นับเป็นการแจ้งเกิดในวงการเทนนิสที่สร้างความฮือฮามาก ๆ เมื่ออยู่ดี ๆ นักกีฬาเทนนิสหน้าใหม่ปรากฎตัวในการแข่งขันระดับโลกแค่ไม่กี่ครั้งคนหนึ่ง จะสามารถโค่นล้มนักกีฬามืออาชีพได้แบบขาดลอย และคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นหญิงเดียวมาครอบครองได้ในที่สุด สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้มีชื่อว่า Emma Raducanu นักเทนนิสสาววัย 18 ปี ที่มาพร้อมกับความสามารถอันโดดเด่น ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นดาวรุ่งในวงการเทนนิสอย่างรวดเร็ว UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกัน พื้นเพและผลงานของ Emma Raducanu Emma Raducanu เกิดเมื่อปี 2002 ในบ้านเกิดที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ครอบครัวของเธอเป็นชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในต่างแดน พออายุได้ 2 ขวบ เธอก็ย้ายไปอยู่ที่กรุงลอนดอนพร้อมกับครอบครัว ทำให้เธอได้รับ 2 สัญชาติ (ได้แก่ แคนาดา และ บริติช) ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ในวัยเด็กเธอได้เล่นกีฬาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ แข่งรถคาร์ท สกี ขี่ม้า รวมถึง บัลเล่ต์ และ แท็ปแดนซ์ ส่วนเทนนิส เธอเริ่มเล่นมันตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนกระทั่งในปีอีกสิบปีต่อมา หลังจากที่เธอฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านเทนนิสมานมนาน
ในวันที่คนทั้งโลกยังเชื่อว่าโลกแบน มนุษย์คนแรกที่เชื่อว่าโลกกลม และทำทุกทางเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ความจริงว่าโลกกลม ย่อมโดนครหา ตราหน้าว่าเสียสติ เพ้อเจ้อ หรือบ้าไปแล้ว ที่หนักหนาสาหัสกว่านั้น การยืนยันในสิ่งที่เชื่อและสิ่งที่ถูกต้องอาจโดนข้อหาร้ายแรงถึงขั้นขังลืม หรือต้องสละชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนหาญกล้าต่อกรกับความไม่ถูกต้อง และสู้เพื่อสิ่งที่เชื่ออีกจำนวนมาก โดยไม่ต้องเป็นฮีโร่มาจากไหน แต่เป็นคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ใครที่ไม่แน่ใจว่าคนตัวเล็ก ๆ จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อได้จริงไหม? หรือพวกเขาเอาพลังมาจากที่ใดถึงได้กล้าหาญขนาดนั้น? UNLOCKMEN แวะเอาแรงบันดาลใจจากคนธรรมดาที่หาญกล้าต่อสู้เพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อมากฝากกัน ทั้ง 5 เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง ของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง และพวกเขาก็สู้อย่างบ้าดีเดือดเพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่อจริง ๆ Dallas Buyers Club มีคนจำนวนมากที่มักจะบอกเราว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไรทำง่าย และอะไรเปลืองแรงว่ะ มึงอย่าไปทำเลย แต่ Dallas Buyers Club ที่มีชื่อไทยว่า “สอนโลกให้รู้จักกล้า” ทำให้เราเข้าใจว่าบางทีคนพวกนั้นแม่งก็ไม่ได้รู้อะไรดีไปกว่าเรา เขาแค่ไม่กล้ามากพอ และมีแค่เราเองนี่แหละที่รู้ว่าเราจะสู้ไปสุดขีดได้ถึงไหน Dallas Buyers Club เล่าเรื่องราวชีวิตจริงของหนุ่มคาวบอยในเท็กซัสในปี 1985 เขาถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV และจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 30 วัน
