How to Be Munkong : จากยูสเซอร์พันทิป สู่ “Munkong Gadget” ร้านหูฟังระดับพระกาฬ

ถ้าพูดถึงหูฟังต้องนึกถึงมั่นคง กลายเป็นคำพูดที่ติดปากใครต่อใคร ไม่ใช่แค่เพียงคนเล่นหูฟังเท่านั้น แต่คนทั่วไปที่อยากจะได้หูฟังเหมาะ ๆ สักคู่ ก็พร้อมที่จะเดินเข้าไปปรึกษาหาข้อมูลจากร้านมั่นคงอยู่เสมอ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจที่ทางมั่นคงสร้างรากฐานต่อลูกค้าอย่างซื่อตรง

นับตั้งแต่วันแรกจวบจนถึงทุกวันนี้ รวมแล้วก็เกือบ 12 ปี ที่ร้านมั่นคงยืนหยัดอยู่ในวงการหูฟัง จากจุดเริ่มต้นของชายที่รักการฟังเพลงผ่านหูฟัง เป็นไงมาไงจนเกิดมาเป็น แบรนด์มหากาฬที่ใคร ๆ ก็ล้วนแต่พูดถึง UNLOCKMEN จะพาไปพูดคุยและทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงว่าจนวันนี้ทำไม มั่นคงถึงยังมั่นคง

เราเก๋าเพราะเราอยู่นาน

พูดคุยกับคุณกมล พูนทรัพย์ (เฮียมั่นคง) และ คุณอัฐพงษ์ เอี่ยมไพบูลย์ (มิสเตอร์เบียส) สองแกนหลักผู้สร้างมั่นคงให้เป็นมั่นคงแบบทุกวันนี้

UNLOCKMEN :  จุดเริ่มต้นของการเป็นมั่นคง

จริง ๆ แล้วคืออาชีพเดิมมันทำแล้วมันไม่พอกิน ไม่รุ่ง ทำไปแล้วหายังไม่พอค่าน้ำมันรถเลยบางที เลยคิดอยากที่จะทำอะไรที่มันง่าย ๆ ตอนแรกก่อนที่จะเริ่มคิดขายจริง ๆ เนี่ย ทั้งเฮียและพี่เบียสเป็นคนชอบฟังเพลงทั้งคู่ หลังจากฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ไปโดนใจหูฟังตัวหนึ่งที่เราชื้อเก็บมาจาก eBay

หูฟังตัวแรก ยี่ห้อ KOSS รุ่น KSC35 เนี่ย ก็ไม่ได้คิดจะมาขายนะ คือเราก็เหมือน User ทั่วไปที่เวลาเจอของเจ๋ง ๆ ก็อยากเล่าอยากบอกต่อ พอเราเล่าเนี่ย จุดที่เกิดเลยคือคนรู้สึกสนุก อ่านแล้วรู้สึกชอบ อ่านแล้วคัน คันแล้วรู้สึกอยากได้ คนก็เลยยิ่งสนใจ และยุคก่อนก็จะสั่งสินค้ากันไม่เป็น บางคนก็เลยฝากชื้อกันก่อน

ทำไปทำมา เหมือนขายหูฟังตัวเดียว ขายอยู่ 5 -6 เดือน พอสักพักเราคิดว่ามันพอมีกำไร และเรามองว่าทำคนเดียวไม่ Work ละ ต้องทั้งไปขายและทำออนไลน์อีก ประจวบรู้จักกับคุณเบียสเลยชักชวน มึงเอาไหม มาลองทำด้วยกันไหม เพราะต่างคนทางเดิมของตัวเองก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่

พี่เบียส : ก็เลยมาร่วมมือกัน

UNLOCKMEN : จุดไหนของเฮียที่รู้สึกว่า เฮ้ย ต้องทำแล้ว 

คนเราทั้งหมดเนี่ย เมื่อเริ่มจะทำธุรกิจตัวใหม่คือมันต้องมองเห็นความเป็นไปได้ก่อน สุดท้ายมันต้องไปได้ ถ้ามันไม่ได้ก็ไม่มีใครอยากทำหรอก

