Business

จะต้นเดือนหรือปลายเดือน เราก็ควรรู้วิธีเอาตัวรอดจากการเป็นหนี้อย่างมีชั้นเชิงอยู่เสมอ

By: Lady P. August 4, 2017

ติดหนี้ คำพูดที่ปวดใจ ใครๆก็ไม่อยากฟัง เมื่อภาระหนี้สินมีผลต่อความเป็นอยู่ และส่งผลต่อความเครียดทั้งตนเอง และคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหนี้สิน หนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนบ้านไม่ทัน ได้เงินเดือนมาจ่ายดอกเบี้ยก็หมด เงินต้นไม่หายไปเสียที การเป็นหนี้ เหมือนแบกหินก้อนใหญ่ไว้บนหลัง เราจะทำอย่างไรดี  Lady P. มีเทคนิคเล็กๆน้อยมาแบ่งปันยามคุณติดหนี้

“ตั้งสติ จิตใจให้มั่น”

ก่อนที่คุณจะเครียดจนหัวระเบิด ให้คุณหยุดตั้งสติก่อนที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง และสิ่งแรกที่คุณควรทำคือ หยุดก่อหนี้สินเพิ่ม ไม่ว่าคุณต้องลำบากแค่ไหน เพราะถ้าคุณหาหนี้ใหม่มาเรื่อยๆ หนี้เก่าคุณจะไม่มีวันหมด และหนี้ใหม่ก็จะเพิ่มเป็นหนี้แบบงูกินหาง ไม่จบไม่สิ้น

 

“คิดใหม่ จัดสรรใหม่ เริ่มปรับตัวเองใหม่”

เริ่มการทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย ของตนเองทุกวันตลอดเดือน ดูว่าในแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่ากินข้าว ค่าเดินทาง ค่าสังสรรค์ ค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ เมื่อทำเสร็จแล้วให้ดูว่าทั้งเดือนที่ผ่านมาใช้จ่ายไปเท่าไหร่และหมดไปกับค่าอะไรเป็นพิเศษ มีเหลือเก็บออมหรือไม่ หรือต้องดึงเงินเก็บมาใช้ทุกเดือน การที่คุณไม่เคยทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายเลย จะไม่รู้ว่าในแต่ละเดือนมีการใช้จ่ายเงินอย่างไร และหมดไปกับอะไรบ้าง

 

“ตอนนี้คุณติดหนี้อะไรบ้าง”

จดรายละเอียดหนี้สินของคุณออกมาให้หมด ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนมือถือ ยิ่งปัจจุบันนี้ โปรโมชั่น 0% เต็มไปหมด คุณต้องจดทุกรายละเอียดการใช้จ่าย และยอดหนี้สินทั้งหมดของคุณออกมาว่ามีอะไรบ้าง แนะนำให้ทำตารางแบ่งประเภทหนี้สินที่มี แยกประเภทหนี้ จำนวนหนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระ อัตราขั้นต่ำที่ต้องชำระ จากนั้นให้คำนวณยอดหนี้ทั้งหมด คำนวณรายได้ทั้งหมด เรียงลำดับยอดหนี้ที่สำคัญจากมากไปหาน้อย

“หนี้สำคัญมาก่อน”

หลังจากที่คุณเรียงลำดับความสำคัญของหนี้สิน ให้เลือกจ่ายหนี้ที่สำคัญก่อน อย่างเช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ จ่ายให้เรียบร้อย ตามมาด้วยหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลให้จ่ายเท่าที่จ่ายได้ โดยเลือกจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน และติดต่อขอประนอมหนี้ ขอผ่อนจ่ายเท่าที่จ่ายไหวในแต่ละเดือน ที่สำคัญ ห้ามหนีหนี้ หรือ ห้ามขาดการติดต่อกับเจ้าหนี้ ให้ยอมรับความจริง

“ศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาหนี้ให้เหมาะกับตนเอง”

คนเราสามารถรับความกดดันในสิ่งต่างๆที่ไม่เท่ากัน บางคนมีหนี้แค่หลักพันก็เครียดเพราะไม่เคยเป็นหนี้มาก่อน ในขณะที่บางคนติดหนี้เป็นล้านถึงจะมาเริ่มกุมขมับ ต่อให้อยากจ่ายก็ไม่มีปัญญาจะหาเงินมาจ่ายหนี้ ลองดูวิธีเบื้องต้นดังนี้เผื่อจะช่วยเป็นแนวทางในการสู้วิกฤติค่ะ

  • จ่ายขั้นต่ำเพื่อรักษาบัญชีและเครดิต วิธีนี้ เหมาะกับผู้ที่มีหนี้ไม่เยอะ อาจจะมีหนี้เพียง 2-3 บัญชี แนะนำให้จ่ายขั้นต่ำตามใบเรียกเก็บเงิน หรือจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำสักเล็กน้อย (ถ้าทำได้) ที่สำคัญต้องมีวินัยในการผ่อนชำระ หากหมดภาระหนี้แล้ว ไม่ควรก่อหนี้ใหม่เพิ่มอีกเป็นอันขาด เพราะจะทำให้มีหนี้ไม่หมดสิ้น มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากใครที่ทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายแล้วไม่ติดลบก็สามารถใช้วิธีนี้ได้
  •  ขายทรัพย์สินที่ขายได้ออกไปเป็นเงินสด เพื่อนำมาปิดหนี้ให้ได้มากที่สุด หากมีหนี้สินมากให้เลือกปิดทีละรายการที่สามารถปิดหนี้ได้ เพื่อให้เหลือจำนวนเจ้าหนี้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากไม่สามารถทำได้ หรือไม่มีทรัพย์สินที่สามารถขายเพื่อปลดหนี้ได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการของศาล ในระหว่างนั้นแนะนำให้เก็บเงินให้มากที่สุด อย่าได้หลงระเริงกับเงินที่มี ต้องเตรียมสะสมเงินเพื่อเคลียร์หนี้สินทั้งหมด
  • สร้างเครดิตให้กับตัวเองอีกครั้ง หลังจากปลดหนี้ที่มีทั้งหมดแล้ว ในช่วง 2-3 ปี หลังจากนี้จึงจะสามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกครั้ง ดังนั้น ระหว่างนี้แนะนำให้อดใจ อดทน อดออม และอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลาย และควรใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เพื่อให้มีความสุขในชีวิตครอบครัวและการงาน ดังนั้น หากได้ก่อหนี้ขึ้นมาแล้ว ต้องมีสติในการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่าได้หนีหนี้ หนีปัญหา เราต้องเป็นผู้บริหารหนี้ อย่าปล่อยให้หนี้มาบริหารตัวเรา ดังนั้นหากรู้จักประเภทหนี้ที่ได้ก่อขึ้นมาจะช่วยให้สามารถใช้สินเชื่อต่าง ๆ ได้อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด

สุดท้ายนี้ การไม่เป็นหนี้ คือลาภอันประเสริฐ การวางแผนการเงินที่ดีจะเป็นประตูไปสู่ความสุข เพราะคงไม่มีใครมีหนี้แล้วมีความสุข ฉะนั้นเริ่มปรับตั้งแต่วันนี้ ลองหันมาจดบันทึก รายรับ รายจ่าย ลิสหนี้สินของเราตั้งแต่วันนี้เผื่อการวางแผนการเงินที่ดีนะคะ

ติดตามเรื่องการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่เพจงงหุ้น  www.facebook.com/stockwhat

Lady P.
WRITER: Lady P.
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line