HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย

Harley-Davidson คือแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันอายุกว่า 116 ปี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างสรรค์รถให้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์โดดเด่น และตอนนี้ทางแบรนด์กำลังเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ อีกครั้งด้วยการหันมาทำรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

Harley-Davidson

ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก แต่ด้วยยอดขายที่ลดลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องดำเนินแผนการฟื้นฟูและกระตุ้นยอดขายเพื่อให้แบรนด์สามารถไปต่อได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังซบเซา

การที่ Harley-Davidson มียอดขายลดลงนั้นหลัก ๆ เกิดจากเรื่องกำแพงภาษีที่สูงขึ้นซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ไตรมาสสุดท้ายในปี 2018 อยู่ในจุดที่เกือบจะขาดทุน ทำให้แบรนด์ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อกระตุ้นการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ และคำตอบที่ได้คือพลังงานไฟฟ้า

ultimatemotorcycling

ในที่สุด Harley-Davidson ได้จัดแสดงนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ LiveWire ในงาน Consumer Electronics Show (CES 2019) เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

พร้อมกับเผยรายละเอียดฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและทิศทางของ Harley-Davidson ในยุคใหม่ หลังจากที่รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์เคยปรากฏอยู่ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่าย Marvel มาแล้วใน Avengers: Age of Ultron

theimmagine

มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ Harley-Davidson จะเป็นรถแบบไม่มีคลัตช์เพื่อการควบคุมที่ง่ายขึ้น และดึงดูดนักขับรุ่นใหม่

ส่วนของฟีเจอร์นั้นเรียกได้ว่าจัดเต็มด้วยอัตราเร่งจาก 0 – 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ที่ส่งกำลังด้วยระบบไฟฟ้า H-D Revelation™ ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์คู่ขนาดจาน 300 มิลลิเมตร และชุดล้ออลูมิเนียมอัลลอย์ขอบ 17 พร้อมโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับได้ 7 แบบ

นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จอัตโนมัติที่จะทำงานทุกครั้งเมื่อเบรก โดยระบบสามารถสร้างพลังงานเวียนที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยการส่งประจุไฟเข้าสู่ตัวแบตเตอรี่ และการชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถขับขี่ได้ 110 ไมล์บนถนนทางเรียบ เหมาะทั้งการขับขี่ในเมืองใหญ่และเขตชานเมือง

Top Gear Philippines

bikedunia

นอกจากนี้รถพลังงานไฟฟ้า LiveWire สามารถเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่กับมอเตอร์ไซค์ผ่านเทเลแมติกส์คลื่นความถี่ LTE และคลาวด์ผ่านแอปพลิเคชั่นล่าสุดของ Harley-Davidson ที่มีชื่อว่า H-D App ซึ่งใช้งานผ่านสมาร์ตโฟน เพื่อค้นหาสถานีชาร์จไฟ ตรวจสอบระดับพลังงานที่มีอยู่และตรวจสอบเวลาในการชาร์จได้ นอกจากนี้ยังสามารถระบุตำแหน่งที่จอดรถพร้อมส่งสัญญาณเตือนทุกเวลาเมื่อรถมีการเคลื่อนย้ายที่ผิดปกติผ่านเครือข่าย GPS

ในด้านของความร้อนและการสั่นของรถ LiveWire จะอยู่ในระดับต่ำสุดเพื่อความสบายในการขับขี่ และถึงแม้จะเป็นรถจักรยานยนต์ระบบไฟฟ้า แต่เสียงของเครื่องยนต์ก็จะยังมีเสียงที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Harley-Davidson เหมือนเดิม

SlashGear

หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกไปแล้ว Harley-Davidson ก็ได้เผยโฉมรถจักรยานยนต์ต้นแบบระบบไฟฟ้ารุ่นที่สองในแบบที่แตกต่างจากเดิม เพราะเป็นรถจักรยานยนต์กึ่งสกูตเตอร์ที่มีน้ำหนักเบา ที่จะพาแบรนด์มอเตอร์ไซค์อายุกว่าร้อยปีเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าอย่างแท้จริง พร้อมกับสไตล์คลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังไม่ได้หายไปไหน

แนวคิดการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าน้ำหนักเบานี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อกฎหมายในรัฐโคโลราโด ที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทสกูตเตอร์ และมองว่ารถพลังงานไฟฟ้าแบบที่สามารถชาร์จไฟจากปลั๊กติดผนังน่าจะตีตลาดในรัฐนี้และเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ได้

The Verge

LiveWire ขนาดกระทัดรัดนี้จะขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ไม่มีคลัตช์ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ แบตเตอรี่ของรถสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย เพื่อความสะดวกรวดเร็วและง่ายต่อการชาร์จไฟฟ้าในแต่ละครั้ง

นอกจากรถที่เตรียมพร้อมตอบโจทย์สำหรับชีวิตคนเมืองที่ทันสมัยแล้ว Harley-Davidson ก็ได้วางแผนพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสไตล์เสือภูเขาเพื่อการเดินทางแบบสมบุกสมบันอีกด้วย และคาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

Milwaukee Journal Sentinel

Harley-Davidson กล่าวถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของตัวเองว่านี่คือยานยนต์ที่เต็มไปด้วยอนาคตซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ออกแบบที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละรุ่น เป็นรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและจะไม่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องผิดหวัง

การปรับตัวครั้งใหญ่ของ Harley-Davidson ในครั้งนี้คาดว่าน่าจะถูกใจนักบิดรุ่นใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียว

SOURCE