Life

ลมหายใจสุดท้ายของสวนสัตว์เขาดิน: 5 เรื่อง ‘กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน’ที่เราจะเก็บไว้ในใจเสมอ

By: PSYCAT September 29, 2018

“สวนสัตว์ดุสิต” หรือที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ เรียกติดปากมาตลอดชีวิตว่า “เขาดิน” กำลังจะปิดตัวลงในวันพรุ่งนี้ (30 กันยายน 2561) หลังจากที่ยืนหยัดอยู่คู่การเติบโตของเด็กผู้ชาย (และเด็กผู้หญิง) มาหลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่แต่บางเสี้ยวของความทรงจำวัยเด็กย่อมมีภาพสวนสัตว์ใจกลางเมืองอย่างเขาดินผุดพรายขึ้นมาด้วยไม่มากก็น้อย

ถ้าเขาดินเป็นคน อายุ 80 ก็หมายถึงวันวัยที่ร่วงโรยสู่วัยชราและพรุ่งนี้จะเป็นลมหายใจสุดท้ายที่เรายังพอมีโอกาสได้เจอกัน การจากกันครั้งนี้แม้จะทำให้ใครหลายคนอดใจหายไม่ได้ แต่ไม่ต่างจากการต้องพลัดพรากจากทุกสิ่ง ไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของที่เรารักจะจากไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จะอยู่กับเราไปเสมอคือการเลือกจดจำสิ่งที่เรารักเหล่านั้นในมุมที่สวยงาม หรือต่อให้ไม่สวยงามแต่ก็เป็นมุมที่เราอยากจดจำ

UNLOCKMEN จึงอยากร่วมโบกมืออำลาเขาดิน ในฐานะสวนสัตว์ที่เติบโตมาพร้อม ๆ กันในรูปแบบของเราเอง เรามั่นใจว่าช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมามีคนเลือกพูดถึงเขาดินทั้งในฐานะประวัติศาสตร์ ทั้งในฐานะความผูกพัน ทั้งในฐานะการให้ความรู้เรื่องสัตว์ จนทุกคนน่าจะเต็มอิ่มกับข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้น UNLOCKMEN ขอร่วมร่ำลาเขาดินในแบบของเราด้วย “กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน”  เรื่องเล่าที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปในความทรงจำและความรู้สึกว่าเราเลือกจดจำเขาดินไว้ในใจต่อจากนี้อย่างไร ร่วมด้วยรูปภาพสัตว์โลกตัวน้อยหลากชีวิตที่อาศัยอยู่ในเขาดินที่เราคงอดคิดถึงพวกมันไม่ได้อีกนานแสนนาน

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน: กาลครั้งหนึ่งเราเคยตื่นเต้นกับสัตว์สารพัดชนิด

ค่าง 5 สีสองตัวในรูปเหม่อมองเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่อีกฟากของกรงด้วยความรู้สึกแบบไหน เราก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ความรู้สึกของเด็กชายอีกฟากกรงที่อยู่ไม่ไกลจากเรานักคือสิ่งที่เราสัมผัสได้อย่างแจ่มชัด น้องผู้ชายกระตุกมือแม่ซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่ค่าง 5 สีสองตัวนี้หาเหาให้กัน หยอกล้อกัน หรือขยับตัวไปมา พฤติกรรมธรรมดาของสัตว์ แต่สร้างความรู้สึกพิเศษให้กับเด็กชายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยอมรับตามตรงว่าเราไม่ได้มีปริมาณความตื่นเต้นขนาดเด็กผู้ชายคนนั้นแล้ว แต่การมาเดินดุ่ม ๆ ในเขาดินในช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นลมหายใจสุดท้ายของมันทำให้เราอดนึกถึงความทรงจำวัยเด็กไม่ได้ ความทรงจำวัยเด็กที่เรายังตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้และการได้มาสวนสัตว์ใจกลางเมืองเพื่อเห็นสัตว์สารพัดชนิดที่พ้นไปจากหมาแมวที่บ้านตัวเป็น ๆ ครั้งแรกมันช่างสั่นสะเทือนโลกทั้งใบของเด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ถ้าวันหนึ่งที่เขาดินไม่อยู่แล้ว เราก็อยากจดจำสิ่งที่เขาดินทำให้เรารู้สึกไว้เช่นนั้น เช่นสถานที่ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับสัตว์สารพัดชนิดรอบตัว สถานที่ที่ทำให้เรายิ้มได้เมื่อเห็นลิงค่างกระโดดทะยานไปมา สถานที่ที่ทำให้เราน้ำตาไหลเพราะกลัวจระเข้ตัวใหญ่

ขอบคุณเขาดิน ขอบคุณกาลครั้งหนึ่งที่ทำให้เราจำได้ว่าความตื่นเต้นและความรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างมหัศจรรย์แบบเด็ก ๆ มันสุขใจเพียงใด