สุดท้ายวันนั้นที่เริ่มขาย คือมันมีตัวเลขมันมีกำไร เดือนหนึ่งเตาะแตะและหลัง ๆ ชักหลายหมื่นบาทละ เลยลองหาที่ถูก ๆ หน่อยแล้วไปเช่าร้านเล็ก ๆ เริ่มต้นกัน และที่แรกของมั่นคงคือที่พันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ถูก ๆ ตอนนั้นก็ค่าเช่า 12,000 บาทแล้วนะ

ตอนนั้นคือตายเอาดาบหน้า คือช่างแม่ง ถ้าเจ๊งก็คือเจ๊ง เจ๊งก็เลิก ง่าย ๆ แค่นั้นเอง

พี่เบียส : ปกติชีวิตมันก็เจ๊ง ๆ อยู่แล้ว ก็คือไปลองเจ๊งดูข้างหน้า

UNLOCKMEN : เปิดร้านก็แล้ว เดินหน้าไปทางไหนต่อ

พอหลังจากนั้นเหมือนลงไปขายเนี่ย เราก็ต้องสู้นะ ปลดล็อคตัวเองให้ได้ ไม่ใช่แบบจะไปถึงวาง ๆ รอฟ้ารอฝน คนจะมาชื้อ มันไม่ใช่นะ มันต้องมีวิธีการที่จะพาคนเข้ามา ต้องพยายามสื่อสาร คือในยุคสิบปีที่ผ่านมาเนี่ย เฮียแทบจะเป็นคนแรก ๆ ในยุคของ e-commerce ในการสื่อสารยุคนั้น

Facebook พี่ Mark Zuckerberg ยังแก้ผ้าวิ่งเล่นอยู่เลยซ้ำ จริงไหมละ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเลย ยุคนั้นคนยังไม่มีสมาร์ทโฟน เพราะงั้นอย่างเดียวที่ทำได้คือต้องพยายามสื่อสารให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนั้นให้ได้เยอะที่สุด

UNLOCKMEN : แล้วถ้าเทียบตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันมากไหม

วิธีสื่อสารมันยังคงเป็นวิธีเดิม แต่เครื่องมือมันเปลี่ยนไป คือเหมือนตอนนี้เนี่ย สมัยก่อนทุกคนจะมีคอมใหญ่ ๆ ที่บ้าน หรูขึ้นมาหน่อยก็คือพกโน้ตบุ้ค (แพงมาก) แต่พอเล่นไปเล่นมา ทุกอย่างในวันนั้นมันกลายมาเป็นมือถือในวันนี้

เพราะงั้นเครื่องมือสื่อสาร ตอนนี้ทุกบ้านมีแล้ว กลายมาเป็นต้องคิดว่าวิธีการที่จะสื่อสารกับลูกค้า คืออะไร คุยอะไรกับลูกค้าถึงจะไวและเข้าถึงได้อย่างเข้าใจ นี่คือเรื่องสำคัญ

UNLOCKMEN : Inspiration ชื่อมั่นคงกับโลโก้ มาจากไหน

ชื่อแบรนด์ จริงๆ ชื่อมั่นคง มันเป็นชื่อเล่นในพันทิป มันใช้ชื่อว่านายมั่นคง มันดูแล้วมันนิ่ง ๆ ดี คนก็อ่าน ๆ และก็จำ ปัญหาคือตอนเปิดร้านคนก็จำได้หมดละ ถ้าจะให้ไปเปิดร้านแล้วชื่อว่า MNK Audio ไรงี้ ใครจะไปรู้จัก มันไม่จำอะ มันต้องมั่นคง เรารู้สึกว่า ข้อมูลมันมีแต่คำว่า มั่นคง มั่นคง แต่ถ้าดันทะลึ่งไปเปิดชื่ออื่น ไม่รู้จะทำไปทำไม ก็เลยใช้ชื่อนี้

ส่วนโลโก้ ไม่ได้คิดก่อนเปิดร้านแล้วมาคิดนะ โลโก้นี่ทำก่อนอะไรเลย มาจาก Avatar รูปตัวให้คนได้จดจำ (pantip) เลยแม่งเอาหน้าเราเองนี่แหละ มาดราฟให้มันเป็นสี เป็นเส้นตาและทำเองหมดเลย ไม่จ้างใครอยู่แล้ว เพราะที่ไม่จ้างคือ มันเหมือนเรามีมุมมองที่ลึกกว่าคนที่จ้าง แล้วถ้าไปจ้างใครมาแล้วกลัวไม่ถูกใจ เลยทำเอง เล่นเอง ดีไซน์เองหมด ใช้เวอร์ชั่นนี้มาจนปัจจุบันก็ไม่เคยเปลี่ยน

