บทเรียนสิ้นหวังจากคุกนรก: DANNY TREJO กับชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นเพื่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้

“ครั้งแรกที่ผมสูบกัญชา ตอนนั้นผมอายุแค่ 8 ขวบ”

วลีสั้น ๆ จากปากของ Danny Trejo นักแสดงที่เราคุ้นเคยในบทบาทตัวร้ายสัญชาติเม็กซิกันซึ่งเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่า ชีวิตของเขานั้นเคยผ่านเรื่องราวโชกโชนมามากแค่ไหน ด้วยผลงานภาพยนตร์มากกว่า 100 เรื่อง ไล่ตั้งแต่บทตัวประกอบตอนเริ่มเข้าวงการ ไปจนถึงพระเอกในหนังอย่าง Machete ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของ Danny ได้เป็นอย่างดี แต่ใครจะรู้ว่า ก่อนจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ ชีวิตของเขาเคยจมดิ่งสู่ด้านมืดของโลกไปลึกมากแค่ไหน

วัยหนุ่มที่โชกโชน

Danny Trejo เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปี 1944 อาศัยอยู่ในย่าน Echo Park , Los Angeles  พ่อแม่ของ Danny เป็นคนงานก่อสร้างชาวเม็กซิกันหาเช้ากินค่ำ จึงไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ลูกมากนัก ลุงแท้ ๆ ที่เป็นทั้งขี้ยาและพ่อค้าขายอาวุธ จึงกลายเป็นคนสอน Danny ให้รู้จักโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งแทน แต่เป็นในด้านที่ต่างจากเด็กคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

ตอนอายุได้ 12 ปี ลุงสุดที่รักของ Danny ต้องการจะปล้นร้านค้าแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าคนขับรถไม่ใช่ใครนอกเสียจาก Danny Trejo ในวัยละอ่อน นับแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยอยู่ห่างจากเรื่องอาชญากรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขายยา ค้าอาวุธ ปล้นจี้ จนทำให้ต้องเข้าออกคุกถึง 3 ครั้ง แต่ความโชคร้ายก็มาเยือน เมื่อเขาถูกจับได้ขณะขนเฮโรอีน มูลค่า 30,000 เหรียญ ซึ่งโชคร้ายคราวนี้ต้องถูกส่งไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงสุดอย่าง San Quientin

ของฝากและบทเรียนจากเรือนจำ

ปกติน้องใหม่ที่เข้าไปในคุกคงต้องรู้สึกหวาดกลัวเพื่อนร่วมห้องขังใช่ไหม แต่ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้กับ Danny เพราะกลายเป็นว่าเดนคุกคนอื่นกลับต้องเกรงกลัวเขาแทน ด้วยความที่เป็นคนไม่หวาดหวั่นต่ออะไร รวมไปถึงฝีมือด้านหมัดมวยที่เป็นเลิศ ไม่นานนักหนุ่มน้อยหน้าใหม่ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของเหล่านักโทษภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการชกมวยที่หาตัวจับได้ยากนี้เองต่อมาเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ในรุ่น Lightweight , Welterweight ของการแข่งขันระหว่างเรือนจำในย่านนั้นทั้งหมด

สัญลักษณ์ประจำตัว Danny อีกชิ้นจากเรือนจำคือ รอยสัก Mexican Cowgirl บนหน้าอก ถูกสักโดยนักโทษ Harry “ Super Jew” Ross แต่ยังไม่ทันเสร็จ Harry ก็ถูกย้ายไปยังเรือนจำอื่นเสียก่อน ทำให้มันไม่สมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลารวมเบ็ดเสร็จราว 2 ปีครึ่งจากการพบปะใน 3 คุกไล่ตั้งแต่ San Quentin, Folsom และ Soledad แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะมันกลายเป็นรอยสักอันโด่งดังมาก หลังจาก Danny ไปขึ้นปกนิตยสารเกี่ยวกับรอยสักฉบับหนึ่งหลังจากที่มีชื่อเสียงไปแล้ว

คำสัญญาที่เปลี่ยนชีวิต

ปี 1968 เกิดเหตุจราจลโดยนักโทษชาวเม็กซิกันใน San Quientin แน่นอนว่าหนุ่มเลือดร้อนนามว่า Danny ก็เอาด้วย หลังเจ้าหน้ายุติเหตุการณ์ให้สงบลงได้ พบว่ามีผู้คุมบาดเจ็บสาหัส 1 คน ครั้งนั้น Danny ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเอาก้อนหินทุบหัวของเจ้าหน้าที่ ถ้าถูกตัดสินว่าผิดจริงจะต้องโดนประหารด้วยการเข้าห้องรมแก๊ส

