สีสันที่แตกต่าง นอกจากจะสามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย มันยังสามารถสะท้อนตัวตนของใครสักคนออกมาผ่านสีที่โดดเด่นได้เช่นกัน และสกู้ตเตอร์ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันอย่าง VESPA ก็พร้อมที่จะบ่งบอกเรื่องราว รวมถึงสไตล์ของผู้ที่เป็นเจ้าของออกมาได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN x VESPA จะพาทุกคนไปพบกับตัวตนของ ‘ปอง – อภิชา สุขสังข์’ ชายหนุ่มเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ที่มีสไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความชื่นชอบในเสียงเพลงแนว Ska, Punk Rock, Pop Punk รวมถึงการได้ดูภาพยนตร์ Quadrophenia ทำให้เริ่มนิยมชมชอบใน Culture Mods แล้วศึกษาต่อเนื่องไปถึงเรื่องราวของ Spirit Of 69 จนทำให้จิตวิญญาณขบถชัดเจนในตัวตนนั้นถูกหล่อหลอมเอาไว้ในตัวผู้ชายคนนี้ และหากจะให้แทนตัวเองด้วยสีสักหนึ่งสี เขาคนนี้ได้เลือกสีเหลือง YELLOW SOLE ของ VESPA PRIMAVERA S 150 i-Get ABS TOURING เป็นสิ่งแทนตัว เพราะนอกจากจะสื่อถึงความสดใสที่ไม่ยึดติดต่อกฎเกณฑ์ใด ๆ สีเหลืองในมุมมองของผู้ชายคนนี้ยังเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ที่สาดส่องลงมาเพื่อให้ชีวิตมีพลังเดินหน้าต่อไป ส่วนความหลงใหลใน VESPA ของ ‘ปอง
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดีกับชื่อเสียงของ ALBA เรือนเวลาดีไซน์สวย ที่การันตีคุณภาพโดย SEIKO แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น กับจุดเด่นเรื่องคุณภาพการผลิตที่ดีในราคาจับต้องได้ จนถือเป็นแบรนด์ในดวงใจของผู้คนซึ่งสนุกกับการแต่งตัวหลากสไตล์ ที่สามารถหามาสวมใส่อัพลุคเท่ได้ไม่รู้จบ ยิ่งในคอลเลกชั่นหลัง ๆ ของ ALBA ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “The Reflection Of Japan” ซึ่งชูจุดแข็งงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product แถมยังตอกย้ำสไตล์ความเป็นเมืองแฟชั่นของญี่ปุ่นออกมาได้อย่างชัดเจน ด้วยการเน้นไปที่รูปลักษณ์ของเรือนเวลา Sport Style ทำให้แต่ละคอลเลกชั่นของ ALBA ที่เปิดตัวออกมาล้วนแล้วแต่เป็นไอเทมที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ Mix & Match สไตล์สนุก ได้ในทุกโอกาส และต้องบอกว่าล่าสุดจิตวิญญาณสปอร์ตในนาฬิกา ALBA ได้ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งในแบบฉบับ Active เต็มขั้น กับ ALBA “SPORTIVE” Design Collection ที่มาพร้อมกับเรือนเวลา 4 สี 4 สไตล์ ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดยแต่ละรุ่นนอกจากจะมาพร้อมตัวเรือนและสายแบบสเตนเลสสตีลแล้ว ยังมีสายซิลิโคนแบบ Accordion สีเดียวกับตัวเรือนมาให้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายอย่างเรา ๆ กับเรื่องการบำรุงผิวนั้นเปรียบเสมือนแม่เหล็กคนละขั้ว เพราะคุณผู้ชายทั้งหลายมักจะเน้นความง่ายเข้าว่า ทำให้มองข้ามความสำคัญในการดูแลตัวเองอย่างการล้างหน้า และการบำรุงผิว จึงมักจะทำกันแบบลวก ๆ ไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนก็เหมือนกัน และส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นหยิบยืมของแฟนสาวมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเจลล้างหน้า หรือเซรั่มบำรุงผิวใด ๆ ขอแค่ได้ทาถูลงไปให้ทั่วหน้าก็จบเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วเรื่องมันอาจไม่ได้จบอย่างที่คิด และยังตามมาด้วยภาคต่อชวนปวดหัวกับปัญหาผิวหน้าที่สั่งสมมายาวนานจากการใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม เพราะต้องเคลียร์กันก่อนว่าการดูแลผิวหน้าผู้ชายนั้นไม่ใช่อะไรก็ได้ ด้วยฮอร์โมน และ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันกับคุณผู้หญิง ทำให้สภาพผิว และปัญหาผิวที่ผู้ชายต้องพบเจอนั้นก็ต่างกันไปด้วย เพราะโดยปกติผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีผิวมัน รูขุมขนกว้าง ทำให้เสี่ยงเป็นสิว และมีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย ไหนจะการระคายเคืองผิวจากการโกนหนวดแทบทุกวัน รวมถึงปัญหาร่องรอยหมองคล้ำจากการใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ทั้งการทำงาน ปาร์ตี้ ออกกำลัง ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่เสี่ยงต่อการทำร้ายผิวหน้าที่ยากจะหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผิวถูกกระตุ้นจากแสงรังสียูวีในแสงแดด ตลอดจนมลภาวะต่าง ๆ รอบตัว แถมด้วยความเครียด, พฤติกรรมการรับประทานน้ําตาลในปริมาณที่มาก, การพักผ่อนน้อย มันจะส่งผลให้ MMPs (Metrix Metalloproteinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ในร่างกายที่เป็นตัวการร้ายทำลายผิวนั้นเพิ่มจำนวนขึ้น พร้อมตรงเข้าทำลายย่อยสลาย Collagen / Elastin Fiber และ Glycosaminoglycan- Hyaluronic Acid
ว่ากันว่า ‘สีสัน’ คือสิ่งที่บ่งบอกตัวตน / ความหลงใหล / สไตล์ / รวมไปถึงบุคลิกของแต่ละคน และสกู้ตเตอร์ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันอย่าง VESPA ก็พร้อมที่จะสะท้อนตัวตนและเรื่องราวในทุกแง่มุมของผู้เป็นเจ้าของเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN x VESPA จะพาทุกคนไปพบกับ ‘เต้ – ศรัณย์ ทับทิม’ ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา และผู้ก่อตั้ง Vespa Jersey Club ที่รวมเอารูปทรง สไตล์ สีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเสื้อบอล มาผสานกับความคลาสสิกของ VESPA แล้วสะท้อนออกมาผ่านกลุ่มเพื่อนที่ใส่เสื้อบอลขี่ VESPA ไปไหนไปกันได้อย่างสนุกสนานน่าติดตาม โดยจุดเริ่มต้นของการจับเอาเสื้อบอลมาใส่ขี่ VESPA นั้นมาจากสไตล์ส่วนตัวของผู้ชายคนนี้ ที่สนุกสนานไปกับการแต่งตัวที่มีสีสัน โดยไม่สนเซฟโซนว่าจะต้องคุมโทนด้วยสีขาว-ดำเสมอไป เพราะลึก ๆ รู้สึกว่าสีสันมันสามารถสะท้อนตัวตนที่แตกต่างของแต่ละคนได้ อีกทั้งยังเพลิดเพลินกับการนำเอาสไตล์วินเทจ / สตรีท และ สปอร์ต มา MIX & MATCH กัน ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกอย่างสามารถผสมผสานกันได้หมด รวมถึงการตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมสไตล์ที่ชอบไม่ได้ถูกนำเสนอออกไปจนกลายมาเป็นแรงผลักดันในการตัดสินใจรวมกลุ่มเพื่อนมาใส่เสื้อบอลวินเทจ พร้อมออกท่องเที่ยวไปกับ
