Guide

GUIDE: จิบกาแฟและชาร้อน ‘HEI JII’ คาเฟ่สไตล์จีนในตึกแถว ที่เครื่องดื่มทุกแก้วล้วนมีเรื่องราว

By: unlockmen November 15, 2018

ทุกวินาทีที่วิ่งผ่านเข้ามาในชีวิต ผลักดันให้เราเติบโตขึ้นอย่างน้อยก็ในจำนวนของอายุ ในแต่ละวันที่เราห่างไกลช่วงวัยที่เราเคยมีความสุขกับมัน ของใช้ในบ้านที่ประกอบกันออกมาเป็นบรรยากาศที่แสนคุ้นเคย อาหารกลิ่นหอมกรุ่น เครื่องดื่มแก้วโปรด หรือแม้แต่ประตูบ้านที่เราเคยเดินเข้าออกอยู่ทุกวัน แม้ว่ามันจะเคยเจิดจ้าอยู่ในความทรงจำของเราขนาดไหนก็ตาม เราอาจจะหลงลืมเรื่องราวหลายอย่างไป แต่ไม่ใช่กับที่นี่ ‘HEI JII’ คาเฟ่ที่ประกอบเอารายละเอียดจากความทรงจำที่แสนอบอุ่น ให้เหมือนเราได้นั่งจิบกาแฟอยู่ในบ้านหลังเดิมอีกครั้ง

จากปากซอยเจริญกรุง 43 เข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว เราจะสังเกตเห็นร้าน ‘HEI JII’ ที่กลมกลืนอยู่กับชุมชนย่านนั้น แต่ไม่ได้จมหายลงไป ยังคงโดดเด่นด้วยไฟสีเหลืองอบอุ่นภายในร้าน ตัดกับประตูไม้บานเฟี้ยมสีดำได้อย่างลงตัว ด้านในผนังทั้งสองด้านจะโชว์ความดิบของปูนเปลือยและอิฐมอญแบบเก่า ล้อไปกับเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นของเก่าทุกชิ้น ไม่ใช่เป็นของใหม่จากโรงงานที่วินเทจเพียงดีไซน์อย่างแน่นอน

ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในร้าน เสียงช้อนกระทบแก้วจากการชงเครื่องดื่ม ดังก้องอยู่ตลอดเวลา เหมือนมีเมโทรนอมให้จังหวะอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่า เครื่องดื่มทุกแก้ว จะถูกชงใหม่ทุกครั้งด้วยความตั้งใจ ไม่รีบร้อน ตวงกันแก้วต่อแก้ว เปี่ยมไปด้วยความละเมียดละไม ราวกับทุกแก้วคือผลงานมาสเตอร์พีซ เสียงพูดคุยกับลูกค้าที่ผ่านไปมา ที่เป็นเหมือนการส่งต่อพลังบวกให้กันมากกว่าการซื้อขายสินค้า

บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นนี้ทั้งหมดนี้ มาจากไอเดียของ “คุณมิก ประภาส ระสินานนท์” หนึ่งในหุ้นส่วนจากทั้งหมด 7 หุ้นของที่นี่ ได้เล่าถึงเรื่องราวของร้านนี้ว่า มาจากความประทับใจของเขาเมื่อครั้งไปเยือนคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมือง Seattle เลยอยากจะมีสถานที่ไว้ส่งต่อความสุขแบบนี้บ้าง จึงเลือกเป็นทำเลที่อยู่ท่ามกลางชุมชนมากกว่าทำเลทองในที่อื่น ๆ เพราะอีกสิ่งที่เป็น Passion สำคัญในการผลักดันให้เขาหยิบจับแต่ละอย่างเข้ามาประกอบกันเป็นร้านนี้คือ ความทรงจำในวัยเด็ก ที่ใครหลายคนอาจหลงลืมมันไป เมื่อเรา(เชื่อว่า)โตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว

“เราเป็นคนจีน อยากทำอะไรที่ใกล้ตัว เพราะมันดูไม่ต้องพยายาม”