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน: กาลครั้งหนึ่งเราเคยถีบเรือเป็ดกลางบ่อน้ำสีเขียวเข้ม

ท่ามกลางแดดบ่ายร้อนระอุ หลังจากที่เราต้องยอมรับอย่างเศร้า ๆ ว่าเราไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับสัตว์สารพัดชนิดอย่างเด็ก ๆ ที่มาในวันนี้แล้ว เราจึงลอบมองความตื่นเต้นที่วาววามในตาเด็ก ๆ จนหนำใจก่อนจะเตร็ดเตร่หามุมสบายใจสักมุม โดยไม่ทันรู้ตัว มุมสบายใจที่เราเลือก กลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่กลางเขาดินที่เราคุ้นเคยกับการถีบเรือเล่นไปเสียได้

เรือถีบสีสดใสแต่ปริมาณความเข้มของสีจางลงไปมากจากการจอดกลางแดดจัดนาน ๆ แม้จะดูปกติดี แต่เราก็อดรู้สึกห่อเหี่ยวไม่ได้ที่จากนี้เราคงไม่มีโอกาสมาปั่นมันเล่นอีกต่อไปแล้ว

ถ้าว่ากันตามตรงการปั่นเรือถีบเล่นในบ่อสีเขียวเข้ม คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอับชื้น ไม่ใช่ความน่าอภิรมย์ของชีวิตในระดับที่ต้องดั้นด้นมาทำทุกวัน แต่เราว่าความทรงจำที่ดีที่สุดที่เราอยากจำเกี่ยวกับการได้ปั่นเรือถีบเหล่านี้ในเขาดินก็คือการได้ปั่นเรือถีบกับใครสักคน อาจเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นใครสักคนในครอบครัวที่พาเราไปเขาดินเป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วเรากระจองอแงว่าอยากปั่นเรือสีสดพวกนี้ให้ได้ หรืออาจเป็นใครสักคนอย่างคุณครูสมัยประถมที่พาเรามาทัศนศึกษาแล้วต้องห้ามเรากับเพื่อน ๆ ไม่ให้ลงไปปั่นเรือพวกนี้เพราะคุณครูดูแลไม่ไหว หรืออาจเป็นสาวสักคนที่เราเคยจีบตอนมัธยม ตอนมหา’ลัย ที่เราอยากอยู่ใกล้ ๆ เขาจนพามาปั่นเรือถีบกลางเขาดิน ก่อนจะคิดได้ว่าร้อนฉิบหาย ไม่น่าพามาเลย!

ความทรงจำแห่งการปั่นเรือถีบในเขาดิน จึงไม่ใช่แค่ความทรงจำเรื่องเขาดิน แต่มันคือความทรงจำของเราต่อเขาดินและคนที่เรารัก ที่ครั้งหนึ่งเราเคยใช้เวลาร่วมกันที่นั่น ที่กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน: กาลครั้งหนึ่งเราเคยเห็นตัวเหี้ยจำนวนมาก

ในขณะที่เราแอบน้ำตาซึมจากการคิดถึงผู้คนในชีวิตที่เคยมาเขาดินด้วยกัน เพราะบางคนยังอยู่ด้วยกัน ในขณะที่บางคนก็ขาดหายจากการติดต่อกันไปนานแสนนาน แต่ความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขายังแจ่มชัดในหัว ตัวเหี้ยขนาดกลาง ๆ ก็เดินต้วมเตี้ยมอุ้ยอ้ายขึ้นมาจากบ่อตรงหน้าเราอย่างสบายอารมณ์ ใกล้ตรงที่เรานั่งกันอยู่จนต้องอุทานด้วยความตกใจว่า “เหี้ย!”

แม้เขาดินจะได้ชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ แต่ด้วยความเป็นมนุษย์อันหลากหลายของเรา เราย่อมมีความทรงจำเฉพาะตัว มีความรู้สึกเฉพาะอย่างที่เรามีให้เขาดินแตกต่างกันไป สำหรับเราแล้ว ถ้าต้องเลือกจำเขาดินแล้วไม่มีตัวเหี้ยอยู่ในลิสต์ความทรงจำด้วยก็คงผิดมหันต์ เพราะเขาดินได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมตัวเหี้ยกลางกรุงที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงแห่งนี้เลยก็ว่าได้

