“Work-Life Balance” วิธีสร้างสมดุลระหว่าง ‘งาน กับ ชีวิตส่วนตัว’ อย่างถูกต้อง!

หลายคนคงได้ยินวลีที่ว่า “Work-Life Balance” มาบ้าง นอกจากได้ยินแล้ว หลายคนคงเห็นหนังสือหรือโบรชัวร์ต่าง ๆ ที่แนะนำให้เรารักษาสมดุลระหว่าง การทำงาน กับ ชีวิตส่วนตัวให้ได้ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถจะทำมันได้อย่างเหมาะสม

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องปฎิเสธนัดกับครอบครัว เพื่อน หรือ แฟน เพื่อนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รออีเมลที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับงาน รวมไปถึงการที่คุณต้องโทรหาใครสักคน เพื่อคุยเรื่องงานถึงแม้ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ นั่นคือสัญญาณที่อาจจะบ่งบอกได้ว่า คุณกำลังสูญเสียสมดุลระหว่าง ชีวิตส่วนตัว กับ การทำงาน

วันนี้เราจึงขอนำเอาวิธีที่จะช่วยให้คุณรักษาสมดุลชีวิตและรู้จักแบ่งช่วงเวลาทั้ง 2 ออกจากกัน มาให้กับชาว UNLOCKMEN ที่คลั่งการทำงานเกินไป จนเริ่มมีปัญหาจากทางบ้าน เผื่อว่าจะทำให้ชีวิตที่วุ่นวาย กลายเป็นชีวิตที่เรียบง่าย เพียงแค่รู้จักรักษาสมดุล

How to Balance Work and Your Personal Life

วิธีสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้น มักจะใช้วิธีการเลือกสถานที่ที่จะแบ่งแยกเรื่องงาน ออกจากชีวิตส่วนตัวอย่างชัดเจน

เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว คุณต้องพยายามสงบจิตสงบใจ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวแตะต้องเรื่องงานอีกเลย ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณอยู่ในที่ทำงาน ก็อย่างนำเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาพัวพัน และพยายามทำงานให้เสร็จในที่ทำงาน

แม้ว่าจะดึกแค่ไหนก็ตาม คุณไม่ควรที่จะคิดว่า ถ้างานไม่เสร็จก็ค่อยเอาไปทำต่อที่บ้าน เพราะเมื่อคุณทำแบบนั้นจนเป็นนิสัย เรื่องทั้ง 2 ก็จะปะปนกันไปกลายเป็นเสียสมดุล และกลายเป็นปัญหาที่มีต่อผลกระทบกับคนรอบข้าง

Stop Being Available 24/7

สำหรับใครที่มีนิสัยตอบกลับอีเมลหรือรับโทรศัพท์ทุกสายสนทนาเกี่ยวกับเรื่องงาน แม้ว่าจะเป็นวันหยุด คนเหล่านี้ส่วนมาก มักจะถูกคาดหวังจากเพื่อนร่วมงาน และหากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บุคคลเหล่านี้จะเป็นพวกแรกที่ถูกโทรหา เพื่อให้ช่วยแก้งานด่วนแทนให้ ซึ่งเป็นการทำงานในเวลาส่วนตัวทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองด้วยซ้ำ

ดังนั้น หากคุณต้องการรักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวกับการทำงานเอาไว้ให้ได้ คุณต้องสร้างกฏขึ้นมาให้กับตัวเองก่อน เช่น คุณจะไม่ตอบกลับอีเมลหลังจากกลับบ้าน, คุณจะไม่ทำงานในวันอาทิตย์ หรือ จะไม่คุยโทรศัพท์เรื่องงานหลังจากที่เลิกงานแล้วก็ตาม

เมื่อคุณทำตามกฏชีวิตของคุณจนเคยชินแล้ว เพื่อนร่วมงานของคุณก็จะรู้ว่า ตัวเขาก็ควรเคารพกฏ และชีวิตส่วนตัวของคุณเช่นกัน เพราะพวกเขาจะรู้ว่า เวลาที่คุณทำงานก็จะทำงานหนักแบบสุด ๆ เวลาพักผ่อนคุณก็ไม่อยากจะให้ใครมารบกวน เมื่อทำได้ดังนั้นแล้ว ชีวิตการทำงาน และ ชีวิตส่วนตัวของคุณ ก็จะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน

