

Life
How to be Bad Boy part 3 (Ending)
By: Thada November 27, 2015 19664
หลังจากผ่านมา 2 part สำหรับ Content ไตรภาค How to be bad boy ในสไตล์ของ UNLOCKMEN ก็เดินทางมาถึงตอนจบเสียแล้ว ซึ่งใน Part นี้เราจะขอพูดถึงการปฎิบัติตัวในการออกเดท และสร้างความประทับในแบบฉบับลูกผู้ชายตัวจริง ก็เปรียบเทียบได้ว่าเนี่ยคือภาคปฎิบัติขั้นตอนสุดท้ายในหลักสูตรวิชาการเป็น Bad Boy เพราะ 2 part ก่อนนี้ที่พูดถึงเรื่อง Behavior and habit ก็เหมือนเป็นการเรียน Lecture ในห้องเรียนที่เราจะต้องศึกษาปรับทัศนะคติของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็มาต่อในตอนการ Bulid Confident ที่เราจะต้องมาเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเพื่อเป็นการวัดความพร้อมที่เหมือนเป็นการทำข้อสอบใหญ่ปลายภาค ก่อนออกไปปฎิบัติจริง
ผู้ชายเราออกเดทมานับครั้งไม่ถ้วน จนอาจจะคิดว่าจะมาบอกเราทำไม แต่จริงๆ แล้วการที่เราสามารถชนะใจคู่เดทของเรา และสร้างความประทับใจในแบบฉบับของตัวเองได้นั้น ก็เหมือนเป็นการแสดงจุดยืนที่ว่า ถ้าเราจะเดินต่อไปเธอจะต้องยอมรับในความเป็นเรา ทำให้เธอรู้สึกว่าต้องเลือกเรา เพื่อให้ใครหลายๆคน อิจฉาเธอ
Be On Time
เป็นผู้ชายควรเป็นคนตรงต่อเวลา โดยเฉพาะกับเวลาเดทแล้ว ถ้าเพียงเรื่องง่ายๆ คุณยังทำไม่ได้ เราก็มั่นใจว่าคงไม่มีใครจะฝากอนาคตไว้กับคุณได้ ผู้ชายมักจะคิดเห้ย เราเป็น Bad Boy ต้อง ดิบ เถื่อน ทำอะไรให้มันขวางโลก เริ่มจากการไปสายก่อน ซึ่งนั้น Foul มากๆ เชื่อเราเถอะการที่เราไปก่อนเวลานั้น จะทำให้คู่เดทของเรามีความเกรงใจ และรู้สึกถึงความใส่ใจ
Be Surprise
ทำให้มันเคยชินจนเป็นนิสัย เราอาจจะไม่ต้องทำหวานแบบหนุ่มน้อยผู้แสนดีโดยการหาซื้อดอกไม้ไปในทุกๆ เดท แต่เราอาจจะหาของอะไรที่มันดูน่ารัก แต่ไม่มิ้งมุ้ง หรืออาจจะหามายากลง่ายๆ เพื่อมา suprise คู่เดทของเราอยู่เสมอ เพราะทุกคนครั้งที่เราสร้างความประทับใจให้กับผู้หญิง เขาก็กำลังตกอยู่ภายใต้กำมือเราทีละนิด ทีละนิด จนถึงวันที่เราสามารถคุมเกมส์นี้เองได้ หลายคนอ่านแล้วแบบเอิ่มเนี่ย มัน Nice Guy ชัดๆ ถ้าเชื่อว่าวิธีนี้เวิรก์ไม่ลองไปดูเรื่องราวของคุณ John Mayer เขาใช้เทคนิคแบบนี้หละถึงทำให้สาวๆ ทั่วโลกคลั้งไคล้เขานั้นเอง และได้คั่วแต่ตัวแม่ของวงการทั้งนั้น
Good Listener