ชื่อร้านที่เป็นเมนูโปรดของเขาในวัยเด็ก ประตูลายเดียวกับบ้านหลังแรก เก้าอี้สีแดงในร้านที่เป็นเก้าอี้ในพิธียกน้ำชาของป๊ากับม้า ของชิ้นอื่น ๆ ในร้าน และทุกเมนู ล้วนเป็นของที่ถูกเลือกมาแล้วทั้งสิ้น

Black Coffee 

เมนูที่เป็นเหมือนหัวใจหลักของร้านกาแฟ ที่นี่เลือกใช้เมล็ดบราซิลสำหรับกาแฟ และจะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตาม Seasons ด้วยเช่นกัน ซึ่งรสชาติดื่มง่าย ไม่อมเปรี้ยวเลยแม้แต่นิดเดียว แม้จะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นคอกาแฟ ก็สามารถดื่มได้แบบไม่ต้องหลับตาปี๋อย่างเคย

Hong Kong Papaya Milk

ไม่ใช่แค่นมที่มีกลิ่นของมะละกอ แต่เราจะได้สัมผัส Texture ของเนื้อมะละกอแบบเต็มคำ ซึ่งนุ่มละมุนยิ่งขึ้นเมื่อรวมกับรวชาติของนม รสหวานและกลิ่นที่มาจากธรรมชาติ ความ Fruity ของมะละกอ และความละมุนของนม ทำให้เมนูนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ

Earl Grey Chiffon 

เนื้อชิฟฟอนฟูนุ่ม ให้กลิ่นหอมจาง ๆ ด้วยชา Earl Grey ที่แทรกอยู่ในเนื้อชิฟฟอน  แทรกกลางด้วยครีมสดละมุนลิ้น ชวนให้เราตักเข้าไปลิ้มรสคำแล้วคำเล่า ยิ่งทานคู่กับนน้ำชา จะเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีมาก ๆ

Ice Cocoa

โกโก้เย็นรสเข้ม เข้มแบบ Literally สัมผัสที่หนืดมากกว่าโกโก้ที่เคยดื่มมา ความหวานที่อยู่ในระดับน้อยนิด เหมือนกับจงใจเป็นตัวประกอบให้แก้วนี้มันสมบูรณเท่านั้น โกโก้ยังคงเป็นพระเอกอยู่แบบไม่มีใครแย่งชิงไปได้

สำหรับเมนูอื่น ๆ ก็เช่นกัน สำหรับใครที่ชอบดื่มด่ำกับกลิ่นหอมของชา กาแฟ หรือวัตถุดิบที่ควรเป็นพระเอกของแก้วนั้น ไม่ได้ชื่นชอบความหวานจนกังวลว่าเบาหวานความดันจะถามหา ควรหาวันเวลามาลองร้านนี้ให้ไวที่สุด นอกจากรสชาติที่รับผิดชอบต่อสุขภาพของผู้บริโภคแล้ว บรรจุภัณฑ์ของร้านยังรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย อย่างกระดาษที่หุ้มปากแก้วอยู่นั้น เป็นกระดาษ Food Grade ที่นำมาใช้แทนฝาพลาสติก และหนังยางรัดกระดาษที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกเรื่อย ๆ

สำหรับใครที่อยากตามไปเสพบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้ ตามไปได้ที่ซอยเจริญกรุง 43 เดินเข้าไปเล็กน้อย ร้านอยู่ขวามือ หรือตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ได้ที่ Pages Facebook ของร้าน HĒIJīi Bangkok

ดื่มด่ำไปกับทุกรายละเอียดที่ถูกเลือกมาอย่างใส่ใจ รวมถึงเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม พร้อมกับความเป็นกันเอง ที่จะช่วยขับให้บรรยากาศน่านั่งแบบยาว ๆ เหมือนได้นั่งคุยกับเพื่อนในบ้านของเพื่อนเองจริง ๆ

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line