เกมเปรี้ยงแต่หนังแป้ก! 5 หนังที่สร้างจากเกม แต่ดันแป้กทั้งกลุ่มแฟนเกมและแฟนหนัง

เกมหลายเกมประสบความสำเร็จแบบเปรี้ยงปร้างชนิดฉุดหยุดไม่อยู่ จนบางคนเห็นช่องทางของเม็ดเงินพรั่งพรูจึงหยิบจับนำมาสร้างเป็นหนัง หวังว่าจะได้กอบโกยเงินจากทั้งฝั่งแฟนเกมและแฟนหนัง แต่ดันไปไม่ถึงฝันเมื่อเข็นหนังออกมาสู่จอเงิน เสียงตอบรับกลายเป็นเสียงด่ากราดรัว ๆ แทน ใช่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นครั้งเดียว มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก UNLOCKMEN ขอรวบรวมความวายป่วงของหนังที่สร้างจากเกมแล้วแป้กแบบไม่น่าให้อภัย เอาไว้ไปพิสูจน์กันว่ามันห่วยจริงอย่างที่เขาว่ากันมั้ย

Street Fighter

จากเกมขวัญใจหนุ่ม ๆ วัยเก๋า แต่กลับกลายเป็นหนังที่เชยระเบิดระเบ้อ ความเชยมากน้อยแค่ไหนดูได้จากโปสเตอร์ โดยกวาดคะแนนจาก IMDB ไปถึง 3.8/10 เสียงจากคนที่ใจแข็งกล้าดูเรื่องนี้ ส่วนใหญ่มักจะบ่นเรื่องความไม่ตรงกับเนื้อเรื่องของเกมเลย บวกกับความโอเวอร์แอคติ้งของนักแสดง ที่ให้ร้อยเล่นล้านแบบไม่กั๊กจนมันดูล้น ไม่รู้ว่ากล้าใช้ชื่อออกมาเป็นแฟรนไชน์ของเกมได้ยังไง แต่ก็โดนแฟนเกมนี้ถล่มไปไม่น้อยเช่นกัน

Silent Hill

มาต่อกันที่อีกความวายป่วง แม้ว่ากระแสจะไม่แย่เท่าเรื่องข้างบน แต่ก็ไม่ได้เป็นที่รักของแฟนเกมมากนัก ด้วยเนื้อเรื่องที่ออกจะไม่สมเหตุสมผล ทั้งที่เนื้อเรื่องมันควรจะเป็นหนัง Horror แต่ความไม่เมกเซนส์กลับทำให้กลายเป็นหนังที่มีจุดบอดเยอะเกินไป จนไม่อินกับความ Horror ของมันเลยสักนิด

Mortal Kombat

เห็นเรื่องอื่นทำออกมาไม่เหมือนต้นฉบับแล้วโดนจวกยับไปแล้ว มาต่อกันที่เรื่องนี้ คะแนนจาก IMDB 5.8/10 หนังที่พยายามเอาทุกดีเทลมาจากเกม แต่กลายเป็นว่ามันไม่เข้ากันอย่างแรง ทั้งโลเคชั่น ไปยันท่าเต้นต๊อง ๆ ของตัวละคร ที่แฟน ๆ รับไม่ได้ แม้ว่ามันจะออกมาเหมือนเกมมาก แต่มันก็ไม่ต้องเหมือนทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้นก็ได้โว้ย! แต่แฟนเกมบางส่วนก็ยังมองว่ามันไม่เลวร้ายขนาดนั้น และยังคงให้คะแนนความพยายามของคนทำหนังเรื่องนี้

Prince Of Persia: Sands Of Time

แม้จะได้ดาราดังอย่าง “Jake Gyllenhaal” แต่ก็ไม่ช่วยให้คนดูเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมถึงเลือกนักแสดงที่หน้าตาคอเคซอยด์แบบสุดทางมาแสดงเป็นตัวละครที่ควรจะเป็นชาวตะวันออกกลาง ถ้ามองจากในมุมแฟนหนังแบบไม่เคยเล่นเกมมาก่อน อาจจะรู้สึก Not Bad กับเรื่องนี้ แต่สำหรับแฟนเกมแล้ว พอกลายเป็นหนังมันดันให้อารมณ์เหมือนดู Indiana Jones ปน ๆ Pirates of the Carribbean ในแบบตะวันออกกลางซะอย่างงั้น กลายเป็นว่าบทของเรื่องนี้เอาความสามารถของนักแสดงมาทิ้งเล่น ๆ

Need For Speed

ปิดอันดับสุดท้ายไปกับเรื่องนี้ ที่ดูเผิน ๆ ยังไงก็น่าจะขายได้ เพราะรถกับผู้ชายดูจะเป็นอะไรที่ขายได้อยู่เสมอ แต่ก็ไปไม่รอดด้วยปัญหาเล่นใหญ่เกินต้นฉบับ แม้จะพยายามบอกว่ามันคือการสร้างหนังแบบเคารพต้นฉบับก็ตาม และใส่โจ๊กหน้าตายที่ชวนแป้กเข้าไปแบบดื้อ ๆ ทำให้ภาพรวมออกมาแล้วชวนพะอืดพะอม จะเอ่ยปากชมก็ไม่ชมไม่ไหว เลยได้คะแนนไปแบบปราณีปราศัยที่ 6.5/10 จาก IMDB

ถึงหนังจะแป้กแบบไม่มีชิ้นดี ก็กลับไปเล่นเกมเพื่อช่วยรื้อฟื้นความทรงจำดี ๆ กันดีกว่า อะไรที่ไม่โอเคก็มองข้ามไปบ้างก็คงไม่แย่เท่าไหร่ ดีกว่าดูไปแล้วเสียทั้งอารมณ์ทั้งเวลา