จากบทก่อนที่เราพูดถึงการฝึกพูดเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่พอถึงในเวลาจริงเราก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่เป็นผู้ฟังที่ดี เพราะผู้หญิงเขาแค่ต้องการคนรับฟังเรื่องราวในชีวิตเขา เราไม่ต้องไปโม้ บรรยายสรรพคุณตัวเองอะไรเลย ถ้าเขาอยากรู้เรื่องของเราเดี๋ยวพวกเธอก็จะไปหาวิธีสืบเอาเองหละ ให้ทำตัวเหมือนเป็นกล่องของขวัญอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกรู้สึกอยากค้นหาตัวเรา เหมือนการที่พยายามแกะห่อของขวัญเพื่อดูสิ่งของข้างใน เพราะ Moment นั้นหละ คือ ช่วงที่ผู้หญิงรู้สึกตื่นเต้น และอยากเอาชนะเรามากที่สุด แต่ไม่มีรู้หลอกพวกคุณกำลังติดกับดัก Bad Boy อย่างเรา
Be Cocky
Be Cocky ในที่นี้หมายถึงพยายามสร้างเสียงหัวเราะ หรือคอยกวนเหยาแหย่ ให้อีกฝ่ายรู้สึกสนุกเวลาที่อยู่กับเรา แต่ก็ไม่ใช่ให้ไปกวนจนอีกฝ่ายรำคาญ เพราะผู้หญิงบางคนก็ไม่ได้ชอบคนกวนมากๆ เอาแค่หอมปากหอมคอ แต่กับบางคนที่บอกเราไม่ใช่คนเฮ ฮา พูดก็ไม่ค่อยเก่ง อันนี้ก็ต้องพัฒนาบุคลิกกันหน่อย พยายามศึกษาว่าคู่เดทของเราสนใจ ชอบอะไร และก็พยายามยิงแต่เรื่องพวกนั้น และปล่อยให้เธอเป็นคนพูดไป แล้วเราก็แค่อย่าลืมคำเชื่อมประโยค เพื่อต่อบทสนทนาต่างๆ กับพวกเธอ เพียงเท่านี้ก็คุยกันยาวๆ ได้ทั้งคืน
Be Gentlemen
อย่าฉวยโอกาสกับผู้หญิงอันนี้สำคัญมากถึงมากที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่คุณทำตัวเป็นมือปลาหมึก โดยที่ผู้หญิงยังไม่รู้สึกอะไร นั้นเท่ากับปิดประตูจบเกมทันที ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยเวลาที่อยู่กับเราไม่ใช่ ทำตัวให้เขาคอยระแวง แบบนี้ก็ไม่ต่างจากการฝากบ้านไว้กับโจร ถ้าเกิดจะมีการถูกเนื้อ ถูกตัวกันก็ขอให้ดู Body Language ของฝ่ายหญิงว่าพร้อมหรือยัง มิฉะนั้นอาจโดนฝ่ามือของพวกเธอๆ อาจจะเป็นได้
และทั้งหมดนี้ก็เป็นคู่มือฉบับ 2015 สำหรับหนุ่มๆ ที่อยากจะเดินสาย Bad Boy แบบเท่ ให้สาวๆ ได้หลงใหลไปตามๆ กัน แต่ทั้งนี้ที่เราได้ไกด์มาทั้งหมดบางทีก็ไม่สามารถใช้ได้กับผู้หญิงทุกคน เพราะผู้หญิงแต่ละ คนก็มีความเป็นตัวของตัวเอง เหมือนที่เราเป็น แต่ข้อแนะนำของเราคือ ถ้าคุณคิดจะยิงยาวความสัมพันธ์กับใครสักคนแล้ว อย่าเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้เขาพอใจ เพราะสุดท้ายเมื่อมันไม่ใช่ตัวคุณ คุณก็จะทนทำมันไม่ได้นาน และก็กลายเป็น Converse เลิกลากันไป แล้วจะเสียน้ำตา เสียเวลาเปล่าๆ
สำหรับใครที่ตาม Part 1 และ 2 ไม่ทันสามารถย้อนไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้