ชีวิตโคตรพลิกผัน ‘GEORGE WEAH’ จากเด็กยากจน นักเตะ BALLON D’OR และเส้นทางประธานาธิบดี LIBERIA

การก้าวขึ้นมาในตำแหน่งผู้นำประเทศ หรือประธานาธิบดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่นักการเมืองผู้ที่คุ้นเคยกับเส้นทางนี้ ยังต้องทำทุกวิถีทางทั้งขาวทั้งดำ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการบริหารประเทศแบบนั้นได้ และเมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องน่าสนใจ ไม่ใช่ประเทศไทยกับสแตนดี้นายก หรือคำขวัญวันเด็ก แต่เรากำลังหมายถึงประเทศ Liberia ที่ได้ทำการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดออกมา ผลปรากฏว่าผู้ที่ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ หาใช่นักการเมืองไม่ แต่คืออดีตนักฟุตอาชีพชื่อดัง ที่ผลักดันชีวิตตัวเองมาจากครอบครัวที่ยากจน นามของเค้านั้นคือ ‘George Weah’

ชีวิตที่พลิกผันได้ขนาดนี้ย่อมน่าสนใจ ไปทำความรู้จักเรื่องราวชีวิตของชายคนนี้กันดีกว่า ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องผ่านมาบ้างระหว่างทาง กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้

จุดเริ่มต้น


 George Weah เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1966 ในย่านอาศัยเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Clara Town, Monrovia, Liberia ตามประสาของเด็กที่ยากจนส่วนใหญ่ในประเทศโซนทวีปแอฟริกา การหาความสุขใส่ตัวที่เขาพอจะทำได้ ก็คือการเล่นฟุตบอลข้างถนนกับเพื่อน ๆ นั่นเอง

ชีวิตช่วงแรกของ Weah เขาคิดจะใช้การศึกษาเป็นทางออกจากความยากจน แต่ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ เขาก็ได้อาศัยความสามารถในการเล่นฟุตบอล ขอทุนเพื่อศึกษาต่อ จนได้เริ่มเล่นกับทีมต่าง ๆ ในท้องถิ่น และมาลงท้ายกับ ทีม Invincible Eleven และที่นี่เองที่ Weah ได้ฉายแววโดดเด่นในการเล่นฟุตบอลออกมา จนถูกเรียกให้ติดทีมชาติไลบีเรียในเวลาไม่นาน

‘ติดทีมชาติ’ คำที่ฟังดูเท่ดี แต่ใครจะรู้ว่าระหว่างนั้น Weah ต้องควบอาชีพนักฟุตบอล และช่างซ่อมโทรศัพท์พร้อมกัน เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพไปด้วย และในที่สุด ทางแยกของชีวิตก็มีเข้ามาให้ Weah เลือก ระหว่างการเรียนและฟุตบอล ซึ่งแน่นอนว่า Weah เลือกฟุตบอล

หลังจากที่พาทีมประสบความสำเร็จมากมายในลีกประเทศ ทำให้ดูเหมือนว่าลีกบ้านเกิดจะดูเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับระดับฝีเท้าที่เขามีอยู่
 ในปี 1988 Weah ได้รับข้อเสนอจาก Tonnerre Yaounde ทีมในประเทศแคเมอรูน และเล่นอยู่ที่นั้นเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่ Monaco สโมสรชั้นนำในประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ Arsene Wenger จะซื้อตัวไปร่วมทีม

และ Weah ก็ไม่ทำให้ Monaco และ Wenger ผิดหวัง ระหว่างที่ค้าแข้งอยู่กับ Monaco เขาซัดไปทั้งหมด 47 ประตูจากการลงเล่น 107 นัด และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกาในปี 1989 ไปครอง ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ Paris Saint-Germain ทีมร่วมลีกฝรั่งเศสอีก 3 ฤดูกาล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดฝรั่งเศสไป 1 สมัย จนสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปในเวลานั้นอย่าง AC Milan ตัดสินใจดึงตัวไปร่วมทีม และที่นี่เอง คือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของอาชีพนักฟุตบอลของ Weah

ระยะเวลาตลอด 5 ปีที่ AC Milan, Weah ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำไปทั้งหมด 58 ประตู จากการลงเล่น 149 นัด พาทีมคว้าแชมป์ Itary Serie A 2 สมัย, Coppa Italia 1 สมัย, และ Supercoppa italiana 2 สมัย และจากความสำเร็จของเขากับทั้ง Monaco, Paris Saint Germain, และ AC Milan ทั้งหมดนี้เอง ในปี 1995 เขาก็ได้รับเลือกให้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี FIFA World Player of the Year และ Ballon d’Or  ซึ่งถือเป็นนักเตะสัญชาติแอฟริกาคนแรกและคนเดียว ที่เคยได้รับรางวัลนี้ Weah จึงถือเป็นนักเตะที่โด่งดังมากในแอฟริกา ต่อมาเขาได้ย้ายไปเล่นในลีกอังกฤษกับ Chelsea และ Manchester City ก่อนที่จะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2003 เป็นอันจบชีวิตนักกีฬาของเขาไปอย่างสมบูรณ์ในที่สุด

จากฟุตบอลสู่การเมือง ก่อนที่ Weah จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยล่าสุดไป เขาต้องใช้เวลาในเส้นทางการเมืองไม่น้อยทีเดียว ก่อนหน้านี้ในปี 2005 Weah เคยลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีมาก่อน โดยคู่แข่งคือ Ellen Johnson Sirleaf  ผู้นำหญิงแกร่งแห่งไลบีเรีย สตรีคนแรกในทวีปแอฟริกา ในตอนนั้น Weah โดยเอาปมด้อยในอดีตมาโจมตีอย่างหนักว่า “เป็นคนไร้การศึกษา เรียนก็ไม่จบ แล้วจะเอาอะไรมาพัฒนาประเทศ” ในขณะที่ Sirleaf จบถึง Harvard ยังไม่พอ Weah ยังโดนหาว่าไร้ประสบการณ์ด้านการเมือง ส่วน Sirleaf ประสบการณ์ยาวเป็นหางว่าว เล่นเอา Weah ถึงกับไปไม่ถูก จึงแพ้การเลือกตั้งในครั้งนั้นไป เพราะประชาชนไม่แน่ใจว่าจะสามารถพาประเทศไปรอดหรือไม่

แต่การผิดพลาดในตอนนั้น ไม่ได้ทำให้ Weah ยอมแพ้ เขาก็ใช้เวลา 12 ปี ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาของ Liberia และตัดสินใจลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มีประชาชนจำนวนมากคอยหนุนหลังอย่างเต็มที่ ทำให้ได้รับชัยชนะไปในที่สุด

ในอดีต เรื่องเก่า ๆ อาจจะทำให้พลาดตำแหน่งไป แต่ก็ไม่ใช่จะแย่ซะทีเดียว เพราะชัยชนะครั้งล่าสุดของ Weah ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายแก้ปัญหาความยากจน ที่ประชาชน Liberia กำลังเผชิญอยู่ และการเข้าหา
กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในประชาธิปไตย รวมไปถึงกิจกรรมด้านดีต่าง ๆ ในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือผู้อพยพ, การช่วยเหลือโรงพยาบาลและผู้คนที่อดอยาก รวมไปถึงการยอมหักรายได้ตัวเองเพื่อจ่ายให้กับเพื่อนนักเตะร่วมชาติ ในช่วงที่ทีมกำลังประสบปัญหา ทั้งหมดนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Weah ก้าวมาจนถึงจุดนี้ได้

แน่นอนว่าจากนี้ไป George Weah ต้องเจอกับความท้าทายรูปแบบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม มีความคาดหวังมากมาย และการจับตามองจากทั้งในและนอกประเทศ ว่า Weah จะทำหน้าที่ในจุดสูงสุดนี้ได้ดีแค่ไหน ส่วนเราก็หวังว่า Weah จะยังคงเป็นบุคคลที่คอยช่วยเหลือคนอื่นเหมือนกับสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่ และใช้อำนาจที่มี พัฒนาประเทศในด้านที่ถูกต้อง

ไม่น่าเชื่อเลยว่า จากเด็กเตะบอลข้างถนนใน Liberia วันนี้เขาคือประธานาธิบดี แต่แม้ความเป็นไปได้จะน้อยมาก แต่ Weah ก็พิสูจน์ให้ดูแล้วว่า ถ้าพยายาม ต้องทำได้ และการสร้างความดีเอาไว้ให้มากในทุกวัน มันอาจจะกลายเป็นผลตอบแทนที่ดีงามในอนาคตอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้