ลมหายใจสุดท้ายของเขาดิน จึงไม่ใช่แค่การจากไปของสถานที่ สัตว์ในกรง แต่หมายรวมถึงพื้นที่สีเขียวที่มีระบบนิเวศน์อันเหมาะสมของสัตว์อีกหลายชนิดที่ไม่ได้อยู่ในกรงต้องสูญสลายหรืออยู่อย่างตามมีตามเกิดแบบไม่รู้ชะตากรรมอีกด้วย เหี้ยไม่ใช่สิ่งที่น่าพิสมัยมากนัก เมื่อมันยิ่งเดินเข้ามาใกล้ เราก็อดถอยห่างไม่ได้ แต่ถ้าถามว่ามันยังจำเป็นต่อระบบนิเวศน์อยู่ไหม ก็คงต้องตอบว่าจำเป็นอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

เราคงไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ว่าเหี้ยจำนวนมากในเขาดินจะอยู่ได้ไหม ? จะถูกเคลื่อนย้ายไปที่ไหนอย่างไร ? หรือจะต้องตายลงไปเพราะความขาดแคลนอาหารหรือการไล่ที่ ? คำตอบคงลอยอยู่ในสายลม แต่ที่แน่ ๆ กาลครั้งหนึ่งเขาดิน กาลครั้งหนึ่งที่นี่มีเหี้ย

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน: กาลครั้งหนึ่งเราเคยมองสัตว์ในกรงด้วยความหดหู่

ทางหนึ่งเขาดินสร้างความสุข ความทรงจำไว้ให้มนุษย์อย่างเรา ๆ มากล้นจนเรารู้สึกใจหายไม่ได้เมื่อต้องคิดว่าจากนี้จะไม่มีสวนสัตว์ใจกลางเมืองอีกแล้ว แต่อีกทางหนึ่ง ทุกย่างก้าวที่เราเดินไปตามกรงขนาดต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจำมันไปแล้ว คือความรู้สึกหดหู่หม่นเศร้าของสิ่งมีชีวิตที่ต้องถูกขังอยู่ในกรงขนาดไม่กี่ตารางเมตร สวนทางกับขนาดตัว สวนทางกับความแออัด และสวนทางกับลักษณะนิสัยของสัตว์บางประเภทที่ต้องการที่กว้าง ๆ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี

ดังนั้นในอีกทางหนึ่งการที่สวนสัตว์ใจกลางเมืองจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองอีกต่อไป อาจจะทลายข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ที่ทำให้สัตว์เหล่านี้ไม่ต้องทนอุดอู้อยู่ในที่แคบขนาดนี้ แม้ความชัดเจนเรื่องสวนสัตว์ที่ใหม่จะยังไม่มีออกมามากนัก แต่การได้ยินว่าสัตว์เหล่านี้อาจได้ย้ายไปอยู่ในสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่านี้บ้างก็พอทำให้เราคลายกังวล

การได้เห็นสัตว์ในกรงจึงเป็นเหมือนเครื่องเตือนความทรงจำบางอย่างว่าเรามีสวนสัตว์เพื่อสนองความรู้สึกสารพัดของมนุษย์ แต่ไม่แน่ใจนักว่าเราได้ปฏิบัติต่อสัตว์เหล่านั้นได้อย่างดีพอแล้วหรือยัง ?

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน: กาลครั้งนี้จะจดจำตลอดไป

เราใช้เวลาจากเช้าจรดบ่ายแก่ ๆ ในสวนสัตว์เขาดิน แม้เขาดินจะไม่ใช่พื้นที่กว้างนัก แต่การละเลียดไปในทุกตารางนิ้วพลางทบทวนความรู้สึกและความทรงจำที่เราเคยมีกับมันก็ทำให้เราหมดเวลาไปเกือบตลอดวัน เราเชื่อว่าแต่ละคนก็มีความทรงจำเฉพาะตัว ดังนั้นความทรงจำสุดท้ายที่อยากเก็บไว้ในใจเสมอ เราจึงอยากเว้นที่ว่างไว้ให้ทุกคนได้มีโอกาสร่ำลาเขาดินในแบบของตัวเอง เราจะไม่ตัดสินว่าทุกคนต้องมีความทรงจำในลักษณะเดียวกับเรา

แต่เราอยากใหุ้กคนค่อย ๆ ดื่มด่ำกับภาพที่เราตั้งใจเก็บมาให้แล้วหวนนึกไปถึงความทรงจำในแบบที่เรามี และเราอยากเลือกจำเขาดินไว้แบบนี้ แต่ถ้าดูภาพแล้วมันไม่เต็มอิ่ม พรุ่งนี้ (30 กันยายน 2561) ก็เป็นวันสุดท้ายที่เขาดินจะเปิดให้บริการ หากเป็นไปได้ก็ไปร่ำลาเพื่อนเก่าที่โตมาด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ดูภาพเหล่านี้ แล้วมาร่วมแชร์ความรู้สึกกันก็ได้ว่า “กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน” ในความทรงจำของคุณเป็นอย่างไร ?

กาลครั้งหนึ่ง…เขาดิน
กาลครั้งหนึ่ง…จะคิดถึงตลอดไป

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line