Life

พูดคุยกับแฟชั่นนิสต้ารุ่นใหญ่ “ป๋าตึก-ภูษิก” แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมสไตล์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

By: unlockmen January 13, 2016

เรื่องของสไตล์สำหรับบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว จะให้มานั่งแต่งตัวตามแฟชั่นตลอดเวลาก็รู้สึกว่าชีวิตมันจะยากเกินไปหรือเปล่า งั้นเราอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเรื่องของสไตล์กันเสียใหม่ สไตล์คือสิ่งที่คงอยู่กับเราเสมอไม่ว่าแฟชั่นจะวนลูปเปลี่ยนไปแค่ไหน เราชอบที่จะใส่กางเกงยีนส์ เราก็แค่เปลี่ยนทรงกางเกงในรูปแบบของเรา เราอาจจะไม่ต้องตามเทรนด์เลยก็ได้ เขาชอบใส่กางเกงชิโน่กัน แต่เราใส่แล้วอ้วน ก็ไม่จำเป็นต้องตามใคร สไตล์มันถึงจะเกิดขึ้นได้

UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับแฟชั่นนิสต้ารุ่นใหญ่คนหนึ่ง หลายคนอาจจะเคยเห็นหน้าของเขาคนนี้มาค่อนข้างบ่อย แต่ก็อาจจะสงสัยว่าชายที่ไว้หนวดเครารูปร่างสูงใหญ่คนนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้ปรากฎลงหน้านิตยสารแฟชั่นมากมาย ผู้ชายคนนี้มีนามว่า ภูษิก พัฒนปราการ หรือ “ป๋าตึก” ของคนในแวดวงแฟชั่น เขาเป็นคนที่เปลี่ยนความคิดเรื่องของการแต่งตัวของใครหลายๆ คน ใครว่าสไตล์ถูกจำกัดไว้เฉพาะวัยรุ่น ใครว่าสไตล์ถูกจำกัดไว้แค่คนเพียงกลุ่มเดียว วันนี้เราจะมาพูดคุยกับป๋าตึก แฟชั่นนิสต้ารุ่นใหญ่ ว่าทำไมสไตล์ถึงสำคัญในชีวิตคนเรา แล้วคุณจะอยากลุกขึ้นมาแต่งตัวแน่นอนเราเชื่อ!

160108-patuek-1

ป๋าตึกเป็นหนึ่งคนที่เราเห็นอยู่หน้านิตยสาร และงานแฟชั่นต่างๆ เป็นประจำ เราพูดคุยกับป๋าถึงอาชีพที่แท้จริง ป๋าเล่าว่า ณ จุดนี้ชีวิตคือการรีไทร์ไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือความสนุกและความเป็นตัวเอง “จริงๆ คือป๋ารีไทร์แล้ว แต่ก็ยังมีธุรกิจเรื่องบริษัทท่องเที่ยว ที่รับเฉพาะแขก VIP ซึ่งแขกบางคนก็เคยทิปถึงล้านก็มี (หัวเราะ) เป็นธุรกิจ Inbound” แต่ทว่าชีวิตนั้นมีทั้งการทำอาชีพแล้วประสบความสำเร็จ และล้มเหลว” ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ทุกอาชีพมันมีขั้นตอน มันมีทั้งการประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ ป๋าทำอาชีพมาเยอะ เรียกว่าเป็นคนที่ฉกฉวยโอกาส หุ้นดีก็ไปเล่นหุ้น ตอนอยู่อังกฤษก็ทำรถนำเข้า ก็เจ๊งบ้างไรบ้าง มาทำธุรกิจรังนกนางแอ่น เคยทำธุรกิจในแอฟริกาเยอะแยะเลย ก็ถือว่าคุ้มแล้วนะชีวิต ตอนนี้ก็เลยไม่อยากทำอะไรแล้ว แต่งตัวเล่นสนุกๆ ดีกว่า”

