REAL OAKEN WOOD Drift Trike สามล้อซิ่งของเจ้าพ่อดริฟท์สุดเจ๋งที่ทำจาก “ไม้โอ๊ค”

หลายๆ คนคงเคยเห็นยานพาหนะประหลาดที่มี 3 ล้อ แถมยังเตี้ยละเลียดพื้นที่มีชื่อว่า Drift Trike กันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไง และมันมีไว้ทำอะไร? ไม่ต้องสงสัย เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟังแบบคร่าวๆ ละกันนะครับ สำหรับ Drift Trike จริงๆ แล้วมันก็คือยานพาหนะที่มีรูปร่างคล้ายๆ กับจักรยาน 3 ล้อ ที่เราขับเล่นกันตอนยังเป็นเด็กน้อย คือมี 1 ล้อหน้า และ 2 ล้อ ในด้านหลัง แต่มันเป็นจักรยาน 3 ล้อ ที่เรียกได้ว่าโคตรโหลด โคตรเตี้ย ซึ่งถ้าใครสงสัยว่า Drift Trike มีไว้ทำอะไร? เมื่อคุณอ่านบทความนี้จบเมื่อไหร่ คุณจะหายสงสัยกันทันที เพราะวันนี้เราจะเล่าถึงความเป็นมาคร่าวๆ ของ Drift Trike กัน รวมถึง Drift Trike คันแรกของโลกที่ทำจากไม้โอ๊คทั้งคัน ที่เรานำมาให้คุณได้ชมกันด้วย

Drift Trike สามล้อที่โหลดเตี้ยสุดๆ นี้ จริงๆ แล้วมันมีสาเหตุที่ต้องโหลดเตี้ยจนแทบจะตูดขูดพื้นก็เพราะว่า วัตถุประสงค์จริงๆ ของการสร้าง Drift Trike ขึ้นมาก็คือ เอาไว้ Drift ใช่แล้วครับ เอามา Drift เหมือนกับการดริฟท์ของรถยนต์เปี๊ยบ ดังนั้นจึงต้องการสร้างตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำมากๆ จะได้ไม่เกิดการพลิกคว่ำได้ง่าย ส่วนล้อหลังที่ต้องมี 2 ล้อ ก็เพราะนอกจากใช้ช่วยในการทรงตัวแล้ว สังเกตุได้ว่าฐานล้อจะค่อนข้างกว้างมากทีเดียว นั่นก็เพื่อไม่ให้รถพลิกคว่ำได้ง่าย จนทำให้ผู้ขับได้รับบาดเจ็บจากการคว่ำ หรือถูกเหวี่ยงกระเด็นออกไปนั่นเอง

เชื่อว่าหลายๆ คนคงพอจะนึกภาพออกกันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ สำหรับความมันส์ที่คุณจะได้รับจาก Drift Trike แต่นอกจากความมันส์แล้ว การตกแต่ง Drift Trike ของตัวเองให้เป็นไปตามแบบที่เราต้องการทั้ง สี รูปร่าง หน้าตา และรายละเอียดยิบย่อยอีกเยอะแยะ ก็ยังทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับมันได้ไม่น้อย เช่นเดียวกับ นาย Andre ที่เป็นนักเล่น Drift Trike ที่มีความหลงไหลในกีฬาชนิดนี้แบบเข้าเส้น จึงเกิดไอเดียที่จะสร้าง Drift Trike ที่ไม่มีใครเหมือนให้กับตัวเองซักคัน

โดยนาย Andre มีแนวคิดการออกแบบที่ล้ำสุดๆ ไม่รู้ว่าผุดไอเดียนี้ขึ้นมาได้ยังไง แต่ว่ามันก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่สมบูรณ์แบบ และยังสวยสุดๆ อีกด้วย เนื่องจากเค้าเป็นคนที่รักธรรมชาติมากๆ เค้าจึงตัดสินใจที่จะใช้ “ไม้” เป็นวัสดุในการสร้าง Drift Trike สุดเจ๋งของเค้าขึ้นมา โดยเค้าเลือกที่จะใช้ไม้โอ๊ค เนื่องจากเป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งให้ความแข็งแรง และทนทาน นำไปตากให้ไม้แห้งสนิทเป็นเวลา 2 เดือน ก่อนที่จะลงมือแปรรูปไม้โอ๊คทั้งหมดที่เตรียมมา

หลังจากนั้น เค้ายังต้องทำการดัดแปลงชิ้นส่วนโลหะต่างๆ อย่าง แกนล้อ ที่เค้าลงทุนสละเวลาเพื่อการคิดค้นแบบของแกนล้อนี้ขึ้นใหม่ด้วยตัวเองอยู่นานมากทีเดียว แล้วจึงกลับมาทำการ เลื่อย และเจาะรูป ชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้พร้อมที่จะประกอบเข้ากับชิ้นส่วนโลหะที่ทำเสร็จก่อนหน้านี้

แต่ก่อนที่จะประกอบกันได้ ต้องมีการเก็บงานให้เนี๊ยบในทุกซอกทุกมุม แต่เค้ามีไอเดียที่ต้องการให้มันดูเก่าๆ เพื่อความเก๋าซักนิด เค้าจึงทำการเคลือบไม้ทั้งหมดด้วยน้ำมันไม้โอ๊คเพื่อความเงางาม และง่ายต่อการดูแลรักษาเมื่อเกิดรอยขีดข่วน ส่วนในจุดที่เป็นโลหะนั้น ก็มีการนำไปทำสี และทำการกัดสีออกจนเป็นคราบเหมือนสนิมสีเขียว ที่เกิดขึ้นบนเหล็กที่ผ่านการใช้งานมาแล้วเป็นเวลานานอีกด้วย