UNLOCKMEN :  การหา Partner สักคนมารวมลงหัวลงท้ายด้วยกัน ดูจากอะไร

พี่เบียส : มันไม่มีอะ มันต้องอยู่ด้วยกันไปก่อน ไม่ใช่อยู่ดี ๆ นายหล่อดี มาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราเถอะ มันไม่ใช่อะ

เฮียมั่นคง : ไอนี่จริง ๆ มันพูดยาก พาร์ทเนอร์เนี่ยเวลาทำด้วยกัน ในใจต้องตั้งเป้าด้วยกัน สองคนมันเหมือนทั้งมือทั้งขา บางคนมือขาอาจชำนาญทั้งคู่ แต่บางคนอาจชำนาญทีละอย่าง เหมือนเล่นกีฬา เก่งคนเดียวก็ได้ แต่บางทีสองคนก็รวมกันแล้วเก่งกว่าก็มี แล้วเราเป็นแบบนั้น มันลักษณะเหมือนเราทำงานกันเป็นทีม ก็แบ่งกันไป

UNLOCKMEN :  ถ้าลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน ใจความสำคัญ บริการที่เฮียแนะนำคืออะไร

อันดับแรกเลย สินค้าเนี่ยต้องมีสินค้าที่หลากหลายให้เขาเลือกก่อน และลูกค้าทุกคนกลัวที่สุดเลยคือ กลัวพนักงาน กลัวการกดดันจากคนขาย พอลูกค้าเข้ามาเจอพนักงานขยับเข้าใส่ แทบจะหนีออกจากร้านไปเลย ผมรู้ว่าอารมณ์นี้ใครก็เป็น และคนไทยแปลก ไม่ใช่ว่ามีเงินหรือไม่มีเงินนะ แต่ไม่รู้อะฉันยังไม่ได้อยากจะชื้อ แต่ฉันแค่อยากดูว่าร้านมีอะไรบ้าง ปล่อยฉันไว้เถอะ

มันคือที่มาว่า ถ้าลูกค้าเดินเข้ามา เราจะทิ้งช่องว่างไว้ จนกว่าเมื่อไหร่ที่คุณขอความช่วยเหลือ ทีมจะคอยถามว่าต้องการอะไร

UNLOCKMEN : นอกจากนี้ หมัดเด็ดของมั่นคงคือ ?

ที่จริงนี่คือกลยุทธ์เลย และสังเกตเลยว่าสินค้าทุกตัวในร้าน แทบจะ 100% เป็นสินค้าที่มี Demo อันนี้คือจุดยืน จุดแข็งเลย ของมั่นคงตั้งแต่แรกสุด อย่างที่เราเห็นเนี่ยมี 1,000 รายการ เชื่อไหมว่า เรามีเดโม่ให้ฟังเกือบ 1,000 รายการ หาไม่ได้ที่ไหนแล้ว เพราะคนที่แกะเดโม่ให้เทสต่อ 1 ชิ้นเนี่ย เจ๊งกันหมด อยู่ไม่ได้หรอก พัง

พี่เบียส : แถมพนักงานก็รู้ทุกตัวด้วยนะ หยิบอะไรก็บอกเลย รู้หมด

UNLOCKMEN : ตอนรับพนักงาน มีเลือกหรือมีสอนไหม

การขายสินค้า ผมไม่ได้ดูเรื่องฝีมือนะ ผมดูเรื่องทัศนคติ ไม่สนว่าเก่งไม่เก่ง ผมเชื่อว่าคนฝึกฝนเก่งทุกคน แต่ทัศนคติไม่ดี บอกให้เค้ากลับมาทัศนคติดีเนี่ย มันทำยากมาก

รู้ไว้เลยว่าเวลาเลือกคนเนี่ย เลือกคนที่ทัศนคติดีเท่านั้น ที่จะอยู่และทำงานได้ดี ไม่ใช่รับเข้ามาด่าบริษัทแม่งให้เงินน้อย ใช้งานกูหนัก อะไรแบบเนี่ย Thinking มันไม่ดี มันทำต่อไม่ได้ ทำอะไรที่เดิมไม่ได้ ทำที่ใหม่ก็ไม่ได้