160108-patuek-2

จุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้ป๋าตึกได้เข้ามาสู่แวดวงแฟชั่น เป็น Style Icon รุ่นเก๋าที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ “ตอนวัยรุ่นป๋าเคยเป็นนายแบบก็ถือว่าใช้ได้อยู่นะ แต่ป๋ามีลูกตอน 24 ก็ย้ายไปอยู่อังกฤษ ทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวก็เหมือนว่าตัวเองหายไปช่วงนึง พอกลับมาลูกโตหมดแล้ว ป๋าก็ไปเดินเล่นที่สวน (JJ Market) เจอพี่นนท์จาก Looker เขามาถ่ายลูกป๋า แต่สักพักเขาบอกไม่เอาลูก เอาป๋าแทน (หัวเราะ) พอ บก. เห็น เขาก็บอกว่าให้ Follow คนนี้ไว้ สุดท้ายก็ได้รางวัล Best Awards ปีแรกของ Looker มา จากนั้นก็มีนิตยสารอื่นๆ ตามถ่ายป๋าอีกเรื่อยๆ แล้วก็มีโฆษณาต่างๆ มีแบรนด์เข้ามาติดต่อให้ป๋าถ่ายโน้นถ่ายนี่ให้อยู่ตลอด งานอีเว้นท์ก็มีเกือบทุกวัน ซึ่งก็ดีนะ ไม่งั้นเหงา (หัวเราะ)”

พูดถึงความสำคัญของการสร้างสไตล์ และควรแต่งตัวให้มากขึ้น ป๋ามองว่าคนเราจำเป็นจะต้องมีความเก๋ “คนในประเทศไทย และคนในโลกเนี่ย บอกเลยว่าคนรวยมีเยอะมาก แต่คนเก๋เนี่ยมีไม่เยอะ (หัวเราะ) พูดเลย ไปนั่งสยาม ไปพารากอน ที่ไหนก็ตามป๋าไปมาเยอะแล้วทั่วโลก บอกเลยว่าถ้าคุณเป็นคนรวยแล้วไม่เก๋เนี่ย รวยไปก็เท่านั้น ป๋าไม่ได้จะว่านะ แต่หมายถึงว่ารวยแล้วจะต้องรู้จักใช้เงิน คุณอาจจะต้องมีสไตล์ลิสต์ เพราะคนที่ร่ำรวยส่วนใหญ่แล้วไม่มีเวลา การไปจ้างสไตล์ลิสต์อัพเดทเทรนด์ อัพเดทการแต่งตัวก็เป็นเรื่องที่ง่าย พูดเลยว่ายังไงเราก็ต้องมีสไตล์ ต้องเก๋ไว้ก่อน เผลอๆ ได้ลงนิตยสาร ก็ได้โฆษณาธุรกิจของคุณ ได้โปรโมทตัวเองอีกด้วย เป็นเหมือนอีกบันไดที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้เลยนะ แค่คุณมีสไตล์อะ”

160108-patuek-4

ยุคสมัยเปลี่ยนไป การเสพเรื่องราวของแฟชั่นก็เปลี่ยนไปด้วย “เมื่อก่อนจะดูอะไรทีต้องซื้อนิตยสารมาเปิดอ่าน แต่เดี๋ยวนี้เข้าเว็บไซต์ เปิด IG ตามคนนั้นคนนี้ก็สามารถอัพเดทเรื่องแฟชั่นได้แล้ว ถ้าอยากมีสไตล์ อยากปรับปรุงการแต่งตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อนิตยสารกันแล้วนะเด็กสมัยนี้ ใช้โซเชี่ยลให้มีประโยชน์ ดูแล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองเลย” ป๋าตึกกล่าว

คนรุ่นราวคราวเดียวกับป๋าตึก อาจจะไม่ได้มาแต่งตัวจัดจ้านอีกแล้ว อะไรที่เคยทำในสมัยวัยรุ่นก็เลิกทำกันไป “เพื่อนป๋านั่งส่องพระทั้งวัน แต่พูดเถอะแมร่งปลอมทั้งนั้น (หัวเราะ) ไม่มีใครมาบ้าแต่งตัวเหมือนป๋าแล้ว จริงๆ มันก็เหมือนเก็บกดนะ ตอนวัยรุ่นเราไม่มีเงินซื้อ ไม่ได้ใส่ เราก็มาปลดปล่อยเอาตอนนี้แหละ โชคดีที่ลูกป๋าก็ชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่นเหมือนกันด้วย เพราะป๋าก็ชอบแต่งตัวมาตั้งแต่เขาเกิดแล้ว”

“ป๋าอยากพูดเรื่องนี้ด้วย เด็กที่ใช้เงินเยอะๆ ดูแล้วเหมือนจะไร้สาระ จริงๆ แล้วไม่นะ เราเป็นพ่อแม่ เราก็ดูเขาอยู่ห่างๆ ว่าเขาใช้มากไปไหม บางครั้งการที่เขาเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้า เพื่อแต่งตัวเนี่ย มันก็สามารถหล่อหลอมเค้าแล้วก็สร้างรายได้ให้พวกเขาในอนาคต อย่างลูกป๋าเป็นต้น ใช้เงินซื้อเสื้อผ้าเยอะนะ แต่สุดท้ายเขามีสไตล์เป็นของตัวเองที่โดดเด่นมาก แล้วก็สามารถนำมาต่อยอดเป็นอาชีพได้ด้วย”

