เวลาไปสมัครงาน หรือ สอบสัมภาษณ์ หลายคนน่าจะเคยเจอคำถามยาก ๆ ที่ตอบไม่ได้กันบ้าง จะตอบว่า “ไม่รู้” ก็กลัวดูแย่ ถือเป็นปัญหาที่ทำให้หนักใจมากพอสมควร UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการตอบคำถามยากให้ดีขึ้น เพื่อให้ทุกคนกลายเป็นนักตอบคำถามที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น เข้าใจคำถามก่อน สิ่งแรกที่เราควรทำก่อนตอบคำถาม คือ การตั้งใจฟังคำถามจนเราเข้าใจถ่องแท้ เพราะถ้าเราไม่เข้าใจมัน เราอาจถูกคนถามตอบกลับในสิ่งที่ไม่เข้าหูก็เป็นได้ เช่น “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันถาม” “ฉันถามในสิ่งที่ง่ายกว่านั้น” “ฉันไม่ได้ถามแบบนั้น” เป็นต้น ถ้าเราไม่เข้าใจคำถาม เราควรทวน หรือ ถามคำถามเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่เข้าใจ เพื่อให้เราเข้าใจมันยิ่งขึ้น เมื่อเราเข้าใจคำถามแล้ว เราจะตอบถามได้ดีขึ้น และทำให้คนถามเห็นถึงความจริงจังของเราด้วย อย่าตอบกลับทันที เวลาที่เราถูกถามคำถาม เรามักเกิดความรู้สึกที่อยากตอบกลับทันที เพราะไม่อยากให้เกิดความเงียบ หรือ dead air การตอบกลับทันทีอาจใช้กับคำถามที่ตอบกลับได้ง่าย อาทิ “กินข้าวยัง” แต่สำหรับคำถามที่ยากจะตอบ การตอบกลับไปทันทีอาจส่งผลเสียต่อเราได้ ดังนั้น เราควรให้เวลาตัวเองในการคิดหาวิธีตอบจะดีกว่า โดยการทวนคำถามของอีกฝ่ายก่อน จากนั้นค่อยตอบกลับหลังจากที่เราคิดคำตอบที่เหมาะสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอบคำถามบางส่วน คำถามยาก ๆ ที่เราตอบไม่ได้ อาจสามารถแบ่งแยกออกมาเป็นคำถามย่อย
ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ใครจะเชื่อว่า “รอยสัก” ที่เคยเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว ถูกตีตราว่าจะเป็นหนทางดับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ติดอยู่กับวงจรภาพลักษณ์สีเทา-ดำ วันนี้จะพลิกผันกลายเป็นสิ่งที่สังคมเปิดรับในฐานะศิลปะ เป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างคนแปลกหน้า และถึงขนาดส่งเสริมคาแรกเตอร์ให้กับคนบางสาขาอาชีพเสียด้วยซ้ำ เวลาเปลี่ยนขั้วลบเป็นขั้วบวก เปลี่ยนมุมมองผู้คน แต่ทุกอย่างยังต้องอาศัยความกล้าจากการบุกเบิกทั้งนั้น “ปอ หรือดีเจปอ – วรฐก์ ปิฏกานนท์” เท่าที่คนทั่วไปและเรารู้จักคือชายในวงการบันเทิงคนแรก ๆ ที่เปิดเผยรอยสัก และวันนี้เขาเองก็ยังคงเป็นคนไทยคนแรก ๆ ที่สร้างแชนแนลพูดถึงศิลปะบนเรือนร่างแขนงนี้อย่างเปิดเผยในรายการ “Tattoo Brothers สักแต่พูด” รายการมันส์ ๆ เสพง่ายที่ไม่ได้เริ่มต้นมาง่าย ๆ แต่มีเบื้องหลังมากมายที่ทำให้ UNLOCKMEN ต้องหาโอกาสคุยกับเขาวันนี้ “สักตามใจ” ที่ไม่ได้แปลว่า “สักตามใคร” วัย 17-18 ปี ปอมีรอยสักรอยแรกจากความผิดพลาด วัย 47 ปีในวันนี้ ปอมีรอยสักหลายตำแหน่งบนร่างกาย เขาอยู่ในวงการบันเทิง และผันตัวกลายเป็น YouTuber รายการ “Tattoo Brothers – สักแต่พูด” ที่ใครหลายคนติดตาม บางคนก็ได้เขาเป็นไอดอลจนอยากไปเริ่มสัก