ในวันครบรอบ 60 ปี การเดินทางของยานอวกาศ Aurora 7 (ออโรร่า เซเว่น) นาฬิกาในตำนานที่มาพร้อมกับหน้าปัดบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ที่ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงภารกิจสำคัญในประวัติศาสตร์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Breitling (ไบร์ทลิ่ง)ได้ นำเสนอนาฬิกา Cosmonaute (คอสโมนอต) รุ่นดั้งเดิม ที่เคยเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1962 และได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาฬิกาเรือนนี้ ในยุค 1960s นาฬิกา Navitimer (เนวิไทเมอร์) ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) คือนาฬิกาสำหรับนักบินแบบไร้ที่ติแต่ในขณะแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการเดินทางและสำรวจอวกาศ และนั่นหมายความว่าโครงการสำรวจอวกาศอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิกาต่างพากันแข่งขัน เพื่อจะเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเรือนแรกบนข้อมือของนักบินอวกาศ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับการบินของ Breitling ทางให้แบรนด์กลายเป็นผู้นำของกลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1962 Breitling ได้อ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่า “นาฬิกาข้อมือจากสวิสเรือนแรกในอวกาศ” หลังจากที่นักบินอวกาศ ScottCarpenter โคจรรอบโลก 3 ครั้งในขณะที่สวมนาฬิกา
เชื่อว่ามีแฟน ๆ ของ TAG Heuer Monaco อยู่ไม่น้อย แต่ถึงจะไม่ใช่แฟน ก็น่าจะต้องประทับใจในเรือนเวลารุ่นพิเศษล่าสุด Monaco Special Edition for the Fomula 1 Monaco Grand Prix “Dark Lord” ที่สุดแห่ง chronograph ระดับไอคอนที่เคยสร้างตำนานบนข้อมือของ Steve McQueen ในปี 1971 ดีไซน์สุดเท่ขรึมแบบ all-black-evertyhing เคสทรง classic square ขนาด 39mm ผลิตจาก grade 2 titanium สีดำจาการเคลือบ DLC-coated กลไก Calibre Heuer 02 Automatic มาพร้อม monochromatic dial design จากยุค ’70s หน้าปัดผ่านการปรับรายละเอียดให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เช่นการขัดด้านหรือการเพิ่ม grain
เรือนเวลาสำหรับนักลงทุน Crypto ที่สะท้อนความสำเร็จในรูปแบบศิลปะบนข้อมือ Jacob & Co. Astronomia Solar Bitcoin นาฬิการุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ JCAM19 ผ่านการสร้างสรรค์หน้าปัดเพื่อ Bitcoin โดยเฉพาะ ตัวเรือนขนาด 44mm เคลือบสีดำด้านสุดเท่ Full black DLC coating บน titanium frame งานศิลป์บนหน้าปัด three-armed platform ออกแบบเพื่อเชิดชูความแข็งแกร่งของ Bitcoin ผู้นำแห่ง cryptocurrency ด้วย currency symbol ขนาดใหญ่สามารถหมุนได้ จรวดสีดำบ่งบอกถึงการ “to the moon” โดย Moon ในที่นี้คือเพชรที่ผลิตจาก 1Ct spherical Jacob cut diamond อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ Yellow sapphire ด้านบนมี One-minute flying tourbillon แบบ
ในปี 2023 นี้ Levi’s® (ลีวายส์) ครบรอบ 150 ปี Levi’s® 501 ยีนส์ไอคอนระดับโลก ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หนึ่งในไอเท็มสไตล์ที่คงทนที่สุดในโลก ที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ยีนส์ยุค ‘90s ที่ทุกคนต้องมีใส่ ด้วยสไตล์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระดุมหมุดตอก button fly, ทรงขาตรง และ แถบสีแดงที่กระเป๋าด้านหลังขวา เป็นพิมพ์เขียวพื้นฐานงานออกแบบของ 501® ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลา วัฒนธรรม และ กระแสในแต่ละยุคสมัย เพื่อเป็นการฉลองอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ของเดนิมไอคอนระดับโลกอย่าง 501® นี้ Levi’s® ได้คัดเลือกตัวแทนบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ต่อ Levi’s® 5 คน มาร่วมทำแคมเปญ 501®: The Number That Changed Everything ผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการด้านต่าง ๆ และเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณต่อ 501® อย่างแท้จริง จากจุดเริ่มต้นที่ได้สัมผัส
เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์เรือนเวลาเจ้าของโลโก้นาฬิกาทรายติดปีกอย่าง Longines เชื่อว่าสิ่งแรกที่ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของเครื่องบอกเวลานึกถึง คงหนีไม่พ้นเรื่องราวเล่าขานถึงการเป็นอุปกรณ์บอกเวลาสุดแม่นยำที่เหล่านักบุกเบิกในตำนานระดับโลกต่างเลือกสวมใส่ระหว่างทำภารกิจ และหนึ่งในทริปสุดระห่ำของนักบุกเบิกที่ถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ไฟแห่งความกล้าในการท้าทายอะไรใหม่ ๆ นั้นลุกโชนขึ้นในใจใครหลายคน ต้องย้อนไปในวันที่ 5 ตุลาคม 1931 กับภารกิจของ Clyde Pangborn และ Hugh Herndon, Jr. สองนักบินชาวอเมริกันผู้กล้าหาญ ซึ่งได้พิชิตภารกิจการบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยระยะทาง 5,500 ไมล์ โดยไม่หยุดพักได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยเบื้องหลังความสำเร็จของการผจญภัยครั้งนั้น นอกจากความบ้า และความมุ่งมั่นของ Clyde Pangborn และ Hugh Herndon, Jr. ยังมีอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญอย่างนาฬิกา Longines ที่ช่วยบอกเวลาให้กับสองนักบินในไฟลท์ประวัติศาสต์ได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ ทำให้เมื่อจบภารกิจนี้ทาง Hugh Herndon, Jr. ถึงกับเขียนจดหมายแสดงความขอบคุณไปยัง Wittnauer ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา Longines ในขณะนั้น ว่านาฬิกาของ Longines นั้นทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมระหว่างที่พวกเขากำลังบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ในช่วงสุดท้ายของการบินที่ทั้งคู่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวจัดจนน้ำดื่มในกระติกของพวกเขากลายเป็นน้ำแข็ง แต่ถึงกระนั้นนาฬิกา Longines ก็ยังคงทำหน้าที่บอกเวลาอย่างแม่นยำได้ไร้ที่ติ พร้อมทิ้งท้ายใจความในจดหมายว่า “คุณคงรู้ดีว่าเวลาที่ถูกต้องแม่นยำคือหัวใจสำคัญของการบินที่ดี” ตอกย้ำให้เห็นบทพิสูจน์ถึงความปลอดภัยและแม่นยำที่เหล่านักบุกเบิกยุคก่อนต่างให้ความไว้วางใจ จวบจนถึงปัจจุบันเรื่องราวของวีรกรรมจากเหล่าคนกล้ามากมาย ได้กลายเป็นมรดกตกทอดอันยาวนานและแสนล้ำค่าของแบรนด์
ของขายดี ต้องมีเปิดตัวเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนาฬิการุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจาก Star Wars ดูจะเข้าทางแบรนด์ Citizen มากเป็นพิเศษ ปีที่มีทำ Citizen And-Digi Temp Star Wars ออกมา ซึ่งก็มีเสียงตอบรับที่ดี สาวก Star Wars ซื้อเก็บเหมากันจนเกลี้ยงแผง มาถึง Collection ล่าสุด Citizen Star Wars Record Label Tsuno Chrono collection ที่มีด้วยกัน 4 รุ่น 4 ลาย ดีไซน์โดยใจแฟน Star Wars ประกอบด้วยสองโรบอทฝ่ายดีสุดคลาสสิค R2-D2 และ C-3PO รวมถึงอีกสองตัวร้ายฝ่ายโหด Sith Lords Darth Vader และ Darth Maul บาลานซ์ทั้งสองฝ่ายในโลก Star Wars