UNLOCKMEN : หูฟังในร้านเฮียคัดผ่านหูก่อนไหม

อย่างงี้ก่อน แบรนด์นำเข้าเนี่ย ผมคัดเลือกก่อนทุกแบรนด์ แต่ถ้าเป็นของศูนย์ไทย ผมจะเลือกเป็นบางรุ่นที่ดีมาจำหน่าย ก็เท่ากับผมเลือกให้ลูกค้าอยู่ดีแหละ เราเลือกผ่านหูทุกตัว เลือกในที่นี้ไม่ใช่เลือกจากถูกมาขายหรือแพงมาขายนะ

เราเลือกรุ่นที่มีคุณภาพ เพราะแต่ละแบรนด์แต่ละรุ่นมีทั้งดีไม่ดี อย่างรุ่นก่อนอาจไม่ดี รุ่นใหม่ออกมาดี เราก็คัดและเลือกสั่งอันนั้น ต้องคัดเลย เพราะเวลาลูกค้าเลือกหรือซื้อกลับไปแล้ว ผิดหวังเนี่ย เลิกเล่น ไปเลยก็มี เพราะมันเฟล เหมือนกูจ่ายแพง จ่ายเยอะแล้ว มันไม่ได้ดี ผมเลยเน้น ๆ เลยเนี่ย ลูกค้าที่ซื้อกลับไปแล้วเขาต้องฟังเพลงเพราะและสนุก

UNLOCKMEN : นึกถึงหูฟัง ต้องนึกถึงมั่นคง คำนี้มายังไง 

เราขายหูฟังอย่างเดียว เราเป็นหูฟังอาชีพ เราไม่ขายอย่างอื่น เคยคิดหลายทีที่จะขายอย่างอื่น พวกที่ไม่เกี่ยวกับเราอย่าง Gadget พอมองหน้ามองกันไปมา ไม่เอา ขายอันนี้อย่างเดียวให้เจ๊งกันไปเลย ให้มันรู้ว่าเจ๊งเพราะขายอย่างงี้อย่างเดียว

เวลาขายจุดแข็งคือ เราวางตัวเองเหมือน Specialist ด้านนี้เลยดีกว่า ป่วยการที่จะแทรก ๆ ไปขายอะไรที่ไม่ใช่เรา ตอนนี้ทุกคนเลยรู้เลยว่า ถ้าหูฟังต้องมั่นคง เพราะมึงเป็นหูฟังมืออาชีพนี่หว่า

เอาจริง ๆ ถ้าเข้ามาในร้าน แล้วเลือกไม่ได้สักตัวนี่ ผมให้เตะเลยเนี่ย เพราะว่าพวกแบรนด์ในโลกนี้แทบจะทั้งหมดแล้ว หลัก ๆ ของโลกอยู่ที่นี่ มีแค่ประปรายเท่านั้นที่ไม่ได้เลือกมา และมั่นคงไม่ขายหลักพัน หลักหมื่นขึ้นไปนะ เรามีรองรับตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ที่คัดมาตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อย หลักพันต้น ๆ เล่นไปเรื่อย ๆ จนถึงมือแอ๊ดวานซ์สุดทางของมันเราก็ทำอยู่

UNLOCKMEN : แล้วเรื่องของธุรกิจ ตอนนี้โตไปกี่สาขาแล้ว

มี 8 สาขา เป็น Shop 7 เป็น Online 1 และบนออนไลน์เหมือนเปิดร้านเลย มีคนอยู่ตลอด เป็น e-commerce เต็มรูปแบบ มีระบบคัดกรองสินค้าให้เลือก ไม่ใช่แค่ราคาสูงสุด ต่ำสุด แต่ของมั่นคงเป็นเข้าถึงคนฟังสุด คุณชอบเสียงแบบไหน แนวไหน ก็จะฟิวเตอร์ไปให้ตามใจคนชื้อ ละเอียดโคตร ๆ เหมือนถามพนักงานเลย และไม่ต้องห่วงด้วย เรามีวิดีโอ มีรีวิวประกอบหมด พูดได้เลยว่าสำหรับลูกค้าต่างจังหวัด e-commerce เราแข็งแกร่งพอสมควร

