หลักฐานคาตา! “High Eye” สิ่งเดียวบนใบหน้าที่จะบ่งบอกว่าคนไหนเสพอะไรมาเร็ว ๆ นี้

“ดวงตาคนเรานั้นเปรียบเสมือนประตูแห่งจิตวิญญาณ” ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมายพูดกันอยู่เสมอว่าดวงตาคนเราสามารถบ่งบอกได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก ความคิดที่อยู่ในหัว รวมไปถึงสุขภาพภายในร่างกายของเรา

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ดวงตา น่าจะเป็นเพียงอย่างเดียว ที่ไม่สามารถควบคุมให้มันโกหก ปิดบัง หรือเก็บอาการจากความรู้สึกใด ๆ เอาไว้ได้เลย ดังนั้นคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราสามารถเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากการอ่านดวงตาของคนได้ จะได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คนที่อยู่เบื้องหน้าของเรานี้ มีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้ร่างกายที่อาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนแปลกหน้า ที่เราไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของคนคนนั้นเลยว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนยังไง เป็นคนร้ายที่ไม่ประสงค์ดีกับเรา แต่แกล้งทำเป็นเดินเข้ามาหารึเปล่า ซึ่งวันนี้เราก็ไปเจอวิธีการสังเกตสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะว่าเป็นอันตรายต่อตัวเราและต่อสังคมเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือกลุ่มคนติดยาเสพติด

แน่นอนว่าที่เราได้ยินมานั้น สายตาขอคนที่ใช้ยาเสพติด จะมีความแตกต่างจากคนปกติทั่วไป แต่เพียงเท่านั้นเราจะสามารถรับรู้ได้จริง ๆ หรือ ?

วันนี้เราได้นำวิธีการสังเกตดวงตาแบบทะลวงลึกเข้าถึงภายใน จนคุณสามารถบอกได้เลยว่าคนที่กำลังยืนคุยอยู่กับคุณในตอนนี้ ใช้สารเสพติดผิดกฎหมายอะไรมาบ้างในการปาร์ตี้เมื่อคืน

หากคุณอ่านสายตาของคนเหล่านี้ออก คุณจะได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของตัวคุณเองอีกด้วย เรื่องแบบนี้รู้ไว้บ้างก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลยจริงไหม?

We asked a medical expert, and then snapped some photos of people on drugs just to make sure.

มีการวิจัยและศึกษาค้นคว้าในสารเสพติดผิดกฎหมายทั้งหลายบนโลกนี้นับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะได้ผลลัพธ์ไปในทิศทางเดียวกันว่ายาเสพติดจะมีฤทธิ์ต่อตัวผู้เสพ ทำให้ผู้เสพรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขและตื่นตัวตลอดเวลา ซึ่งนั่นเป็นปฎิกริยาทางเคมีที่ร่างกายได้รับเข้าไปและส่งต่อไปสู่ระบบประสาทภายในสมอง

แต่ไม่ใช่เพียงแค่ระบบประสาทและสมองของเราเท่านั้น ที่จะมีอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการเสพยา เพราะมีการศึกษาค้นคว้ามาแล้วว่า ยาเสพติดยังสามารถส่งผลต่อกระบวนการทางสรีรวิทยา หรือร่างกายภายนอกของผู้เสพอีกด้วย โดยเฉพาะอวัยวะสำคัญของมนุษย์นั่นก็คือ ดวงตา

ดวงตาจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่ม่านตา เมื่อผู้เสพ เสพยาเข้าสู่ร่างกาย ม่านตาของพวกเค้าก็จะขยายใหญ่ขึ้น หรือหดเล็กลงแตกต่างกันไปตามชนิดของยาเสพติดนั้น ๆ

คนที่ติดยาเสพติดส่วนใหญ่จึงมักสวมแว่นกันแดด เพื่อลดอาการแสบตาจากปริมาณแสงที่ผ่านเข้าสู่ดวงตามากกว่าปกติ ทีนี้เรามาดูกันต่อเลยดีกว่าว่า ลักษณะดวงตาของคนที่เสพยาแต่ละชนิดนั้น มีลักษณะอย่างไรและแตกต่างกันตรงไหน เพื่อจะได้นำไปใช้สังเกตกันได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

สำหรับดวงตาของผู้ที่เสพ โคเคน, กัญชา หรือแอมเฟตามีนนั้น จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่า บริเวณของลูกตาดำจะขยายใหญ่ขึ้น ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า คนที่ใช้สารเหล่านี้ กำลังทำตาโตอยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้ที่ใช้สารเสพติดอย่าง เฮโรอีน ม่านตาจะหดเล็กลง ทำให้ผู้เสพรู้สึกเหมือนกับกำลังจะหลับ หรือหรี่ตาอยู่ตลอดเวลา

มีใครสงสัยไหมว่า เมื่อดวงตามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การมองเห็นจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยหรือไม่?