เหนื่อยหรือเปล่า? ท้อบ้างไหม? ชีวิตตอนนี้ไม่ง่ายเลย เรารู้ คุณรู้ หลายบริษัทเล็กใหญ่ ไปจนถึงคนทำงานตัวเล็กตัวน้อยทั่วทุกภาคส่วนต่างเผชิญความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามอย่างน่าเป็นห่วงไปทั่วโลก หลายคนเหนื่อยแต่ยังไม่ท้อ หลายคนท้อแต่ยังไม่หยุด หลายคนหยุดแต่ยังพยายามมองหาหนทาง แม้มันจะล้าแสนล้า แต่ในหัวก็วนเวียนว่า “ถ้ายอมแพ้วันนี้ พรุ่งนี้จะเอาอะไรกิน? ” เราเชื่อว่าหลายคนไม่เพียงแต่ต้องดูแลตัวเอง แต่ยังมีความรับผิดชอบในหลายรูปแบบให้ต้องจัดการ “พลังแห่งการไม่ยอมแพ้” จากมนุษย์หนึ่งคนจึงยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด แม้ในสภาวการณ์ที่เป็นอยู่นี้เราจะมองไม่เห็นหนทางว่าการไม่ยอมแพ้ของเราจะได้ผลอะไรกลับมา? เราจึงอยากแบ่งกำลังใจจาก UNLOCKMEN ด้วย ZERO TO HERO PODCAST ทั้ง 5 Ep ที่ว่าด้วยการไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ Zero To Hero – อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร “ถ้าเราได้ทุ่มเททุกอย่าง แม้มันจะเกิดผลช้ามาก หรือไม่เกิดผลเลย อย่างน้อยเมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถตอบได้เต็มปาก ในหัวใจหนึ่งกำปั้นมือว่า มึงได้ลองแล้ว“ ในวันที่ชีวิตหม่น ๆ เราเชื่อว่าบทเพลงของ Greasy Cafe เคยอยู่เป็นเพื่อนใครหลายคน แต่เบื้องหลังบทเพลงที่ดูเข้าอกเข้าใจความหม่นเศร้า หรือเบื้องหน้าที่ใคร ๆ
วินาทีแรกที่เรารู้ว่าเราจะได้อยู่บ้านมากขึ้น ทำงานจากที่บ้านบ่อยขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปเบียดเสียดใครที่ไหน เราอาจลิงโลดดีใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม แล้วต้องอยู่บ้านนานเข้า ๆ ก็เชื่อว่าใครหลายคนเหี่ยวเฉาร่วงโรย นอกจากร่างกายที่เราต้องคอยดูแลให้แข็งแรงแล้ว การอยู่บ้านนาน ๆ และต้องรับข่าวรอบตัวอย่างหนักอาจทำให้สุขภาพจิตหลายคนทำท่าจะแย่ตามไปด้วย เราแวะเอากำลังใจและความรู้ดี ๆ จาก Ted Talk มาฝาก ฟังไปด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน และผ่านมันไปด้วยกัน Why we all need to practice emotional first aid ในห้วงสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด 19 ยังน่าเป็นห่วงเราต่างพยายามดูแลร่างกายของเราออย่างสุดความสามารถ (ซึ่งถูกต้องแล้ว) แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ร่างกายก็คือสภาพจิตใจ อารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเรามั่นใจว่า Ted Talk นี้จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมการดูสุขภาพจิตถึงสำคัญไม่แพ้สุขภาพร่างกาย Ted Talk นี้ว่าด้วยการตั้งคำถามว่าทำไม “สุขภาพใจ” ของเราถึงไม่ถูกให้ความสำคัญเท่าไรนัก? โดย Guy Winch ผนักจิตวิทยาเขาลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่าเราสอนให้เด็ก 2