UNLOCKMEN : แล้วตลาดที่มันขยับขึ้นทุกปี คนซื้อหูฟังมีมากขึ้นบ้างไหม

ขยับนะ มันโตขึ้นเหมือนกัน แต่มันไม่เร็ว มีโอกาสที่มันจะไปเรื่อย ๆ มันไม่ก้าวกระโดด แต่มันก็โตขึ้นทุกวัน เพราะประเทศไทยเนื่องด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะสภาพอากาศ ที่ทำให้หูฟังแต่ละรุ่นอาจโตสู้ต่างประเทศ ไม่ได้

คนไทยยังอายที่จะใส่หูฟังออกนอกบ้านไปไหนมาไหน และอีกอย่างคือบ้านเรามันร้อน คิดดูใส่หูฟังใหญ่ ๆ มันจะเป็นยังไง แบบนี่แหละสภาพแวดล้อมก็มีส่วน ทำให้ตลาดมันค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป

UNLOCKMEN : คิดจะทำแบรนด์หูฟังของตัวเองไหม

มีคนถามเข้ามาเยอะเหมือนกัน นี่บอกตรงนี้ไว้เลยนะ ถ้าวันใดที่มั่นคงคิดจะทำแบรนด์ คือเป็นวันที่มั่นคงเจ๊ง เลิกทันที เพราะมันจะเสีย เสียจุดที่เคยทำมา วันนี้ผมขายแบรนด์เป็นร้อย ๆ แบรนด์ ผมเลือกหยิบแบรนด์ที่ตรงกับลูกค้ามากที่สุด อยากให้ลูกค้าได้ดีที่สุด แต่เมื่อไหร่ที่เป็นแบรนด์มั่นคง หยิบออกมาให้ลูกค้าว่านี่แหละ เอาของแบรนด์มั่นคงสิ ดี

เฮียเบียร์ : เชียร์อยู่อย่างเดียว ตาย แบรนด์อื่นเลิกด้วย และเราก็ไม่เชื่อว่าเราจะทำหูฟังได้ดีเท่ากับพวกที่ทำออกมาเฉพาะทาง ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีอะไรเลย นอกจากจะมีทำแจก ไม่ขาย แจกกันไปเลย แบบนั้นอาจมี ถ้าทำขายมันเสียจุดยืน เข้ามาในร้านก็เห็นเลย เราไม่มียี่ห้อไหนเน้น ๆ ยี่ห้อเดียว เราวางปะปน ไม่มีนัยยะ ว่าอะไรเด่น ให้ลูกค้าเป็นคนเลือก

เฮียมั่นคง : ฝากไว้อีกเรื่อง อย่าลืมว่าหูฟังไม่ใช่แพงสุดจะดีที่สุด ไม่ใช่ไปร้านไหน บอกแพง ๆ แล้วแม่งจะดี เลือก ๆ ไปเหอะ มันไม่ถูก อย่างผมเนี่ยขายเอง ผมก็ไม่เห็นได้เลือกใช้ของที่แพงที่สุดเลย แต่ผมเลือกของที่ถูกหูตัวเองที่สุดต่างหาก ดังนั้นถ้ามีใครบอกว่าหูฟังที่แพงที่สุดคือดีที่สุด เฮียบอกได้เลยพวกมันไม่รู้เรื่อง จริง ๆ หูฟังที่ดีที่สุดคือเข้าหูมึงที่สุด ถูกใจมึงที่สุด นั่นแหละคือถูกแล้ว

UNLOCKMEN : ทำกันมา 11-12 ปีแล้ว ความสนุกตรงนี้มันคืออะไร

ความสนุกคือมันต้องได้เงินไง ฮ่า ๆ เฮียจะบอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ไว้เลยนะครับ ใครที่บอกทำเพราะความรัก (Passion) อย่าไปเชื่อมัน จริง ๆ ทำแล้วมันต้องได้เงิน ต้องได้ก่อน แต่หลังจากนั้นถึงดูว่าเราได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น จนพอใจระดับหนึ่งไหม ด้วยความที่มันเป็นของที่เราถนัด เราอยู่กับมันมานาน เหมือนแขนขา แล้วได้เงินด้วย มันก็ยิ่งได้ความสนุกตรงนี้

