No pain No Gain วิธีการเรียนรู้และเติบโตขึ้นจากความผิดพลาด

เวลาเราตั้งใจทำอะไรสักอย่างอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายผลที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังเราไว้ เหตุการณ์นี้มักทำให้เราเกิด Pain หรือ ความเจ็บปวดอยู่เสมอ และความเจ็บปวดจะยิ่งสาหัสมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเราเจอกับความล้มเหลวแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา เหมือนกับไม่ได้เรียนรู้อะไรจากมันเสียที UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการเรียนรู้จากความผิดพลาด เพื่อให้ทุกคนสามารถรับมือกับมัน และกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมได้

ข้อดีและข้อเสียของความผิดพลาด

หลายคนเกลียดความผิดพลาดเข้าไส้ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่บางครั้งความผิดพลาดก็ยังเกิดขึ้นได้จากปัจจัยที่เหนือการควบคุมของพวกเขา เช่น ถ้าเราพยายามทำงานกลุ่มให้ยอดเยี่ยมที่สุด แต่เพื่อนร่วมทีมของเราไม่สามารถทุ่มเทให้กับงานได้เท่ากับที่เราหวังไว้ได้ ผลสุดท้ายความผิดพลาดมันก็เกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังนั้น เราไม่สามารถคาดหวังได้ว่าความผิดพลาดจะไม่มีวันเกิดขึ้น และสิ่งเราควรทำนอกจากกลัวความผิดพลาด คือ มองว่ามันเป็นสัญญาณที่ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองทั้งในด้านความสามารถ ความคิด และนิสัย พร้อมเปิดใจรับมันและเรียนรู้จากมัน แบบนี้จะช่วยให้เราไม่เจ็บ และมองความผิดพลาดเป็นประโยชน์ต่อตัวเองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เวลาเกิดความผิดพลาด เรามักจะคิดถึงมันซ้ำไปซ้ำมา และมีความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง เช่น มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง 100% มองว่าตัวเองไร้ความสามารถ หรือ ถ้าเจอสถานการณ์แบบเดิมอีกครั้งจะคิดว่าตัวเองแก้ปัญหามันไม่ได้ เป็นต้น ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นได้จากการที่เราถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กว่า ให้หลีกเลี่ยงหรือกลัวความผิดพลาด เราจึงมองมันเป็นเรื่องย่ำแย่มากเกินไป และเมื่อมันเกิดขึ้นจึงเกิดอาการรับไม่ได้ขึ้นมา เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความผิดพลาด

เราจะพัฒนาตัวเองจากความผิดพลาดได้อย่างไรบ้าง

ความผิดพลาดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ด้านหนึ่งมันก็ทำให้เราเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง อีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้เราเจ็บปวดและเป็นทุกข์ แต่ถ้าเราเลิกกลัวความผิดพลาด และมองมันในแง่บวกมากขึ้น ผลเสียที่เกิดจากความผิดพลาดก็คงจะเล่นงานเราไม่ได้เหมือนเดิม เราอยากมาแนะนำวิธีรับมือกับความผิดพลาดที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนล้มและลุกได้ไว และทำให้เราสามารถใช้ชีวิตในยุคที่วิกฤตเกิดขึ้นบ่อยได้ง่ายขึ้นด้วย

เริ่มจากยอมรับความผิดพลาดให้ได้ก่อน

เวลาที่เราทำผิดพลาด สิ่งที่มักทำได้ยากที่สุด คือ การยอมรับว่าตัวเองทำผิดพลาด เพราะมันทำให้เรารู้สึกเจ็บ หรือ รู้สึกแย่เสมอ แต่ถ้าเรายังไม่สามารถยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง และเอาแต่โทษคนอื่น นอกจากจะไม่ได้เรียนรู้จากควาผิดพลาดแล้ว เรายังจะถูกเพื่อนร่วมงานคนอื่นเหม็นขี้หน้าได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย การยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แม้ทำให้เราเจ็บ แต่มันคือก้าวแรกที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นจากความผิดพลาด

ตั้งคำถามกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

หากเราจมอยู่กับความความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต และไม่มูฟออนจากมันสักที นอกจากจะเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว จิตใจเราก็ยังเสื่อมถอยได้อย่างรวดเร็ว ทางที่ดี คือ เราควรหยุดจม และลองวิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเองด้วยคำถาม เช่น ทำไมความผิดพลาดถึงเกิดขึ้น มันเป็นความผิดของเราเพียงฝ่ายเดียวรึเปล่า เราทำอะไรได้บ้างเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในอนาคต หรือ เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง เป็นต้น แบบนี้จะช่วยให้เราเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดได้ง่ายกว่าเดิม

เปิดใจให้กับการเปลี่ยนแปลง

การแก้ปัญหามักต้องการการเปลี่ยนแปลงเสมอ วิธีที่ใช้งานไม่ได้ ก็ควรแก้ด้วยการหาวิธีใหม่ที่ดีกว่าเดิมมาใช้แทน หากเราไม่อยากทำผิดพลาดซ้ำหลายครั้ง เราต้องเปิดใจให้กับการเปลี่ยนแปลง และพยายามหยุดยั้งความผิดพลาดของตัวเองอย่างสุดกำลัง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนที่ชอบคิดเร็วจนตัดสินใจพลาดอยู่บ่อยครั้ง เราอาจหาวิธีการที่สร้างสรรค์ และช่วยให้เราหยุดคิดมากขึ้น เช่น นับลมหายใจเข้า หรือ นับเลข 1 – 10 ก่อนที่จะตอบสนองต่อปัญหาหรือทำการตัดสินใจบางอย่าง

รู้จักวางแผน

เมื่อเราเข้าใจความผิดพลาดของตัวเองแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อมา คือ วางแผนเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก แต่เราไม่ควรจะทำตามแผนแบบเคร่งครัดมากเกินไป เพราะเหตุการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เราควรรู้จักการปรับเปลี่ยนแผนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย พร้อมกับหาแรงบันดาลใจที่จะทำให้เราทำตามแผนต่อไปได้เรื่อย ๆ

หาเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่อยากทำผิดพลาดอีก

บางทีถ้าเรามองเห็นผลเสียของความผิดพลาด มันก็ช่วยกระตุ้นให้เราตั้งใจแก้ความผิดพลาดของตัวเองมากขึ้น เพราะยิ่งเราเห็นความเลวร้ายของมันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งอย่างหนีจากมันมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นลองลิสต์ดูว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้เราอยากเลิกทำพลาด แล้วเราจะมีแรงจูงใจในการแก้ไขตัวเองมากขึ้น

แม้เราจะแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง และอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นแล้ว เราก็ไม่ควรที่จะชะล่าใจ และปิดโหมดการเรียนรู้ของตัวเอง เพราะความผิดพลาดและความล้มเหลวเกิดขึ้นได้เสมอในยุคที่ทุกอย่างไปข้างหน้าอย่างว่องไว ดังนั้น เราควรเปิดใจเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา แล้วเราจะสามารถก้าวข้ามความยุ่งยากทุกอย่างในชีวิตไปได้ด้วยดี

Appendix: 1/2