ถ้าเลือกได้ เราเชื่อว่าไม่มีใครต้องการให้ชีวิตตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก แต่เพราะชีวิตไม่ได้อยู่ในมือเราเสมอไป เราจึงต้องเผชิญสิ่งที่ไม่เป็นไปอย่างใจหวัง โดยเฉพาะห้วงเวลาที่วิกฤตไวรัสส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ต่อความเครียด และสภาพเศรษฐกิจ UNLOCKMEN เข้าใจดีว่าทุกคนกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ เราเองก็อยากอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ คุณเพื่อบอกว่าต่อให้ “ชีวิตมันเศร้า แต่เราจะไม่ยอมแพ้” เราจะผ่านมันไปด้วยกัน และถ้าแค่คำพูดมันไม่เพียงพอ เราอยากชวนดูหนัง 5 เรื่องที่จะให้เข้าใจความหมายของการ “ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา” เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ในบางชั่วขณะของชีวิต เราต้องหาบ่อน้ำแห่งความหวังมาปลอบโยนหัวใจที่กำลังเหนื่อยล้าไว้บ้าง และเราหวังว่าหนัง 5 เรื่องนี้จะช่วยให้หัวใจของทุกคนมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาได้บ้าง Unbroken ถ้าคุณเชื่อว่าชีวิตคือกราฟ ลงสุด และขึ้นสุดได้จากการไม่ยอมแพ้เพียงหนึ่งครั้ง คุณอาจต้องคิดใหม่ Unbroken คือหนังที่สร้างจากเค้าโครงชีวิตของหลุยส์ ลูอี้ แซมเพอรินี มนุษย์ผู้เริ่มจากศูนย์ พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุด ก่อนจะร่วงหล่น ทุกข์ทรมาน แล้วทะยานขึ้นไปได้ใหม่ เพราะหัวใจนักสู้ของเขาที่ไม่เคยหมดหวังที่จะก้าวสู่วันที่ดีกว่า หนังเล่าเรื่องราวของ หลุยส์ ลูอี้ แซมเพอรินี ตั้งแต่วัยเด็กที่มีพื้นเพเป็นผู้อพยพ และใช้ชีวิตแบบไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลักเล็กขโมยน้อย จนกระทั่งเขาพบความฝันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตคือการเป็นนักวิ่งลมกรด เขาไม่ฝันเปล่า ๆ แต่พยายามและไม่ยอมแพ้ จนเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่คว้าชัยชนะและทำให้ผู้คนทั่วโลกประหลาดใจในความสามารถเขามาแล้ว แต่กราฟชีวิตที่พุ่งสูงไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะมีความสุขตลอดไปเช่นในนิทาน
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ทุกหมุดหมายของการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อจิตใจมนุษย์เสมอ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เรามีพลังจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทุกครั้งที่ปีใหม่ วันเกิด (หรือวันสำคัญอื่น ๆ ) มาถึง แม้ Fresh Start Effect จะทำงานในทางจิตวิทยา กระตุ้นเร้าให้เรานึกถึงการทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ในทางปฏิบัติถ้าเราไม่มีวินัยในตัวเอง Fresh Start Effect ก็จะเป็นเพียงความรู้สึกอันแรงกล้าช่วงปีใหม่ ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อพ้นเดือนมกราคมไป UNLOCKMEN อยากให้ทุกความตั้งใจ นำไปสู่การลงมือทำ เราจึงรวบรวม TED TALK ดี ๆ ที่จะมาบอกคุณว่าเราไม่จำเป็นต้องดีขึ้นเพื่อแข่งกับใคร แต่เราจะเป็นเราเวอร์ชันใหม่ที่ดีกว่าเดิมเพื่อตัวเราเอง ความมั่นใจไม่ใช่แค่กล้าแสดงออก แต่คือความกล้าที่จะลงมือทำจนสำเร็จ “มั่นใจขึ้นอีกนิดสิลูก” แม่อาจเคยพูดแบบนี้ เพราะตอนเรายังเด็ก น้อยคนนักที่จะเป็นเด็กที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม หลาย ๆ คนมักเป็นเด็กขี้อาย และเมื่อพ่อแม่บอกเราให้มั่นใจขึ้นอีก มักจะจบลงที่เราไปแสดงอะไรสักอย่างหน้าห้องบ่อยขึ้น หรือขึ้นเวทีแสดงความสามารถประจำปีของโรงเรียนไปเสียอย่างนั้น “ความมั่นใจ” ในสายตาของใครหลาย ๆ คนจึงคล้ายเป็นเพียงเครื่องประดับของ “คนที่ชอบแสดงออก” แต่ไม่ใช่คุณสมบัติสำคัญที่ทุกคนจำเป็นต้องมีติดตัว แต่ TED TALK จาก Brittany Packnett
