ใช้เดินทาง แถมคนยังมาเช่าเอา ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนหลายคนงงว่าเขาเช่ารถไปทำไมถ้าไม่ใช้ เรื่องนี้ Asahi Shimbun สำนักข่าวท้องถิ่นในญี่ปุ่นไปเจอคำตอบเทรนด์ที่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อปีที่ผ่านมาจากข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทให้บริการรถยนต์ Orix Auto Corp. หลังสำรวจการใช้งานแล้วพบว่าผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกว่า 230,000 รายจ่ายเงินแต่ไม่ขับรถไปไหนเลย! เดาสิว่าพวกเขาทำอะไรกับรถที่เช่ามาบ้าง​ ?

  • เช่าไว้นอน
  • เช่าไว้ชาร์จแบตมือถือ
  • เช่าไว้ดูหนัง ดูซีรีส์
  • เช่าไว้ฝากกระเป๋า
  • เช่าไว้พูดคุยกับเพื่อน
  • เช่าไว้กินข้าวกลางวัน
  • เช่าไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัว
  • เช่าไว้อัดวิดีโอทำคลิปลง Youtube
  • เช่าไว้เป็น Photo Booth ถ่ายภาพ

เรียกได้ว่าเช่าไว้ทำทุกอย่างที่ไม่ใช่การขับรถไปเที่ยว ซึ่งเอาเข้าจริงหลายเรื่องเราก็มองว่ามันตอบโจทย์เหมือนกันนะ อย่างการเช่ารถไว้นอนนี่ก็จัดว่าเหมาะสำหรับคนบ้านไกลที่ต้องตื่นเช้าเดินทางไปสถานที่นัดเพราะไม่งั้นจะมาสาย แต่พอมาเร็วก็มาเร็วเกินจนเหลือเวลาแต่ไม่รู้จะไปรอที่ไหน การเช่ารถระยะสั้นไว้เอนตัวเปิดแอร์เย็น ๆ บนรถที่จอดไว้ใกล้ ๆ ปลายทางก็เป็นทางเลือกที่ถือว่าราคาถูกกว่าการเปิดห้องอยู่โรงแรมที่ต้องใช้บัตรและเอกสารยืนยันตัว ซึ่งกว่าจะได้เข้าไปพักก็ยุ่งยาก นี่แค่กดแอปฯ รวดเดียวก็ใช้งานได้แล้ว

อีกกรณีพวกชาร์จแบตอุปกรณ์ส่วนตัวทั้งหลาย บางทีเรานั่งคาเฟ่เปิดอาจจะคนเยอะ ไม่เป็นส่วนตัวสำหรับทำงานแถมยังต้องทยอยสั่งเครื่องดื่มด้วยความเกรงใจ ถ้าอยู่ในรถเช่า ล็อกตัวเองในที่ปลอดภัยคิดว่าน่าจะเหมาะสมกว่า ที่สำคัญคือค่าบริการที่ไม่แพงเกินไปเพื่อค่าเวลา เพราะอัตราค่าบริการอยู่ที่ราว $3.60 หรือประมาณ 110 บาทต่อครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับค่าเครื่องดื่มในร้านกาแฟหรือร้านอาหารทุกวันนี้ก็พอ ๆ กันหรืออาจจะถูกกว่าแล้ว

จุดประสงค์หลักของการใช้งาน Car-Sharing เพื่อเช่าขับเดินทางในระยะสั้นวันนี้ยังคงเป็นสัดส่วนที่สูงกว่า แต่เทรนด์ใหม่มาแรงที่เช่ารถแต่ไม่ขับก็ประมาทไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขายืนยันมาจากหนึ่งในผู้ให้บริการแล้วว่าตอนนี้สัดส่วนของลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 15% ของทั้งหมดและมีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

แล้วพวกเราชาว UNLOCKMEN ล่ะ ถ้าเช่ารถไม่ขับ จะขยับไปทำกิจกรรมอะไรบนรถดี?

 

SOURCE: 1 / 2 / 3

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line