หนึ่งเดือนยาวนานเหมือนครึ่งปี ? ทำอย่างไรดีเมื่อเราอยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ

ช่วงนี้เราเห็นหลายคนบ่นว่า เวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน เดือนมกราคมยาวนานเหมือนใช้ชีวิตมาได้ครึ่งปีแล้ว บางคนดูจะซัฟเฟอร์กับเรื่องนี้กันด้วย บทความนี้ เราอยากจะมาแนะนำวิธีการที่จะช่วยให้เวลาชีวิตของเราเร็วขึ้น เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเป็นทุกข์กับเวลาที่ยาวนานอีกต่อไป !!

ทำไมเราถึงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้า ?

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมบางครั้งถึงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้า บางครั้งถึงรู้สึกเวลาผ่านไปเร็ว บางคนอาจเดาว่าน่าจะเป็นเพราะปัจจัยภายนอก เช่น เวลาในการทำงานที่ยาวนาน จำนวนงานที่เยอะ หรือ ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม แต่ในความเป็นจริงแล้ว งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า มันอาจเป็นเรื่องของปัจจัยภายในมากกว่าที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้เวลาของเรา โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เรารับรู้ความเร็วและความช้าของเวลาต่างกันออกไป ได้แก่

นิสัยของแต่ละคน – เราอาจรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก ถ้าเราเป็นคนประเภทที่ไม่มีความอดทน หุนหันพลันแล่น และโกรธเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการทันที งานวิจัยของ ดร.มาร์ค วิตแมน (Dr.Marc Wittmann) นักจิตวิทยาชาวเยอรมัน ได้บังคับให้ผู้เข้าร่วมการทดลองนั่งในห้องโดยที่ไม่ทำอะไรเป็นเวลา 7 นาทีครึ่ง และพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองแต่ละคนจะรู้สึกเวลาผ่านไปไม่เท่ากัน บางคนบอกว่าเวลาผ่านไปแค่ 2 นาทีครึ่ง ในขณะที่ คนที่หุนหันพลันแล่นมากที่สุดจะรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไป 20 นาที

สมอง – เวลาเราไม่มีอะไรทำ เกิดอาการเบื่อ และอยู่กับตัวเองมาก ๆ เราอาจรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากขึ้น โดยการทดลองหนึ่งที่ทำโดย ดร.วิตแมน อีกเช่นกัน พบว่า คนที่สมองส่วน insular cortex ทำงานหนักจะประเมินเวลาได้อย่างแม่นยำมากกว่าคนอื่น เพราะสมองส่วนนี้ทำหน้าที่ในการรับรู้ความรู้สึกของร่างกาย ซึ่งจะช่วยเรื่องการรับรู้เรื่องเวลาด้วย ดังนั้น ถ้ามันทำงานได้ดี เราจึงรับรู้เวลาได้ดี อย่างไรก็ตาม ถ้าเราไม่ทำอะไร ไม่ถูกรบกวนจากอะไร และโฟกัสที่ตัวเองมากเกินไป เราก็จะโฟกัสกับเวลามากเกินไป จนรู้สึกว่ามันผ่านไปช้าได้เช่นกัน

อารมณ์ของเรา – ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของเราก็ส่งผลต่อการรับรู้เวลาเหมือนกัน ฟิลิปส์ เอ เกเบิล (Philip A Gable) ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา บอกว่า งานวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าสภาพอารมณ์ด้านบวกส่งผลให้เวลาผ่านไปเร็วกว่าด้านลบ กล่าวคือ ถ้าเรากำลังเครียด เรากำลังโกรธ หรือว่า กำลังเศร้า เราอาจรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้า ในขณะที่ ถ้าเรากำลังรู้สึกมีความสุข ดีใจ เวลาจะผ่านไปเร็วมากขึ้น

แรงจูงใจ – เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่อยากหนี หรือ อยากเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง เราจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเร็วต่างกัน อ้างอิงจากงานวิจัยโดย เกเบิล และทีม แรงจูงใจในการเผชิญหน้า (approach motivation) ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว ในขณะที่แรงจูงใจในการหนี (avoidance motivation) ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าลง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ การรับรู้เวลาเร็วหรือช้าส่งผลต่อการทำตามเป้าหมายของเรา กล่าวคือ เมื่อเราตั้งใจทำอะไรบางอย่าง เรามีเป้าหมายอยู่แล้วว่าจะทำอะไร เช่น แก้ไขปริศนา หรือ หลบรถ เวลาจึงอาจจะเหมือนเร็วกว่าปกติ แต่ ถ้าเกิดว่าเราอยากหนีจากอะไรบางอย่าง เพราะความกลัว เวลาจะช้าลง เพื่อให้เราทำแอคชั่นได้เร็วขึ้น และหนีออกจากสถานการณ์อันตรายเร็วขึ้นเช่นกัน

ทำอย่างไรเวลาถึงจะผ่านไปเร็ว ?

เมื่อหลายคนเป็นทุกข์กับเวลาชีวิตที่ยาวนาน เราเลยอยากมาแนะนำวิธีการทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้นกันหน่อย ลองทำสิ่งเหล่านี้แล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วขึ้น และยังช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสุขกายสบายใจมากขึ้นอีกด้วย

หาเรื่องสนุก ๆ ทำ

เมื่อเรารู้สึกเบื่อ ไม่รู้ว่าจะทำอะไร และปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ เราจะยิ่งรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานขึ้นได้ เพราะเมื่อเราอยู่เฉย ๆ เราจะโฟกัสกับตัวเอง ดังนั้น ถ้าเราอยากให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราเลยต้องหาเรื่องสนุก ๆ ทำ เพราะมันจะช่วยให้เราโฟกัสกับตัวเองน้อยลง และรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวขึ้นตามมา

ลองทำอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง

เมื่อเราทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เวลาจะผ่านไปเร็วขึ้น การใช้ชีวิตแบบเป็น routine หรือ การทำเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวัน อาจทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าก็ได้ ถ้าอยากให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น เราขอแนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตดู เช่น ออกจากบ้านเร็วขึ้น หรือ เปลี่ยนที่ขึ้นรถเมล์ จะช่วยให้เราเกิดประสบการณ์ และความทรงจำใหม่ ที่จะทำให้เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วขึ้นได้เหมือนกัน

ดูเวลาให้น้อยลง

เวลาเราทำในสิ่งที่น่าเบื่อ หรือ สิ่งที่เราไม่ค่อยอยากทำ เราอาจดูนาฬิกาบ่อยขึ้นกว่าปกติ เพราะอยากให้เวลาผ่านไปเร็ว ๆ แต่ยิ่งเราดูนาฬิกา หรือ โฟกัสกับเวลามากเท่าไหร่ เราจะยิ่งรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าขึ้นมากเท่านั้น ดังนั้น แทนที่เราจะดูนาฬิกาบ่อย ๆ ควรดูนาฬิกาให้น้อยลงจะดีกว่า แล้วเวลาจะผ่านไปเร็วขึ้น

Appendixes: 1 / 2 / 3