แม้ช่วงสิ้นปีสำหรับใครหลายคนจะหมายถึงความตื่นเต้น ความกระหายที่จะใช้ชีวิตในปีใหม่ที่จะมาถึงและแรงบันดาลใจล้นเปี่ยมที่จะปลุกปั้นสิ่งดี ๆ ให้ชีวิตตัวเอง แต่กับใครหลายคนช่วงสิ้นปีกลับกลายเป็นช่วงที่คล้ายจะสิ้นใจ ไฟใกล้มอด พลังงานที่ชาร์จไว้ตั้งแต่ต้นปีกำลังร่อยหรอ ถึงขั้นไม่มีอารมณ์จะหยิบจับสิ่งใด โดยเฉพาะเมื่อใคร ๆ ก็เอาแต่ถามว่า “ปีใหม่ตั้งใจจะทำอะไรให้ต่างจากปีเดิมบ้าง?” ก็เหมือนหัวจะระเบิดใส่หน้าคนถาม เพราะ “แรงบันดาลใจ” หมดไปนานแล้ว แต่ที่หมดยิ่งกว่าแรงบันดาลใจก็คือ “เงินในกระเป๋า” ไม่มีเงินแล้วจะออกไปตามหาแรงบันดาลใจได้ไหม? ถ้าได้ แรงบันดาลใจจากไหนที่ไม่ต้องลงทุนบ้าง? “พี่ครับ พี่ลองเปิดพอดแคสต์ฟังสิ” ถ้าตราบใดที่ไม่สิ้นไร้ไม้ตรอกถึงขั้นไม่มีสมาร์ตโฟนและสัญญาณอินเทอร์เน็ต เราอยากบอกว่า “พอดแคสต์” คือขุมแรงบันดาลใจชั้นยอดที่ไม่ต้องเปลืองเงิน ไม่ต้องออกไปไหน หรือซื้ออะไรเพิ่มเติมให้วุ่นวาย โดยเฉพาะเมื่อตลาดพอดแคสต์กำลังเติบโตไม่หยุดยั้ง บอกเลยว่าตอนนี้มีหลายชาแนล หลายแนวทางให้เราเลือกเสพแรงบันดาลใจ UNLOCKMEN อยากกระซิบบอกว่าถ้าใครชื่นชอบการหาแรงบันดาลใจผ่านพอดแคสต์ อย่าลืมติดตาม UNLOCKMEN ไว้ให้ดี เพราะอีกไม่นานเกินรอ เราจะมีชาแนลพอดแคสต์มาเสิร์ฟแรงบันดาลใจให้คุณถึงที่แน่นอน “ลองคุยกับใครสักคน” “บทสนทนา” คือแหล่งแรงบันดาลใจชั้นยอดที่คนดังระดับโลกหลายคนแนะนำ บทสนทนาที่ว่าไม่ได้หมายถึงการทักทายทั่วไปหรือสื่อสารเรื่องที่เราสื่อสารปกติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่หมายถึงการเจาะลึกลงไปในสิ่งที่อีกฝั่งคิด อีกฝั่งเลือก หรืออีกฝั่งเชื่อ โดยเฉพาะใครที่มีอาชีพ สายงาน หรือไลฟ์สไตล์แตกต่างจากเรา ยิ่งควรค่าแก่การไปคุยกับเขาในช่วงไร้แรงบันดาลใจแบบนี้ เพราะหลายครั้งที่เรารู้สึกหมดไฟไปดื้อ ๆ ก็เพราะเรารายล้อมด้วยคนที่เราเคยคุ้นอยู่แล้ว คนที่คุยเมื่อไรก็เข้าใจตั้งแต่เขายังไม่อ้าปากว่าเขาต้องการจะพูดอะไร การพาตัวเองไปสนทนากับผู้คนใหม่
นอกจาก IQ (Intelligence Quotient) หรือความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หนุ่ม ๆ จะขาดไม่ได้เพื่อเป็นบุคคลคุณภาพในสังคมคือ EQ (Emotional Quotient) หรือความฉลาดทางอารมณ์ ทั้งสองสิ่งนี้ต่างก็ช่วยเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน จะขาดด้านใดด้านหนึ่งไปไม่ได้ สำหรับ IQ นั้นทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันหมายถึงอะไร และก็น่าจะเคยผ่านการทดสอบเพื่อวัดระดับของตัวเองกันมาแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักอีกด้านของความฉลาด ที่ไม่เกี่ยวกับความรู้ แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ให้มากขึ้น สำหรับ EQ นั้นประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ด้านด้วยกัน Awareness of Emotions: การตระหนักรู้ถึงอารมณ์ตัวเองและคนรอบข้าง Harnessing of Emotions: การควบคุมอารมณ์และปรับใช้อารมณ์เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างเหมาะสม Managing of Emotions: การจัดการบริหารอารมณ์ วันนี้เราจะมาพูดถึงพฤติกรรมหรือนิสัยที่ผู้มี EQ สูงพึงกระทำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งการประสบความสำเร็จในอนาคต รู้จักตัวเอง หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้มีความฉลาดทางอารมณ์คือการตระหนักรู้ถึงอารมณ์ตัวเอง