

World
300 ปี ของ “ยากูซ่า” วัฒนธรรมที่มากกว่าคำว่า “นักเลง”
By: unlockmen April 10, 2018 25992
ท่ามกลางแสงไฟและความสว่างไสวบนโลกใบนี้ ยังมีโลกอีกใบหนึ่งที่ดำมืด ถ้าด้านสว่างมีผู้คุมกฎหมายคือตำรวจ ผู้รักษากฎทางฝั่งโลกมืดก็คงจะเป็นมาเฟีย แต่มาเฟียบนโลกนี้ก็อยู่หลากหลาย เช่น อิตาลีที่มี La Cosa Nostra อเมริกามีมาเฟีย
แต่พวกเราเคยคิดสงสัยกันบ้างมั้ย? ว่าอะไรที่ทำให้ทุกคนต่างศรัทธา และทำเพื่อองค์กรทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีอันตรายมากมายรออยู่ และการที่คุณได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกแล้ว ต้องเป็นไปตลอดชีวิต แต่ก็ยอมแลกชีวิตด้านสว่างที่เหลือเข้าสู่เส้นทางดำมืด แต่ถ้าพูดถึงมาเฟียบนโลกนี้ คงจะไม่พูดถึงองค์กรที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 300 ปี อยู่รอดผ่านมาทุกยุคสมัย องค์กรที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยม เข้มงวด ยิ่งใหญ่ นามว่า Yakuza
Yakuza คำที่เราได้ยินมายาวนานนี้ ต้นกำเนิดของมันต้องย้อนกลับไปถึงช่วงต้นปี ค.ศ. 1612 ยุคที่ญี่ปุ่นยังมีซามูไร พวกเค้าถูกเรียกว่า Kabuki-Mono (คนบ้า) นั่นก็เพราะพฤติกรรมชอบดึงดูดความสนใจคนอื่น ไปไหนมาไหนชอบเป็นจุดเด่น อยากให้คนรู้สึกว่าพวกเค้าน่ะเจ๋ง จนไปสะกิดต่อมหมั่นไส้ของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้า กลายเป็นกลุ่มที่พวกเจ้าหน้าที่มักเพ่งเล็งที่จะหาจังหวะเก็บกวาดพวกเค้าอยู่แล้ว
อีกอย่างที่ Kabuki-Mono พวกนี้นิยมก็คือ การแต่งกายแปลกๆ สีสันฉูดฉาดเด่นสะดุดตา ตัดผมทรงที่คนปกติเค้าไม่ตัดกัน พฤติกรรมกร่างเก๋าหยาบคาย ไปไหนมาไหนมักจะพกดาบซามูไรที่ยาวอย่างกับราวตากผ้า พูดจาด้วยภาษาที่เข้าใจกันในเฉพาะพวกพ้อง ซึ่งต่างจากคนทั่วไปโดยสิ้นเชิง ซึ่ง Kabuki-Mono เหล่านี้ก็ทำตัวเละเทะสืบทอดกันมา จนเป็นนิสัยคล้ายกับแฟชั่นถ่อยแล้วเท่ ระรานคนไปทั่ว ทำให้ชาวบ้านต่างพากันส่ายหน้า
แต่พวก Kabuki-Mono เหล่านี้ก็มีข้อดี นั่นก็คือความรักพวกพ้องถึงขั้นพร้อมตายแทนกันได้ ไม่แพ้พี่น้องที่คลานตามกันออกมา มักอาศัยอยู่รวมกับเสมือนครอบครัว เมื่อรวมตัวได้มากขึ้น การทำมาหากินอย่างแรกที่คิดออกก็คือการเก็บค่าคุ้มครองจากชาวบ้าน และอีกทางนึงก็คือจากการเปิดบ่อนพนัน และชื่อของ Yakuza ที่เราเรียกๆ อยู่ในทุกวันนี้ ก็มีที่มาจากการเล่นไพ่ญี่ปุ่นของพวกเค้านี่เอง
Yakusa หมายถึง เลข 8, 9 และ 3 (Yattsu, Ku, San) เมื่อบวกรวมกันทั้งหมดจะได้ 20 พอดี ซึ่งในเกมการเล่นไพ่ญี่ปุ่น ถ้าคุณได้เลข 8+9+3=20 เท่ากับแต้มบอด หรือไม่มีค่า จึงเป็นที่มาของการเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Yakuza หรือพวกคนไร้ค่านั่นเอง เมื่อมีคนไร้ค่า Yakuza ก็ต้องมีฝั่งตรงข้ามอย่าง Katagi (堅気) หมายถึงคนปกติที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ทั่วไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับวงการ Yakuza และมีกฎข้อห้ามแบบเด็ดขาดอยู่ข้อนึงก็คือ ห้ามสมาชิกคนใดในองค์กรที่ได้ชื่อว่าเป็น Yakuza ก่อเรื่องกับชาว Katagi โดยเด็ดขาด
Yubitsumi, from Odo Yakuza
ถ้าพูดถึงด้านวัฒนธรรมของ Yakuza ที่มีมาอย่างยาวนาน และก็ยังคงใช้สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ก็คงจะเป็นเรื่องของการปกครอง และการลงโทษที่เข้มงวด รุนแรง โดย Yakuza ที่อยู่ในองค์กรเดียวกัน จะถูกปกครองแบบครอบครัว โดยหัวหน้าใหญ่จะเรียกว่า “พ่อใหญ่” ตามด้วยรองหัวหน้าที่เป็น “พ่อเล็ก” จากนั้นก็จะเป็น “พี่ใหญ่” และสมาชิกทั่วๆ ไปก็เปรียบเสมือนเด็กๆ ที่ต้องเคารพและห้ามขัดคำสั่งผู้ใหญ่อย่างเด็ดขาด