“เป็นเมียเราต้องอดทน” เรามั่นใจว่าใครหลายคนยังจดจำประโยคนี้จากหนังเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมืองได้ขึ้นใจ แม้วันเวลาจะล่วงเลยจากปีที่หนังฉายครั้งแรกมา 23 ปีแล้วก็ตาม พอ ๆ กับที่ไม่มีแม่นาคพระโขนงเวอร์ชันไหนจะทำให้เราอกสั่นขวัญผวาได้มากเท่ากับภาพจากหนังเรื่องนางนาก ที่แม่นาคผมสั้นกุด ฟันดำมะเมื่อมจากการเคี้ยวหมาก ห้อยหัวลงมาจากเพดานวัด ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้และอีกหลายเรื่องคือฝีมือการกำกับของ “อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร” ที่แรกเริ่มเราอาจรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ แต่วันนี้เขานิยามตัวเองว่า “คนทำหนัง” หรือถ้าให้ชัดกว่านั้น “คนทำหนังที่มีความสุข” ตอนนี้เขาเตรียมโปรเจกต์ของตัวเองอยู่ เขียนบทหนังอีก 2-3 เรื่อง ทั้งหนัง ทั้งซีรีส์ รวมถึงงานโปรดิวเซอร์ แต่หากเบื้องหน้าคือหนังชวนให้จดจำ วลีเด็ดชวนให้กล่าวขาน และสารพัดภาพในตำนานที่ใคร ๆ ก็กล่าวถึง การได้สนทนากับเขาในวันนี้กลับพาเราขุดลึกลงไปเบื้องหลังความสำเร็จตลอดหลายสิบปีในการทำหนัง เบื้องหลังถ้วยรางวัลเรียงราย ภายใต้การอดทนรอจังหวะที่ใช่ การทำงานงานหนัก และการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด คือตัวตนของเขาที่น่าสนใจไม่แพ้หนังเรื่องไหน ๆ ของเขาเลย เมื่อเจอ “การทำหนัง” ก็เจอความสุขที่ตามหามาทั้งชีวิต “รักแรกพบ” ใครหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าวินาทีแรกที่เราตกหลุมรักใครสักคนหรือสิ่งสักสิ่งนั้นให้ความรู้สึกเช่นไร? แต่ อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรานี้ กลับต่างออกไป เพราะวินาทีแรกที่เขาได้รู้จักการทำหนัง
ตลอดช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าชื่อของ ‘กันต์ กันตถาวร’ นั้นได้ถูกกล่าวขวัญถึงในฐานะพิธีกรดาวรุ่ง ที่ก้าวขึ้นสู่ระดับแถวหน้าของวงการ กับความโดดเด่นเรื่องปฏิภาณไหวพริบในการดำเนินรายการที่มีจังหวะจะโคน ลูกล่อลูกชนไม่แพ้ใคร รวมถึงสไตล์เฉพาะตัวซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญให้รายการต่าง ๆ ที่เขารับหน้าที่เป็นพิธีกรนั้นสนุกสนานน่าติดตามจนได้รับความนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ถ้าย้อนกลับไปไกลกว่านั้น เชื่อว่าอีกหลายต่อหลายคนต่างรู้จัก ‘กันต์ กันตถาวร’ ในฐานะพระเอกหนุ่ม คิวแน่น งานชุก ก่อนที่จะหายหน้าลาจอเลิกรับงานละครไปแบบดื้อ ๆ แล้วอะไรที่ทำให้คนหนึ่งคนที่กำลังอยู่ในจุดพีคของอาชีพนักแสดง เลือกหยุดทุกอย่าง ข้ามสายอาชีพมาเริ่มต้นใหม่ เรียนรู้ใหม่ เพื่อไล่ล่าความสำเร็จใหม่อีกครั้งในฐานะพิธีกร วันนี้เราจะพาทุกท่านไปถาม ‘กันต์’ ให้รู้เรื่องกันสักที “ตอนนี้แต่งงานมีภรรยาแล้วครับ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ผมทำอาชีพพิธีกรเป็นหลักประมาณ 99.99% เลยล่ะ” กันต์เริ่มต้นด้วยการอัพเดทชีวิต ณ ขวบปีนี้ของเขาให้เราฟัง ก่อนจะเล่าถึงสาเหตุคร่าว ๆ ที่หลายคนสงสัย ว่าทำไมจึงเลือกจะหยุดงานด้านการแสดงแล้วหันมาเอาดีบนเส้นทางพิธีกรอย่างเต็มตัว “สาเหตุที่ยังไม่ได้รับงานแสดงเนื่องจากว่า ผมว่ามันใช้เวลาเยอะในการทำงาน ซึ่งจริง ๆ มันเป็นอาชีพที่ผมรักมากนะการแสดง แต่ผมว่าผมรักมันเกินไปจนไม่สามารถแยกได้ ผมเคยทุ่มเทเวลาให้กับการแสดงมากจนกราฟชีวิตฝั่งการทำงานนี้มันแหลมอยู่ด้านเดียว และชีวิตด้านอื่นมันจะถูกหดลงไป เลยเริ่มรู้สึกว่าต้องบาลานซ์ แต่ผมยังไม่สามารถบาลานซ์ได้ขนาดนั้น และการทำอาชีพพิธีกรมันก็ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผมต้องการตรงที่ว่ามันใช้เวลาสั้นกว่า
ในภาวะที่ตลาดหุ้นการลงทุนแปรปรวนแบบนี้ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนมากมาย นักลงทุนทุกคนควรศึกษา และหาความรู้ให้เพียงพอก่อนการตัดสินใจในการลงทุน วันนี้ INVESTOR’S VIEWPOINT จะพาท่านมาเปิดไอเดียการลงทุนกับคุณ Tar Kawin แห่ง AOM MONEY ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในรูปแบบของ DCA ( Dollar Cost Averaging) ก่อนอื่น ถ้าถามว่าการลงทุนแบบ DCA เป็นรูปแบบการลงทุนอย่างไร ต้องบอกว่า DCA หรือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน คือ การกำหนดเงินลงทุนเป็นจำนวนคงที่ทุก ๆ งวด งวดละเท่า ๆ กัน อาจจะเป็นการลงทุนแบบรายเดือน รายไตรมาส เพื่อลงทุนในหุ้นที่ดี มีคุณภาพโดยไม่สนใจราคา แต่มองอนาคตการเติบโต โดยให้เรามองว่า การกำหนดเงินจำนวนเท่า ๆ กันในการซื้อหุ้น เป็นการซื้อแบบเฉลี่ยต้นทุน ถ้าในมุมที่พี่ต้าร์จะบอกบ่อย ๆ ก็คือ เป็นวิธีการที่ทำให้หุ้นขึ้นก็มีความสุข หุ้นลงก็มีความสุขได้ ถามมุมมอง TAR KAWIN ต่อตลาดหุ้นในขณะนี้ มุมมองตอนนี้ พี่คิดว่าประเด็นปัญหาคือเรื่องไวรัสที่ยังไม่มีไวรัสรักษาได้ จึงยังคงเป็นความเสี่ยงครับ
ตลาดหุ้นปี 2020 ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้นั้น ถือว่าเป็นปีที่ ที่เข้าขั้นว่า “สวิงรุนแรงที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นโลก” ก็ว่าได้ เรามาดูกันว่าวิกฤตตลาดทุนรอบนี้ สินทรัพย์การลงทุนประเภทไหนที่ได้รับผลกระทบทั้งแง่ดีและแง่ร้ายกันบ้าง วิกฤตน้ำมันโลก ราคาน้ำมันโลกช่วงสัปดาห์แรกของปี 2020 ถือว่าเปิดตัวได้อย่างหวือหวามากๆ สาเหตุจากความตึงเครียดระหว่าง อิหร่านและอเมริกา ที่ทางอเมริกาได้สังหารนายพลสุเลมานี และการประกาศจะคว่ำบาตรอิหร่าน จนทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลว่าชนวนเหตุนี้จะก่อให้เกิดสงครามระหว่างอิหร่านและอเมริกาขึ้นได้ แน่นอนเลยว่าความกังวลช่วงอาทิตย์แรกของปีนี้ ทำให้ราคาน้ำมันวิ่งแรงเกือบ 10% แล้วก็ร่วงหล่นมาต่ำกว่าที่เดิม ในวันเดียวกันนี้เองนั่นเอง! นี่แหละเสน่ห์ของตลาดทุนโลก….มันคาดเดาไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป ราคาน้ำมันก็ค่อย ๆ ปรับตัวลงเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ลงแบบรุนแรงอะไรมากมาย จนกระทั่งการระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือ Covid-19 ที่เรารู้จักกันดีตอนนี้ ผลกระทบของ Covid-19 แน่นอนว่าทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต้องหยุดนิ่งแทบจะทุกประเทศทั่วโลก หลายประเทศมีการ lock down ปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ “ธุรกิจสายการบิน” นั่นเอง และนี่คือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายของราคาน้ำมันโลกครับ เมื่อสายการบินทั่วโลกต้องหยุดการบิน แน่นอนเลยว่าอุปสงค์ (Demand) ของการใช้น้ำมันก็จะหายไปในพริบตา นี่คือสาเหตุหลักแรก ๆ ที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกมีความเสี่ยงที่จะถูกลงแบบคาดไม่ถึง ที่สำคัญที่สุดคือการที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย “เปิดเกมสงครามราคาน้ำมัน” หลังจากการประชุม
“นักสู้”ในจินตนาการคุณเป็นแบบไหน? ผู้ชายเจนโลกร่างกายแข็งแกร่งดุดัน บุรุษกล้ามหนาที่พร้อมบุกดะไม่ยั้ง หรือหนุ่มอายุน้อยปราดเปรียวว่องไวสักคน แต่น้อยคนนักที่จะจินตนาการ “นักสู้” ออกมาเป็นมนุษย์ผู้หญิง โดยเฉพาะมนุษย์ผู้หญิงหน้าตาชวนมองที่ใครต่อใครก็พาลตัดสินไปแล้วว่าเธอไม่เหมาะกับคำว่านักสู้ในความเข้าใจของคนทั่วไปเอาเสียเลย แต่หากการเป็นนักสู้ ไม่ได้วัดที่เพศ รูปร่าง หน้าตา หรือแม้แต่พละกำลัง แต่การต่อสู้วัดกันที่ “สมอง” และ “หัวใจนักสู้” ส่วนที่เหลือคือส่วนผสมของความพยายาม การฝึกซ้อมหนักหน่วง ควบรวมกับใจรัก ถ้าเช่นนั้นทำไม่ผู้หญิงหน้าตาสะสวยสักคนจะเป็นนักสู้ที่เก่งกาจไม่ได้? เราคงไม่ต้องพิสูจน์ให้มากความ เพราะบนโลกใบนี้มีผู้หญิงสวยและต่อสู้เก่งสมกับคำว่า “นักสู้” อยู่จริง โดยหนึ่งในนั้นที่เรายินดียกตำแหน่งนักสู้ให้อย่างภาคภูมิใจคือ “ริกะ อิชิเกะ” นักสู้แบบผสมหญิงชาวไทยคนแรกในสังเวียน MMA ระดับอาชีพ ที่ใครหลายคนอาจคุ้นกับฉายา Tiny Doll ของเธอ เธอคือนักมวย MMA ในรายการ ONE championchip ที่ไม่ได้ผ่านแค่การต่อสู้บนสังเวียนมาอย่างดุเดือดเท่านั้น แต่การต้องเป็นนักสู้หญิงอย่างเด็ดเดี่ยวท่ามกลางคำสบประมาทและการฝึกซ้อมที่มีข้อจำกัดนั้นก็ไม่ง่ายเลย แต่เธอทำได้ ทำได้ด้วยฝีมือ ความพยายาม การฝึกซ้อมล้วน ๆ นี่จึงเป็นบทสนทนาที่เราอยากชวนทุกคนมารู้จัก “นักสู้” ใจแกร่งอย่างเธอ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จุดเปลี่ยน จุดเดือด จุดแข็ง ไปจนถึงจุดต่อไปจากนี้ที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป จุดเริ่มต้น:
