Work

โกรธไปได้อะไรขึ้นมา! 5 เหตุผลดี ๆ ที่ควรเป็นมิตรคนที่เราไม่ชอบขี้หน้า

By: unlockmen June 22, 2018

เจอหน้าที่ไรก็ไม่อยากจะมอง เบื่อหน้าจนไม่รู้จะหันหนีไปทางไหนดี มีคนเกลียดขี้หน้าอยู่ใกล้ตัวแบบนี้ มีแต่ชวนให้อารมณ์ขึ้นทุกคร้ังที่นึกถึง หงุดหงิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา UNLOCKMEN ขอแนะนำทางออกดี ๆ เอาไว้ดีลกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า ทางออกแบบ Positive  ไม่ชวนให้เสียอารมณ์ ไม่บั่นทอนสุขภาพจิต อย่าปล่อยให้ความเกลียดชังบั่นทอนคุณมากเกินไป เพราะมันอาจะเป็น Mind Game จากอีกฝั่งก็ได้ ที่ปั่นหัวให้คุณโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาไปด้วยกันดีกว่า

ฝึกการควบคุมความเกรี้ยวกราด

ใครมันกระตุ้นต่อมเกรี้ยวกราดของเราได้ดีเท่าคนที่เราเกลียดขี้หน้าล่ะ นั่นหมายความว่า เรารู้ลิมิตความเกรี้ยวกราดของตัวเองได้จากศัตรูเนี่ยแหละ ว่าถ้าตัวเราเองเปิดโหมดฉุนเฉียวเมื่อไหร่ เราจะกลายร่างเป็นปีศาจร้ายได้ถึงเลเวลไหน หรืออาจจะเป็นแค่ความฉุนเฉียวเพียงเล็กน้อยก็ได้ มันขึ้นอยู่กับเรานี่แหละที่จะควบคุมมันได้มากแค่ไหน

พอมันเป็นอย่างงั้นแล้ว ตรงนี้มันก็กลายเป็นจุดอ่อนของเราอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าศัตรูรู้ว่าทำให้เราเดือดได้ อาจจะยิ่งสุมไฟให้เราเป็นบ้า เพื่อให้เราเสียศูนย์ในการคุมอารมณ์ไปเลย ลองเปลี่ยนจากความฉุนเฉียวเมื่อเจอหน้า ให้เป็นบททดสอบการควบคุมอารมณ์ของเรา ยังไม่ได้ต้องลดลงปุบปับก็ได้ แค่ให้เราไม่บ้าจี้ไปตามเกมที่ฝั่งนู้นปั่นหัวเราก็พอ

กระตุ้นให้เราอยากก้าวผ่านคำดูถูก

คนเกลียดขี้หน้ากัน คงไม่ได้มีคำชมออกจากปากถึงกันอยู่บ่อย ๆ หรอก การได้ยิน Hate Speech จากคนที่ไม่ถูกกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้จะชวนหงุดหงิดไปบ้าง ก็อย่าเก็บเอามาคิดในแง่ลบให้มันบั่นทอนตัวเอง ลองเปลี่ยนเป็นพลังเอาไว้ลบคำสบประมาทดูสิ หากเราโดนสบประสาทเรื่องความสามารถ หรือปมด้อยใด ๆ เป็นโอกาสดีด้วยซ้ำที่เราจะได้เห็นจุดบอดของตัวเอง แล้วเอามันมาพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นการตอกกลับฝ่ายนั้นว่าเราเปลี่ยนได้ ง่าย ๆ หมู ๆ  

มีแรงงัดข้อดีออกมาสู้

โดนโจมตีด้วยจุดอ่อนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ระหว่างที่กำลัง Improve จุดอ่อนของตัวเอง (ซึ่งต้องใช้เวลา) อย่าปล่อยให้เขาโจมตีเราซ้ำแล้วซ้ำอีก งัดข้อดีข้ออื่นของเราออกมาสู้ นั่นทำให้เราพยายามหาจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งนั่นก็เป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับทุกคนไม่ใช่หรอ ? การมีแรงบันดาลใจให้ฮึดขึ้นมาทำตัวเองให้เจ๋ง แซงหน้าคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน เป็นการ Challenge ตัวเองอีกด้วย จนอาจทำให้เราลืมความโกรธไปเลยก็ได้ เพราะเราจะโฟกัสไปที่การผลักดันตัวเองให้ศัตรูได้เห็นว่าใครเจ๋งกันแน่

ได้มิตรจากศัตรูของศัตรู

มีศัตรูคนเดียวกันก็ช่วยไม่ได้ที่จะกลายเป็นมิตรกันไปโดยปริยาย เกลียดคน ๆ เดียวกัน ก็สานสัมพันธ์กันไว้ คอยผนึกกำลังเอาไว้สู้กับศัตรู คุณจะได้ไม่สู้อย่างเดียวดาย มีหลายฝ่ายไว้ยิ่งดี เพราะเราอาจจะเกลียดคน ๆ นั้นด้วยเหตุผลที่ต่างกันก็ได้ ยิ่งมีหลายเหตุผลมาซัพพอร์ต ยิ่งทำให้เรามีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อต้องปะทะกัน

ไม่ได้เชิญชวนให้ตั้งกองกำลังไปปะทะกันแบบทำร้ายร่างกาย แต่หมายถึงให้สู้กันในเรื่องของความคิด การทำกันงาน ช่วยกันพัฒนาตัวเองให้เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม ด้วยการผนึกกำลังกัน คอยซัพพอร์ตกันและกัน นั่นแหละที่เรากำลังพูดถึง

อยากใช้ชีวิตบนความเกลียดชังจริง ๆ หรือ ?

เหตุผลง่ายที่สุดเลยของเรื่องนี้ คือเราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตบนความเกลียด ให้ความเกลียดมันบั่นทอนจิตใจหรือเปล่า เราคงไม่มีความสุขนักหรอก เพราะความเกลียดมีแต่นำมลพิษทางอารมณ์มาให้เราอยู่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน เราไม่จำเป็นต้องแบกความเกลียดชังติดตัวไปตลอดซะหน่อย

จริง ๆ ไม่ได้บอกให้ให้อภัยทุกคนอะไรทำนองนั้นหรอก แค่ลองเฉย ๆ กับมัน ไม่สนใจ ปล่อยมันไว้ตรงนั้นเฉย ๆ ก็พอ ต่อให้เขาเกลียดเรายังไง แต่ถ้าเราไม่ต้องเกลียดกลับบ้างล่ะจะเป็นยังไง ? ปล่อยให้ความโกรธกัดกินเขาฝ่ายเดียวก็ได้ Hater Gonna Hates อยู่ดีนั่นแหละ ส่วนเราก็โชว์เก๋าไม่ตกหลุมพลางของอารมณ์ เท่กว่ากันเยอะ

ลองแก้ปัญหาเรื่อง Negative ด้วยทางออกแบบ Positive เพราะการใช้ความเกลียดชังในการแก้ปัญหา อาจไม่ได้ให้อะไรเราไปมากกว่าความสะใจ

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line