การรับรู้ถึงอารมณ์ตัวเองจะทำให้เราสังเกตถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและรับมือมันได้อย่างถูกต้อง ก่อนจะนำไปสู่การแก้ปัญหาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ใจเย็น มีสติ ไม่วู่วาม ทำให้ปัญหาถูกคลี่คลายในแบบที่ควรจะเป็น รับรู้ถึงอารมณ์ผู้อื่น การรับรู้แค่ตัวเองนั้นไม่เพียงพอ เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เกือบทุกช่วงเวลาของชีวิตเราคือการอยู่ร่วมกับคนอื่น ดังนั้นการที่เราสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกคนอื่นได้จะทำให้เรารู้ว่าเราควรปฏิบัติกับคน ๆ นั้นอย่างไร ควรใช้คำพูดแบบไหนกับคนแบบนี้ ควรปลอบเวลาไหน ควรกระตุ้นเวลาไหน
“ชีวิตคืออะไร?” เราเชื่อว่าถ้าถามคำถามนี้กับคนร้อยคนอาจได้คำตอบร้อยแบบ ชีวิตอาจเป็นการผจญภัย ชีวิตอาจเป็นการได้ทำเพื่อคนที่เรารัก หรือชีวิตอาจเป็นความทุกข์ ในแต่ละครั้งที่เราถามหาความหมายหรือคำนิยามของชีวิตจากผู้คน เรามักได้คำตอบที่ทำให้เราต้องครุ่นคิดหรือถึงขั้นพลิกมุมมองต่อชีวิตตัวเองไปเลย วันนี้ UNLOCKMEN อยากพามาสัมผัสอีกความหมายของชีวิต ชีวิตในฐานะเรื่องเล่าและต้องเป็นเรื่องเล่าที่เราเชื่อ รับรองว่ามันจะเปลี่ยนมุมมองคุณไปตลอดกาล พลังของเรื่องเล่าที่เราบอกตัวเอง นอกจากคำถามที่ว่า “ชีวิตคืออะไร?” แล้ว เราอยากถามคุณต่อว่า “หน้าที่ของภารโรงคืออะไร?” คุณอาจตอบว่าทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของตึก คุณอาจตอบว่าเก็บกวาดเช็ดล้างเมื่อมีคนทำอะไรหกเลอะเทอะ หรือคุณอาจตอบว่าคอยเปิดปิดประตูขององค์กรนั้น ๆ ตามเวลาที่ได้รับคำสั่ง นี่คือนิยามหรือเรื่องที่เราเล่าเพื่อบรรยายหน้าที่ของภารโรงคนหนึ่ง แต่พลังของเรื่องเล่าที่ภารโรงคนหนึ่งเชื่อว่าตัวเองทำกลับมีความหมายมากกว่านั้น ย้อนกลับไปในช่วงที่มวลมนุษยชาติกำลังมุ่งมั่นกับภารกิจส่งมนุษย์ไปพิชิตดวงจันทร์ มีเรื่องเล่าว่าประธานาธิบดีผู้ทรงอิทธิพลเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีอวกาศเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของภารกิจยิ่งใหญ่ เขาเดินไปตามโถงทางเดินและแวะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บ้าง จนกระทั่งเจอภารโรงที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอะไรบางอย่าง ประธานาธิบดีจึงหยุดเพื่อทักทายภารโรงคนนั้น “คุณกำลังทำอะไรอยู่?” ก่อนที่ภารโรงประจำสถานีอวกาศจะสบตาประธานาธิบดี และตอบออกมาอย่างภาคภูมิใจว่า “ผมกำลังเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยมนุษย์ไปพิชิตดวงจันทร์อยู่ครับ” กวนตีนจัง! ตอบไม่เห็นตรงคำถามเลย ใครหลายคนอาจคิดแบบนี้ แต่ประธานาธิบดีกลับไม่ได้คิดแบบนั้นและคิดว่าทัศนคติและสิ่งที่ภารโรงคนนี้เชื่อนี่แหละที่ทำให้ภารโรงเห็นความสำคัญของสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ทิ้งทุกรายละเอียด เพราะการทำความสะอาดของเขา ไม่ใช่แค่เพื่อทำความสะอาด แต่เขาทำความสะอาดอยู่ในสถานีอวกาศที่ทุกคนกำลังมุ่งมั่นพิชิตดวงจันทร์กันอยู่และเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจนี้สมบูรณ์แบบ นักวิทยาศาสตร์ที่สวนมาจะไม่ต้องลื่นล้มถ้ามีใครทำของเหลวอะไรหก นักบินอวกาศได้มีสุขภาพจิตที่ดีจากการใช้ห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมอ่อง สิ่งเหล่านี้คือพลังของเรื่องเล่าที่ภารโรงคนนี้เชื่อ ในขณะที่ตัวประธานาธิบดีเองก็มองเห็นค่าของทุกรายละเอียดของคนตัวเล็ก ๆ ในภารกิจยิ่งใหญ่นี้ยิ่งขึ้นจากเรื่องเล่าของภารโรง คนอื่นบอกว่าเราเป็นอะไร ไม่สำคัญเท่าเราเชื่อว่าเราเป็นอะไร ชีวิตของเราจึงอาจมีนิยามสารพัดที่มาจากคนอื่น เราอาจเป็นพนักงานเงินเดือนตัวเล็ก ๆ ในสายตาหัวหน้า เราอาจเป็นลูกชายตัวน้อยของแม่อยู่เสมอ