ระหว่างรอคำตัดสิน Danny ต้องถูกขังเดี่ยวในห้องมืดยาวนานถึง 3 เดือน เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น การไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ตลอด 90 วัน ไม่มีเพื่อนพูดคุยแทบทำให้ Danny แทบเสียสติ รวมทั้งหมดศรัทธาต่อทุกสิ่ง ในวันปล่อยตัวผู้คุมเปิดประตูมาพบเจอตัวอักษรเขียนว่า “God Suck” ไว้บนกำแพง มันถูกเขียนโดยใช้อุจจาระของเขาเอง

แต่พระเจ้ากลับมีผลกับชีวิตเขาอีกครั้งในวันตัดสินความผิด เป็นครั้งแรกที่ Danny รู้สึกหวาดกลัวความตาย “ผมจำได้ว่าตัวเองอ้อนวอนต่อพระเจ้า ผมไม่ได้ทำอย่างที่โดนกล่าวหา ถ้าผมจะตายก็ขอให้ตายอย่างมีศักดิ์ศรีและได้บอกลาทุกคนก่อนเถอะ ถ้าท่านให้โอกาส ผมจะเรียกชื่อท่านทุกวัน และจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์บนโลกนี้ตลอดไป”

วันที่ 3 สิงหาคม 1969 Danny รอดพ้นจากห้องรมแก๊สและถูกปล่อยให้เป็นอิสระโดยเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการเป็นช่างก่อสร้าง ก่อนชีวิตจะหันเหเข้าสู่วงการภาพยนตร์ แน่นอนว่าเขาไม่เคยลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับตัวเองในครั้งนั้น

ตัวร้ายที่ช่วยเหลือเยาวชนนักโทษ รวมถึงสุนัข

หลังจากประสบความสำเร็จในงานแสดง  Danny ต้องการกลับไปยังชุมชนบ้านเกิด เพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่กำลังติดอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขาในช่วงวัยรุ่น

ครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างนักเรียนอเมริกันผิวสีกับนักเรียนเม็กซิกันขึ้นใน Sylmar High School ใน San Fernando Valley , LA

เมื่อ Danny ทราบข่าวก็บินไปขอร่วมประชุมเพื่อช่วยไกล่เกลี่ยทันที และอีกกว่าสิบครั้งที่เขาเดินทางไปให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันการเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแก่เยาวชนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา รวมถึงให้ความรู้แก่นักโทษตามเรือนจำของรัฐต่าง ๆ เกี่ยวกับการกลับตัวกลับใจพร้อมการใช้ชีวิตหลังออกจากคุกอีกด้วย

ไม่เพียงแค่เพื่อนมนุษย์เท่านั้น Danny ยังมีส่วนกับโครงการช่วยเหลือสัตว์มากมาย โดยเฉพาะสุนัข ไม่ว่าจะเป็น Spay4LA , Best Friend Animal Society รวมทั้ง Villalobos Rescue Center และเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้ ความช่วยเหลือ เกี่ยวกับการดูแล ทำหมันให้สุนัขจรจัด ถึงขนาดแสดงวิดีโอรณรงค์ ใส่ชุดสัตว์ทั้งตัวลบภาพตัวร้ายให้หายไปในพริบตา นอกจากนี้ยังคอยสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ อย่าง Hollywood Arts และ Los Angeles Police Memorial Foundation อย่างต่อเนื่องด้วย

จากชีวิตที่เคยจมดิ่งไปจนแตะขอบโลกด้านมืดมาแล้ว วันนี้มีบางสิ่งพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ถ้าอยากกลับตัวกลับใจ โลกก็ให้โอกาสเลือกจะเป็นได้เสมอ ถือเป็นเรื่องราวชีวิตที่โคตรเท่ของอดีตขี้คุก ที่ปัจจุบันกลายเป็นทั้งนักแสดงมากฝีมือ รวมถึงบุคคลที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทุกชีวิตบนโลกเท่าที่เขาจะสามารถทำได้

คน ๆ นั้น คือ  Danny Trejo

Source , Source 2