Don’t Bring Work Home with You

อย่างที่เราบอกไปในข้อที่แล้วว่า คุณควรตั้งกฏให้กับตัวเองขึ้นมา โดยเฉพาะการที่จะไม่นำเอางานกลับไปทำที่บ้าน ซึ่งถือเป็นการทำลายสมดุลของชีวิตส่วนตัว กับ การทำงานมากที่สุดเลยก็ว่าได้ คุณต้องเรียนรู้ที่จะพักผ่อน ลดความเครียด และการจัดสรรเวลาให้มากขึ้น

คุณต้องตื่นเช้า ทำงานให้เสร็จทันเวลาเลิกงาน พยายามใช้เวลาทำงาน ทำงานให้เสร็จ และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ควรไปโฟกัสกับเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงาน ส่วนเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ก็ควรจะโฟกัสแต่เรื่องการพักผ่อน หรือ โฟกัสไปที่การใช่ชีวิตส่วนตัวเป็นหลักแทน

อย่างน้อยๆ คุณควรเริ่มจากการที่ทำงานให้เสร็จทัน ตามที่ได้รับมอบหมายไว้ในแต่ละวัน และเมื่อเดินก้าวขาออกจากออฟฟิศ​ คุณก็ควรจะปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างเกี่ยวกับงานลงซะ จะได้ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปในเวลาพักผ่อน

Cultivate New Interests and Hobbies

บางคนอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาเวลาพักผ่อนไปหมกมุ่นกับการทำงาน แต่เนื่องจากว่า พอถึงเวลาว่าง ๆ อย่างในวันหยุด ก็ไม่รู้จะนั่งทำอะไร หรือ ออกไปไหนดี มันว่างไปหมด ก็เลยถ้ามีงานทำก็น่าจะพอคลายเหงาไปได้บ้าง แต่เราขอแนะนำว่า แทนที่คุณจะเอาเวลาว่างไปหางานอะไรสักอย่างทำดู

ลองเอาเวลาว่างของคุณ ไปหากิจกรรมอะไรใหม่ ๆ หรือ จะเป็นการทำงานอดิเรกที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับงานหลัก และเป็นเพียงสิ่งที่คุณชื่นชอบเป็นการส่วนตัวดูก็ดีไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มทักษะ ลดความเครียดจากการทำงานเป็นประจำให้คุณได้แล้ว มันยังสามารถช่วยสร้างสมดุลชีวิตของคุณ ระหว่าง การทำงาน และ การใช้ชีวิตส่วนตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้นอีกด้วย

Schedule Personal Activities on Your Calendar

ให้เวลากับตัวเองสำคัญพอ ๆ กับเวลาที่คุณทำงาน ถ้าหากคุณจดบันทึกลงในปฏิทินอยู่เป็นประจำว่า วันไหนจะต้องทำงานอะไร ที่ไหน กี่โมง ให้คุณลองทำแบบนั้น ลงในปฏิทินสำหรับเวลาส่วนตัวบ้าง การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณบริหารเวลาในการใช้ชีวิตส่วนตัว กับ การทำงานได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถวางแผนทั้ง 2 เรื่องได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

 Use All of Your Vacation Time

หลายคนมองว่า การทำงานตลอดเวลา โดยที่ไม่เคยมีเวลาส่วนตัวเลยนั้น เป็นเครื่องหมายของความขยัน และจริยธรรมที่น่ายกย่องในชีวิตการทำงาน แต่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด คุณจะสามารถทำงานออกมาดีได้อย่างไร ถ้าหากสุขภาพร่างกาย และจิตใจของตัวเองยังไม่ดี ดังนั้น คุณควรจะหาเวลาพักผ่อนให้ได้ ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่ ต้องมีเวลาชดเชยให้กับการพักผ่อนของตัวเองมากเท่านั้น เพื่อจะได้สร้างสมดุลทั้งความสุข และความสบายใจไปควบคู่กับการใช้ร่างกาย และมันสมองไปกับการทำงาน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งเวลาทำงาน และเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวให้แยกออกจากกัน อีกทั้งยังช่วยให้มีความสมดุลไม่สูญเสียอย่างใดอย่างหนึ่งไปจนชีวิตออกนอกลู่นอกทาง ดังนั้น หากใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถแยก 2 เรื่องนี้ออกจากกันได้อยู่ล่ะก็ ลองนำสิ่งเหล่านี้ไปปฏิบัติกันดูนะครับ ได้ผลไม่ได้ผลอย่างไร อย่าลืมมาบอกต่อกับเราให้ทราบด้วยก็แล้วกัน

SOURCE