160108-patuek-3

การดูหนังส่งผลต่อสไตล์ที่โดดเด่นของป๋าตึก ซึ่งป๋าได้เล่าว่าการดูหนังเป็นอีกช่องทางสำคัญที่หล่อหลอมความเป็นตัวตนของป๋าตึกในทุกวันนี้ “ป๋าชอบดูหนัง ดูมาเยอะมากตั้งแต่เด็กๆ หนังกลางแปลง หรืออะไรก็ตามแต่ ทุกวันนี้ป๋ายังซื้อดีวีดีมาดูอยู่เลย ดูหนังพี่เจ้ยด้วย ดูไม่รู้เรื่องก็โทรถามลูก (หัวเราะ) ว่ามันแปลว่าอะไรนะฉากนี้ คือดูหมดเลยทุกแนว ป๋าชอบ สมัยเด็กๆ ป๋าดูหนังพวกยุค 50s ชอบ Marlon Brando มาก ป๋ารู้สึกว่าเขามีสไตล์ และก็โคตรเท่เลย เวลาดูนะ ป๋าจะดูเสื้อผ้าเขาด้วย พอแก่ตัวลงมีเงินก็ตามเก็บไอ้เสื้อผ้าวินเทจพวกนั้น จริงๆ มันเกินวินเทจไปแล้วนะ น่าจะเป็นแอนทีค(antique) สมัยนี้เค้าก็ฮิต workwear กัน ซึ่งมันก็เป็นอิทธิพลที่มาจากยุค 50s-60s หมดเลย มันเท่อะ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเท่อยู่”

ความวินเทจ และความแอนทีค มีเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดป๋าตึกได้อยู่เสมอ ป๋าเล่าว่ามันเหมือนปมด้อยของชีวิต “เรามีปมด้อยนะ น่าจะเพราะการดูหนังตั้งแต่เด็กๆ นี่แหละ แล้วเราก็เห็นว่ามันสวยนะของเก่าเนี่ย ของวินเทจมันดูดีมากเลย แต่ป๋าไม่ได้วินเทจทั้งหมด ข้างบนเป็น Vivienne Westwood ข้างล่างก็เป็น Carhartt อะไรแบบนี้ไป คือเวลาเห็นฝรั่งแต่งตัวสไตล์วินเทจแล้วมันแบบ เออ มันโคตรเท่เลย ก็เลยคิดว่ามันมาจากปมด้อยนี่แหละ อย่างเด็กๆ เค้าก็จะฮิต Big E กัน ป๋าทันไงก็จะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าลึกไปกว่านั้นเราก็ชอบมากเลย ป๋าเริ่มแต่งตัวมาตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนามน่ะนะ ตามไปซื้อของในค่ายทหารเลยอะ ของที่ป๋าซื้อมันก็เลยแอนทีคมากหน่อย”

160113-patuek-5

ถามถึงการช้อปปิ้งเสื้อผ้าของป๋า ซึ่งป๋าเล่าว่ายังเลิกซื้อไม่ได้สักที “ไปเมืองนอกทีก็ต้องหมดเป็นแสนนะ ก็ยังเลิกมันไม่ได้เลย ไปสวนก็มีร้านประจำ โซนของเก่าโครงการ 5 ก็มีหลายร้าน เค้าก็จะรู้ใจ มีไซส์ใหญ่ ไซส์นี้เหมาะกับป๋า เค้าก็จะเก็บไว้ให้ จริงๆ ป๋าก็ช่วยเค้าซื้อนะ พูดตรงๆ เลยคือมันต้องช่วยกัน สนับสนุนกันเหมือนลูกเหมือนหลานไป”

“ป๋าคิดว่าการแต่งตัวก็เหมือนคนรวยๆ กินข้าวมื้อเป็นแสน รสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน เราก็ไม่ว่าเค้า ป๋าเคยไปญี่ปุ่นกินกัน 3 คน หมดไป 4 แสนกว่าบาท เช้าก็ปล่อยมันออกมาไม่มีอะไรเหลือเลย (หัวเราะ) คืออันนี้มันก็แล้วแต่ชอบนะลูก ป๋าไม่ได้ว่าอะไร อยากมีสไตล์ลงทุนกับเสื้อผ้า อย่าไปคิดมาก เทียบซะว่ามันก็เหมือนอาหาร เราลงทุนกับมัน มันก็ทำให้ตัวเราดูดีนะ”