Yakuza ยังแบ่งได้อีกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Family Yakuza และ Lone Yakuza ในแบบแรกจะเป็น Yakuza ที่มีองค์กร หรือสังกัด มีรูปแบบการปกครองอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า ส่วนในแบบที่ 2 เรียกว่า Lone Yakuza หรือ Yakuza อินดี้ ไม่มีสังกัด ออกกร่างไปทั่วด้วยตัวคนเดียว ไม่มีการปกครองเหมือนกลุ่มแรก ยากูซ่าประเภทนี้มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทให้เห็นบ่อยๆ ตามร้านเหล้า ผับ บาร์ จะกร่างจะเก๋าที่ไหน ก็ไม่ต้องกลัวสะเทือนถึงองค์กร เรียกว่าเน้นแค่ใจถึงพึ่งได้ แต่ส่วนใหญ่จะตายไม่ค่อยดี
การลงโทษของ Yakuza มีมากมายหลายวิธีตามความรุนแรงในสิ่งที่ได้ทำผิดลงไป เริ่มจากเบาที่สุดคือการตัดผม ต่อมาก็จะเป็น กักบริเวณ -> ลดตำแหน่ง -> จ่ายค่าปรับ -> ตัดนิ้ว -> ไล่ออกจากกลุ่ม
รอยสักกับ Yakuza เป็นของคู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ Yakuza สมัยก่อนจะสักวงแหวนสีดำรอบแขนเพื่อแสดงถึงอาชญากรรมแต่ละครั้งที่ตนเองได้ทำลงไป แต่รอยสักพวกนี้ยังมีความหมายแสดงถึงความเข้มแข็ง ยิ่งสักเยอะยิ่งมีความอดทนมาก ยิ่งสักเยอะ บารมียิ่งมาก สังเกตุได้ว่า Yakuza ระดับสูงๆ แทบจะไม่ที่ว่างบนร่างกายหลงเหลืออยู่ นั่นก็เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีด้วยเช่นกัน เพราะถ้าลูกน้องมีรอยสักเยอะกว่า นั่นก็แสดงให้เห็นว่าตนมีความอดทนน้อยกว่าลูกน้อย และอาจจะเกิดการเหลื่อมล้ำทางอำนาจกันอีกด้วย
รอยสักตามตัวของ Yakuza นั้น ยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเต็มใจที่จะใช้ชีวิตในแบบที่คนปกติไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว สังคมในที่มืดที่เต็มไปด้วยเรื่องของอำนาจ อันตราย ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะเห็นได้ชัดเจนว่า ถ้ามีคนพร้อมรอยสักท่วมๆ เดินมา คนส่วนใหญ่จะเลือกที่จะอ้อมไปเดินอีกฝั่งทันที
เรารู้กันอยู่แล้วว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากการทำธุรกิจสีเทา ไปถึงดำ แต่สิ่งหนึ่งที่ Yakuza จะไม่ทำนั่นก็คือการปล้น เพราะการปล้นจะทำให้พวกเค้าดูกระจอก และเป็นพวกไม่มีศักดิ์ศรี โดยธุรกิจของ Yakuza จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ
แบบที่หนึ่งก็คือพวก Bakuto-Yakuza จะอาศัยอยู่ตามบ่อนมาตั้งแต่สมัยโบราณ Bakuto-Yakuza นั้นอาจจะเป็นเจ้าของบ่อน หรือเป็นผู้คุ้มครองเจ้าของบ่อนก็ได้ นอกจากนี้อาจเป็นผู้คุ้มครองบาร์ เลาจน์ หรือมีหน้าที่ตามทวงหนี้
อันดับต่อมาก็คือ Tekiya-Yakuza จะคอยเก็บเงินค่าคุ้มครองจากพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดแผงขายของตามงานเทศกาลต่างๆ Tekiya-Yakuza นั้นก็มาจากอดีตหัวหน้าที่หาเงินโดยการคุ้มครองทำเลการขายของ เพื่อไม่ให้ใครมาล้ำเขต
อันดับที่สาม Uyoku-Yakuza คือพวก Yakuza นักการเมืองอนุรักษ์นิยม หัวโบราณ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ และเกลียดคอมมิวนิสต์
กลุ่มสุดท้าย Gurentai-Yakuza เป็น Yakuza ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก Gurentai-Yakuza คือพวก Yakuza จำพวกแก๊งค์ป่วนเมือง อันธพาล ผู้ร้าย ไปจนถึงฆาตกร หรืออาชญากร Yakuza กลุ่มนี้จะอยู่กับแบบไม่มีกฎใดๆ ทั้งสิ้น ใครจ้างไปกระทืบใครไปหมด พวกนี้จะออกแนว Yakuza ที่ไม่ค่อยมีศักดิ์ศรีซักเท่าไหร่