และอีกข้อหนึ่งคือ ทุกวันนี้ เหมือนเราได้ปล่อยของ คิดแล้วโดนไหม การตลาดลูกค้าชอบไหม บ้าบอ ๆ แล้วชอบไหม มันเหมือนทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อสนองตัณหา Need ของตัวเอง และก็ไม่สนใจว่าใครจะดูหรือไม่ดู แต่กูจะทำอะ อยากทำ คือทั้งนี้เราต้องดูตลาดด้วย เราทำไปแล้ว เค้าไม่ตอบรับหรือเปล่า หรือตอบรับแบบไหน ถ้าคัดค้านอย่างรุนแรง เราอาจต้องถอย

UNLOCKMEN : เคยเจออุปสรรค จนไม่อยากทำบ้างไหม

อุปสรรคในการทำงานมันมีแต่ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น ตรงนี้ขายดีไหม ตรงนั้นขาดทุนไหม มันมีอยู่แล้ว แต่นั่นมันไม่ใช่อุปสรรคของมั่นคง และถามเคยท้อจะเลิกไหม บอกเลยว่าไม่เคย ไม่มีอยู่ในหัวเลย ไม่มีท้อและไม่กลัวต่ออุปสรรคด้วย ถ้าไม่ได้ทำคงมีอย่างเดียว … เมียไม่ให้มาทำ

UNLOCKMEN : แล้วตอนนี้คิดว่ามั่นคง UNLOCK ตัวเองออกมาหมดแล้วหรือยัง

ยัง ตอบเลยว่ายัง ยังสนุก ยังมันส์อยู่ ถามว่า UNLOCK ออกมาหมดยัง มันเหมือนคลายเกลียวอยู่ ปลดปล่อยแต่ไม่หมด เพราะโปรเจคที่ยังอยู่ในหัวยังมีหลายเรื่อง อีกเพียบ มันมีบางอย่างที่ต้องรอเวลา รอจุดที่เหมาะสมถึงทำได้ แต่แน่นอนว่ามั่นคงยังมีอะไรอีกเยอะ ติดตามรอกันได้เลย

UNLOCKMEN : สุดท้ายอยากให้ฝากอะไรไว้ UNLOCK คนที่กำลังมีความชอบ อาจไม่ใช่ชอบหูฟัง แต่เป็นการชอบที่จะทำอะไรสักอย่างและฝันอยากมีธุรกิจ 

พี่เบียส : คิดอะไรก็ทำเลย อย่าไปรอ อย่าไปคิดเยอะ เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำ ทำมันไปก่อน เดี๋ยวไปเจอปัญหา ก็ไปแก้เอาข้างหน้า

เฮียมั่นคง : ที่ห่วง สำหรับคนที่อยาก UNLOCK แล้วไปติดอยู่ตรงนี้คือ ส่วนมากที่จะเจอคือทุกคนพยายามทำงานที่ตัวเองชอบ มัวแต่มองคนอื่นว่าเขาได้ทำงานที่ตัวเองชอบ แล้วกลับมาถามตัวเอง ไปหาสิ่งตัวเองชอบ แล้วดันแม่งหาไม่เจอ! จริง ๆ แล้วมึงชอบอยู่เฉย ๆ แต่ชอบได้เงิน ไม่มีใครชอบทำอะไรหรอก แต่ชอบอ้างโน่นอ้างนี่ ฝัน อยากทำต่างหาก แล้วพอได้ทำจริง ๆ ไม่ชอบหรอก แม่งเหนื่อย ขี้เกียจ

การปลดล็อค “คนเราเนี่ย มันไม่ใช่การเริ่มต้นไปตีกรอบมันว่าต้องทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองรักนะ แต่จงรักในสิ่งที่ตัวเองทำก่อน” อย่างเงี้ยถึงจะถูก รักที่ตัวเองทำก่อน คนเราต้องคาดหวังกับผลงานที่ดี มันจึงจะปลดล็อคได้  ทำยังไงเราถึงจะทะลุตรงปัญหานั้นออกมาได้ ทำยังไงเราจะปลดล็อคความคิดต่าง ๆ ได้ต่างหาก