ป๋าเล่าว่าความมีสไตล์สำหรับผู้ชายแล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองดูหนุ่มตลอดเวลา หรือไปสตาร์ฟหน้าให้ดูเด็กตลอดเวลาก็ได้ “คุณไม่จำเป็นต้องดูเด็กตลอดก็ได้ ก็แต่งตัวไปตามวัย ให้สมกับวัยดีที่สุด หน้าเนี่ยเป็นผู้ชายนะ เราจำเป็นมากไหมที่จะต้องไปทำให้มันเยอะแยะ ยิ่งทำมันยิ่งดูไม่แมนนะ ลองดู rolling stones สิ 80 เค้าก็ทำตัวเองให้เป็นแบบนั้น มีริ้วรอยไปตามวัย ป๋าว่าผู้ชายห้ามไปทำหน้าให้หนุ่มเลย ไม่งั้นมันยิ่งดูไม่แมน”

160113-patuek-6

“ป๋าคิดว่าเราต้องสนับสนุนเรื่องการแต่งตัว เรื่องแฟชั่นในสังคมนะ คือยังไงเราก็ควรมีความเก๋ในตัวเองบ้าง ป๋าสังเกตมานานแล้วนะ ดาราเก่าๆ ในบ้านเรา หลายคนดับเพราะไม่แต่งตัว ไม่คงความเท่ ความเก๋ของตัวเองไว้ นานวันไปมันก็มีเด็กรุ่นใหม่มาแทนที่ ถ้ามีสไตล์คีพลุคสักหน่อยนะ พวกเขาสามารถหากินจากตรงนี้ได้อีกเยอะเลย เชื่อสิ”

“การแต่งตัวนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างความมีสไตล์ให้กับตัวเราเองแล้ว ยังเป็นการลดปมด้อย และปกปิดในส่วนไม่น่าดูของตัวเราเองด้วย อย่างมีคนมาถามว่าทำไมป๋าชอบใส่หมวก ป๋าก็บอกเลยว่าผมป๋ามันน้อยแล้ว ให้ป๋าโชว์ป๋าก็รู้สึกไม่โอเคสิวะ ก่อนออกจากบ้านขาดไม่ได้เลยคือหมวกกับแว่น นี่คือสองสิ่งที่อยู่กับป๋าเสมอในทุกลุค”

160113-patuek-7

เราสังเกตเห็นว่าเด็กสมัยนี้อยากเป็น Style Icon กันเยอะมาก ซึ่งอาจจะต้องลงทุนในเรื่องการแต่งตัวกันมากหน่อย ป๋าตึกมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน “ก็เป็นเรื่องที่ดี คือมันก็สามารถต่อยอดจนเป็นอาชีพได้นะ ดูจากเด็กหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จนะ ยิ่งเสื้อผ้าด้วยแล้วมันเป็นปัจจัยสี่ อย่างป๋าก็สนับสนุนลูกป๋า มองว่ามันก็เหมือนกับความชอบอื่นๆ แล้วก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ดูกระจกทุกวัน เราก็จะเห็นทิศทางของตัวเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น แรกๆ อาจจะเป๋ๆ ไปบ้าง แต่วันนึงเค้าก็จะรู้ว่าชุดไหนเหมาะ ชุดไหนไม่ได้ มันคือการเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ซึ่งป๋าเองก็ยังเรียนรู้ และสนุกกับการแต่งตัวไปจนวันตายแหละ เผลอๆ ก็ยาวไปถึงชาติหน้า (หัวเราะ)” ป๋าเล่าไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่พวกเรายังต้องหัวเราะตามกับความมีอารมณ์ขันของป๋าตึก

160113-patuek-8

ก่อนจากกันเราแอบแซวป๋าเล็กน้อยว่าวันนี้ป๋าแต่งตัวซอฟมาก ดูไม่จัดจ้านเหมือนปกติ ป๋าเล่าว่าป๋าใส่ชุดตามวัน แก่แล้วก็ยึดเรื่องโฉลกสีนิดหน่อย วันนี้จึงจำเป็นที่ต้องใส่สีขาว ป๋าก็เลยต้องแต่งตัวซอฟลง เป็นเหตุผลที่วัยรุ่นอย่างเราๆ เห็นแล้วก็อยากนำไปปรับใช้อยู่ไม่น้อยทีเดียว เผื่อจะดูดีมีสไตล์อย่างป๋าตึกบ้าง

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line