ในแต่ละวันของชีวิต “แรงบันดาลใจ” กลายเป็นสิ่งที่ Urban Men อย่างเราล้วนตามหา ในบางวันเราอาจหลงลืมความสำคัญของมันไป แต่ท้ายที่สุดเราจะตระหนักได้ว่าเราไม่อาจมีชีวิตอย่างที่เราต้องการได้ถ้าขาดแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจคือสิ่งเติมเต็มชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จสุดขีดและมีประสิทธิภาพอย่างที่เราหวัง รวมถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้ชีวิตในแต่ละวัน และแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้เราเลือกใช้เวลาแห่งการพักผ่อนไปอย่างรื่นรมย์และเป็นตัวเอง การมีแรงบันดาลใจที่มากกว่าจึงเป็นที่มาของการใช้ชีวิตได้เต็มที่มากกว่า พื้นที่อยู่อาศัยที่มาของแรงบันดาลใจที่มากกว่าให้เราใช้ชีวิตได้มากกว่า “แรงบันดาลใจ” ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้ามาทักทายเราได้ทุกเช้าที่เราตื่นนอน จึงไม่แปลกอะไรที่ผู้ชายอย่างเราพยายามออกเดินทางเพื่อตามหามัน แต่ความรับผิดชอบทั้งหมดที่เราต้องดูแล หน้าที่การงานที่ขับเคลื่อนเราไปข้างหน้าทำให้เราไม่อาจตามหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้ชีวิตได้อย่างใจต้องการ จะดีแค่ไหนถ้า “พื้นที่อยู่อาศัย” ที่เราใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ได้มากกว่าการนอน ตื่นไปทำงานแล้วกลับมานอน แต่พื้นที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดหลากหลาย และ INSPIRE ผู้ชายอย่างเราได้ด้วยในเวลาเดียวกันโดยที่เราไม่ต้องออกไปตามหาแรงบันดาลใจที่ไหนอีก เพราะ ตัวคุณคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…ของคุณ พื้นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความเป็นคุณ ทั้งด้านการงาน การพักผ่อนและการใช้ชีวิตจึงเป็นที่มาแห่งแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแบบที่อะไรก็ให้ไม่ได้ Whizdom Inspire Sukhumvit: ไลฟ์สไตล์ที่มากกว่าให้แรงบันดาลใจที่มากกว่า พื้นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ชายที่ Work Hard Play Hard มาตลอดชีวิตและต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเสมอจึงไม่ควรเป็นแค่ที่อยู่อาศัย แต่ควรเป็นพื้นที่ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายซึ่งเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจหลากหลายในชีวิตได้อย่างไร้ที่ติ Whizdom Inspire Sukhumvit คอนโดมิเนียมที่พร้อมเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์หลากหลายให้กับผู้ชายอย่างเราเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเติมเต็มสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตได้อย่างที่เราไม่เคยพบมาก่อนจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความเป็นคอนโดมิเนียมสุดสมบูรณ์แบบตามคอนเซ็ปต์ ‘The