‘เมื่อ Facebook กินเวลาชีวิต’ ฉุดความสุขให้น้อยลงไปโดยไม่รู้ตัว

การทำอะไรสักอย่างที่มากเกินไป มักส่งผลไม่ค่อยดีให้กับผู้กระทำมากสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้ชีวิต หรือความสัมพันธ์ เพราะอย่างนั้นเรามักจะได้ยินวลีคุ้นหูอยู่บ่อย ๆ ว่า Work-Life Balance ที่แนะนำการใช้ชีวิตให้มีความสมดุลกัน ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ เพื่อคอยเตือนใจให้เรารู้จักปรับตัวเองอยู่เสมอ

นอกจากการทำงานและการใช้ชีวิตแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงในสังคมปัจจุบัน นั่นก็คือเรื่องของการเสพติดโซเชียลของคนยุคนี้

อาจเพราะข้อมูลในปัจจุบันมีความเร็วและการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นกว่าในอดีต จึงทำให้คนในปัจจุบันเสพติดข่าวและความรวดเร็วของข้อมูล ตลอดเวลามีงานวิจัยจำนวนไม่น้อยที่ระบุว่าการเล่นโซเซียลที่มากเกินไปสร้างผลกระทบให้แก่ชีวิต และนี่ก็เป็นอีกงานวิจัยที่ UNLOCKMEN นำมายืนยันให้อีกเสียง เพื่อให้ทุกคนได้เริ่มต้นสำรวจและถามตัวเองดูว่าทุกวันนี้เราเล่นมากเกินไปจนความสุขน้อยลงไปหรือเปล่า?

งานวิจัยที่ว่านี้ มาจากมหาวิทยาลัย Yale และมหาวิทยาลัย California ที่เกิดขึ้นจากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน Facebook กว่า 5,208 คน ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยขอความร่วมมือกับผู้ที่เข้าร่วม ให้แชร์ข้อมูลกิจกรรมบน Facebook ตั้งแต่ข้อมูลการกดไลค์ กดแชร์ สเตตัสของตน และความรู้สึกด้านสภาพจิตใจ แก่เหล่านักวิจัยเป็นระยะ ๆ

ผลจากการศึกษาพบว่าการใช้ Facebook เกินกว่ามาตรฐานเฉลี่ย 5-8% จะทำให้ความสุขและความพึงพอใจในตัวเองของกลุ่มทดลองลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแปลได้ว่า “คนที่เล่น Facebook มากเกินไปจะมีความสุขน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยเล่น” 

และจากการศึกษาตัวเดียวกันนี้ ยังพบอีกว่าคนที่เศร้า ไม่ว่าจะด้านจิตใจหรือด้านความคิดมักจะใช้ Facebook บ่อยกว่าคนทั่วไป และอีกกรณีคืออาการซึมเศร้าในตัวผู้ใช้งาน มักจะเริ่มและเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมที่เห็นทางโซเชียลมีเดียของพวกเขานั่นเอง

นอกจากนี้  Nicholas Christakis ผู้อำนวยการ Human Nature Lab จากมหาวิทยาลัยเยลยังได้เสริมอีกด้วยว่า กุญแจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้กับชีวิตและสุขภาพจิต คือการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ๆ และกับคนรู้จักแบบตัวต่อตัว มากกว่าที่จะปฏิสัมพันธ์กันแค่บน Facebook

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่ย้ำนักย้ำหนาว่าการทำอะไรต้องเป็นไปอย่างพอดี การหมกอยู่หน้าคอมหรือเลื่อนนิ้วไปมาอยู่บนสมาร์ทโฟนเพื่อแค่ชมรูปความสำเร็จของคนอื่น มันจะดีกว่าการที่เราลุกออกไปลงมือทำด้วยตัวเองได้อย่างไร เพราะฉะนั้นการเล่น Facebook ควรเป็นการเล่นเพื่อฆ่าเวลา เสพข่าวที่พอดี อย่าให้มันเป็นส่วนเกินที่มากจนกินเวลาชีวิตของเราจะดีกว่า

Source