ผลการศึกษา และวิจัยระบุเอาไว้ว่า “ขนาดของม่านตาที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถบอกเราได้ว่า บุคคลดังกล่าวนั้นใช้สารเสพติดมาหรือไม่ก็จริงอยู่ แต่ต้องดูอาการอื่น ๆ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าคุณเจอคนที่เป็นโรคลมชัก คนเหล่านี้ก็จะมีอาการม่านตาขยาย เหงื่อออกง่าย เช่นเดียวกับคนที่ใช้สารเสพติด เพียงแต่พวกเขาป่วยเป็นโรค ไม่ใช่เป็นพวกใช้เสพสารเสพติดผิดกฏหมายแต่อย่างใด”

อย่างไรก็ตามดวงตายังมีจุดสังเกตที่ใช้เป็นหลักฐานที่สามารถบ่งชี้ได้อย่างแม่นยำซ่อนเอาไว้อยู่ นั่นก็คือ แววตาที่แตกต่างกันระหว่าง ความสุขุม กับ ความเหม่อลอย

งานวิจัยชิ้นหนึ่งได้นำเอาอาสาสมัครจำนวนหนึ่งมาทำการทดลอง โดยให้พวกเค้าสวมแว่น 3D ที่จะทำให้เห็นภาพต่างๆ เหมือนกับที่คนเสพยาเห็น กับอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคนปกติไม่มีการใช้สารเสพติด แต่มีสายตาเหม่อลอยอยู่แล้ว มาขับรถเพื่อสังเกตการตอบสนองทางร่างกาย

ผลปรากฏว่า คนที่ใส่แว่น 3D ที่เป็นการจำลองภาพเหมือนกับคนที่ใช้ยาเสพติดเห็นนั้น ไม่สามารถกะระยะที่ถูกต้องได้ ในทางกลับกัน คนที่มีสายตาดูเหมือนจะเหม่อลอยอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้ใช้ยาเสพติดนั้น สามารถกะระยะ และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยผลการศึกษานี้มีผลสรุปออกมาว่า

“ผู้ที่ใช้สารเสพติดประเภท โคเคน, แอมเฟตามีน และ ทีเฮชซี จะมีลักษณะการขยับของดวงตาคล้ายกับคนที่รับประทานยารักษาโรคประสาทหลอน ซึ่งมีผลให้การเคลื่อนไหวของดวงตามีความล่าช้า และค่อนข้างที่จะมีทิศทางที่จำกัด จึงทำให้พวกเขาดูเหมือนกับเป็นคนที่มีสายตาเหม่อลอย หรือบางคนอาจจะดูนิ่ง สุขุม แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของดวงตาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่างหาก”

“อาการที่แสดงออกมาผ่านดวงตานี้ จะชัดเจนมากที่สุดในช่วง 2 ชั่วโมงแรก หลังการใช้ยา และจะค่อย ๆ กลับคืนสภาพปกติอย่างช้า ๆ แต่รับรองว่าเกินกว่า 1 วัน แน่นอน ดังนั้นคนเหล่านี้จะต้องหลบเลี่ยงการเจอแสงอย่างน้อยที่สุดก็ 48 ชั่วโมง เพราะแม้ว่าดวงตาจะค่อย ๆ กลับคืนสู่สสภาวะปกติ แต่ประสาทการรับรู้ภายในดวงตา ยังคงมีความไวต่อแสงอยู่อีกนานพอสมควร”

ถ้าคุณมีการเรียนรู้วิธีการสังเกตและเห็นดวงตาของคนใช้สารเสพติดแต่ละประเภท ก็จะเห็นความแตกต่างได้ คุณจะสามารถฟันธงได้ทันทีว่าคนคนนั้นใช้สารเสพติดหรือไม่ เพียงแค่ได้คุยกันแบบเห็นหน้ากันครั้งแรก

นอกจากลักษณะดวงตาที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนใช้สารเสพติดส่วนใหญ่เก็บ 100 ทั้ง 100 เป็นเหมือนกันหมดทุกคน นั่นก็คือ ปัญหาอาการแพ้และอาการระคายเคืองตา เนื่องจากคนเหล่านี้ จะกระพริบตาน้อยแต่ใช้สายตาในการทำสิ่งต่าง ๆ นานกว่าคนปกติ ดังนั้นดวงตาจึงเกิดความอ่อนล้าและแห้งแสบ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการมองเห็นก็ลดลง อันเนื่องมากจากประสาทตามีอาการเหนื่อยล้าสะสมกันเป็นเวลานานอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่เป็นความรู้ และมีประโยชน์ที่เราได้นำมาให้ชาว UNLOCKMEN ทุกคนได้ทราบกันเอาไว้ในวันนี้ ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่า ในชีวิตประจำวันปกติก็แทบจะไม่มีเวลาไปมองหน้าใครแล้ว และไม่คิดว่าคนใช้ยาเสพติดจะมาอยู่ใกล้ตัวเองขนาดนั้น

แต่สำหรับบางคนแล้ว การสังเกตเห็นและมองสิ่งเหล่านี้ออกได้อย่างแม่นยำ อาจจะสามารถช่วยให้ไหวตัวได้ทัน ก่อนที่อันตรายที่เกิดขึ้นจากคนที่ใช้ยาเสพติดจะเข้ามาถึงตัวก็ได้ ยังไงรู้ไว้ก็ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ความรู้มีมากแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้หัวเรามีน้ำหนักมากขึ้นไปซะหน่อยจริงไหม

SOURCE