รูปแบบการทำงานของใครหลายคนเปลี่ยนไปแบบพลิกโลก จากที่มีออฟฟิศเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ กลายเป็นต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต น้ำ ไฟ จากที่บ้าน จากที่ทำงานเหนื่อย ๆ ตกเย็นหาที่ฟังเพลงจิบเครื่องดื่มคล่องคอหล่อเลี้ยงหัวใจ ก็เหลือแค่ห้องเดียวกับที่นั่งทำงานมาทั้งวันให้เอกเขนกดูซีรีส์จนตาแฉะ คนทำงานแต่ละประเภทจึงต้องเผชิญความท้าทายในรูปแบบที่ต่างกันไป รวมถึง “คนทำงานสร้างสรรค์” ศิลปิน นักดนตรี นักวาด นักเขียน ฯลฯ เมื่องานต้องการพลังสร้างสรรค์เท่าเดิม (หรือบางงานต้องการมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ) แต่การทำงานสร้างสรรค์ในห้องปิดตาย หรือสถานที่เดิม ๆ ซ้ำ ๆ นั้นไม่ง่ายที่จะขุดขุมพลังฉูดฉาดมาได้เหมือนที่เคยเป็นมา ทางออกคืออะไร? เราเชื่อว่าสายสร้างสรรค์หลายคนคงอยากฟังคำตอบจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ วันนี้ UNLOCKMEN รวบรวม 6 คำตอบจากคนทำงานสร้างสรรค์ว่าในสถานการณ์ชวนอึดอัดนี้และออกไปหาแรงบันดาลใจที่อื่นไม่ได้ พวกเขาทำอะไรเพื่อยังผลิตผลงานหรือใช้ชีวิตให้ไม่ทำร้ายศักยภาพตัวเองเกินไปนัก? ป๊อก-ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล ป๊อก-ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล ศิลปินผู้เชื่อเรื่องการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้เพื่อนมนุษย์ เขาเลือกใช้ศิลปะช่วยเหลือคนไร้บ้าน สำหรับเขาในห้วงวิกฤตเช่นนี้ อีกหนทางที่คนผลิตงานสร้างสรรค์ยังพอทำได้ คือการพยายามมองหาส่วนที่ดีที่สุดจากสิ่งที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้เพื่อลืมแต่เพื่อหาหนทางที่จะใช้ผลงานของเรา ช่วยเหลือหรือสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น ๆ เท่าที่พอทำได้ในช่วงเวลาที่ทุกสิ่งนั้นไม่ง่ายเลย “ผมพยายามมองด้านบวกว่าในเหตุการณ์นี้พอมีเรื่องอะไรดีอยู่บ้าง เราจะมีเวลาเพิ่มมากขึ้น ได้มีเวลาวางแผนการงานและชีวิต เห็นวิกฤตเป็นความท้าทาย พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปกับมัน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนเจ๋ง ๆ หลายคนหันไปทำเกษตร เรียกว่าเป็นกราฟที่สวนทางกับยุคที่เรายังเด็กแบบกลับหัวกลับหาง แม้ไม่อยากจะเรียกว่าเป็นเทรนด์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าปลายทางการเกษียณที่หลายคนมองไว้วันนี้ มันเป็นความรู้สึกพอเพียงที่ไม่ได้เน้นตัวเลขในบัญชี เปลี่ยนมาเน้นการได้ออกไป “มีที่สักที่” ให้ไปเดินรดน้ำ เก็บผักเก็บไข่ที่มีคุณภาพกินอย่างมีความสุขและอยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ ทว่าฝันส่วนใหญ่มันเริ่มต้นใกล้ ๆ วัยเกษียณที่มีเงินก้อน กระทั่งเรามีโอกาสแวะมาที่และได้พูดคุยกับรีย์ – ชารีย์ บุญญวินิจ เกษตรกรหนุ่มเมืองพันธุ์แท้ ที่ล่อแหกทุกกฎการทำเกษตร เฮี้ยนหาหนทางเลี้ยงไส้เดือน ปลูกผักบนปูน แถมในฟาร์มยังมีไก่มากกว่า 5 ตัวแน่ ๆ เท่าที่มองเห็น นี่ยังไม่นับรวมเป็ด เต่า ไปจนถึงหมูขนาดยักษ์อีก 2 ตัว ชีวิตเขาเนี่ย คนจะว่า “บ้า” ก็คงได้ เพราะถ้าใครยืนยันว่าจะสร้างฟาร์มในกรุงเทพฯ จากพื้นที่ขนาดเล็กที่เคยเริ่มต้นจากโรงรถ เกษตรบนพื้นปูน มันก็แปลกจริง ๆ “เราใช้ข้อดีของกรุงเทพฯ แต่ว่าเราก็รู้ว่าข้อเสียของกรุงเทพฯ มันคืออะไร ความวุ่นวาย ฝุ่น โน่นนี่นั่นทุกอย่าง เราก็อยู่กับมัน เราไม่มีต่างจังหวัดให้กลับ อยู่กรุงเทพฯ ไปทั้งชีวิต ไม่งั้นทำยังไงอะ ? ต้องรอเกษียณ 60-70
ในช่วงที่คนค่อนประเทศต้อง Work from Home กันแบบไม่มีกำหนด อันเนื่องมาจากวิกฤต COVID-19 ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ฝั่ง HR ของบริษัทเองก็รีบเร่งหาคนมายัดตำแหน่งที่ว่างอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน แม้บางบริษัทจะปิดตัวลงหรือเลิกจ้างพนักงานบางส่วนเพื่อถ่วงดุลรายรับรายจ่ายในช่วงวิกฤต แต่ยังมีหลายบริษัทที่อาศัยจังหวะเดียวกันนี้เปิดรับสมัครพนักงานเพิ่ม เตรียมรอพลิกวิกฤตเป็นโอกาสและวางแผนการทำงานในอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ บริษัทจำนวนมากจึงหันมาใช้การสัมภาษณ์งานออนไลน์แทนการสัมภาษณ์งานแบบปกติ บอกเลยว่าการสัมภาษณ์งานออนไลน์เป็นอีกวิธีคัดกรองคนที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะผู้สมัครสามารถสัมภาษณ์งานได้จากที่บ้าน ประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาเดินทาง แถมยังสอดคล้องกับการเว้นระยะห่างจากสังคม หรือ Social Distancing ที่ชาวโลกกำลังให้ความสำคัญอยู่ตอนนี้ ดูเผิน ๆ แล้วการสัมภาษณ์งานออนไลน์จะแทบไม่ต่างอะไรจากการสัมภาษณ์ปกติ แต่ผู้สมัครจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่ต่างออกไป และอาจซ่อนรายละเอียดยิบย่อยที่หนุ่มมนุษย์เงินเดือนหลายคนไม่รู้ก็ได้ วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะมาถามจากปาก HR ให้เคลียร์ ว่าการสัมภาษณ์งานออนไลน์ที่ดีควรเป็นแบบไหนและผู้สมัครคนใดที่จะถูกใจบริษัท? ในช่วงวิกฤตแบบนี้คิดอย่างไรกับการที่บางบริษัทเลิกจ้างคน ขณะที่บางบริษัทเร่งหาคนเพิ่ม? HR Manager, Marketing Agency: ถ้าบริษัทที่ได้รับผลกระทบไม่มากก็คงไม่ได้อยากเลิกจ้างและอาจขอความร่วมมือให้ปรับลดเงินเดือนแทน แต่ถ้าบริษัทนั้น ๆ ถึงขั้นต้องเลิกจ้างพนักงานก็คงได้รับผลกระทบมาหนักจริง ๆ ส่วนตัวคิดว่าบริษัทที่กำลังรับคนเพิ่มในตอนนี้เป็นเพราะมีโปรเจกต์พิเศษ รับสมัครพนักงานแบบลูกจ้างชั่วคราว ไม่ก็การสื่อสารในองค์กรเกี่ยวกับนโยบายการทำงานในช่วง COVID-19 ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ จนทำให้พนักงานแห่กันลาออกยกทีม HR, Digital