Work

“คิดไม่ออกเลยโว้ย! ทำไงดี” เปิดสำนักฝึก 4 วิธีทะลวงความคิดตันให้ทันใช้

By: anonymK March 13, 2018

บทความนี้สร้างสรรค์ขึ้นให้กับคนที่ท่อความคิดกำลังตันกระจุกเป็นคอขวดเหมือนการจราจรช่วง prime time แต่เจ้านายดัน assign มาให้ช่วยคิดให้หน่อยเพราะหวังพึ่งความครีเอทของพวกเรา หรือบรรดาฟรีแลนซ์ทั้งหลายที่ลูกค้าแสนดีมีบรีฟแน่นแล้วอยากให้คุณช่วยแปลงบรีฟให้ออกมาเป็นเรื่องเฉียบเหมือนไม่เคยปรากฏมาก่อนในจักรวาลแห่งนี้ ไม่ต้องไปบนบานศาลกล่าวที่ไหน เพราะเราเอามาแบ่งแล้วที่นี่

แต่ก่อนอื่นอธิบายหลักการก่อน ว่าทำไมความคิดตันมันสร้างได้ งานนี้เราไม่ได้มโนขึ้นมาแต่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ เขาบอกว่าจริง ๆ แล้วเบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ของเรามันมีที่มา สมองของเราจะมีคลื่นสมองสำหรับสร้างไอเดียที่มีชื่อว่า “Theta wave” (ความถี่ระหว่าง 4 – 7.9 Hz) เป็นคลื่นความถี่ต่ำที่ช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้น 4 วิธีที่เราเอามาฝากต่อไปนี้มันก็คือวิธีปลุกขุมพลังสร้างคลื่นความถี่ตัวนี้นั่นเอง

 

1. ใช้สมอง นั่งสมาธิ

วิถีของอิคคิวซังในการ์ตูนมันไม่ใช่เรื่องหลอก การนั่งสมาธิมันจะนำเราไปสู่การสร้าง Theta State ซึ่งพาเราเข้าไปเชื่อมถึงจิตใต้สำนึก แล้วการนั่งสมาธิหรือการตั้งจิตให้เกิดสมาธิมันก็เป็นกิจกรรมที่เราทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงาน ถามว่าเราจะเชื่อมจิตใต้สำนึกไปเพื่ออะไร ก็เพื่อไปค้นไอเดียไง ไอเดียมันซ่อนอยู่ในนั้น แต่แทคติกนี้บอกก่อนว่ามันจะใช้ไม่ได้ถ้าเราเครียด หรือจิตไม่สงบเอาเสียเลย

คำเตือนคือข้อนี้ทำงานแบบไก่กับไข่ ว่าง่าย ๆ คือไม่ร้อนรน ปล่อยชิล เดี๋ยวก็ได้ไอเดีย แต่ถ้าใครรู้ตัวว่าฝึกจิตให้ทำงานทันใจไม่ได้ ยิ่งตั้งสมาธิยิ่งชิบหาย แล้วกูก็รีบเหลือเกิน แอบไปฝึกวิธีนี้ที่บ้านตอนว่าง ๆ ให้ชิน แล้วข้ามไปข้อต่อไปก่อนเลย

 

2. TUNING

อันนี้เป็นวิธี Theraphy อย่างนึงด้วยการใช้เสียงเพื่อสร้างสภาวะสบาย ๆ ให้ร่างกายเรา relax เข้าไว้ จะได้เข้าถึงความสบายเพื่อสร้างคลื่นกระตุ้นไอเดีย คิดว่าในไทยน่าจะยังไม่มีสตูดิโอแบบนี้ แต่ว่าในนิวยอร์กมีแล้วเรียกว่า TUNE STUDIO ลองฟังคลิปด้านล่างนี้เราจะสัมผ้สได้เลยว่าความกังวาลของเสียงเหมือนน้ำหยดที่กระเพื่อออกไป มันทำให้เรารู้สึกเบาขึ้น งานนี้เขาการันตีว่าได้ผลดึงจิตเข้า theta ใน 15 นาทีด้วย

แต่ถามว่าจะคิดทั้งทีนี่ต้องบินไปเลยหรอ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวนี้มันมีคลิปเสียงเรียก theta wave อยู่เยอะ และเราก็ได้ยินบ่อยตามคลิปธรรมะ หรือคลิปที่ช่วยผ่อนคลายเวลานอนไม่หลับที่สามารถ search ได้ตาม youtube จากนั้นแค่เคลียร์หู ปิดรับเสียงรอบข้างสักแปปเพื่อเรียกอารมณ์ เดี๋ยวความครีเอทก็วิ่งมา

 

3. หลับให้ฝัน

ถ้าใครเคยอ่านเรื่องการทำงานมีประสิทธิภาพมาเยอะ ต้องเคยได้ยินผลวิจัยที่ออกมาบอกแน่ว่าการงีบมันช่วยให้การทำงานดีขึ้น แต่ถ้างีบสร้าง theta wave อาจจะต่างกว่างีบปกติเพราะว่าต้องใช้การหลับแบบ REM (rapid eye movement) เป็นวิธีหลับแบบให้เกิดการฝัน ไม่ใช่หลับลึกนะ หลับลึกไม่กระตุ้นจิตใต้สำนึกแต่เป็นเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งมันจะเกิดขึ้นช่วงหลังจากการนอนไปประมาณชั่วโมงครึ่งและในผู้ใหญ่จะเข้าถึงโหมดนี้ได้แค่ 20 % เท่านั้น เด็กจะมีมากกว่าคือประมาณ 50 % เพราะฉะนั้นเราคงเดาได้ไม่ยากว่าทำไมเด็กถึงมีไอเดียกระฉูด จินตนาการแหล่มกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า

การหลับให้ฝันทำให้สมองตื่นตัว ทำงานเหมือนเราไม่ได้นอน และพูดคุยกับจิตใต้สำนึกของตัวเองอาจจะช่วยให้สิ่งทีซ่อนลึกอยู่มันเผยออกมา แล้วจับสิ่งที่ติดอยู่ในใจเราได้

 

4. หลอกสมองใส่ประจุบวกว่าทำได้

วิธีน้ีเรียกได้ว่าเป็นการปลุกยักษ์ในตัว ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่าหนังสือพัฒนาตัวเองหลายเล่มเขาชอบพูดถึงวิธีนี้ เมื่อสมองมันฉลาดในการจับความเครียดของเราได้ดี ให้เราหมั่นพูดให้มันฟังว่า “กูเก่ง” “กูโคตรครีเอท” เอาแบบในใจก็พอนะ ให้สมองได้ยิน แต่อย่าไปออกเสียงดังให้ใครเขาหมั่นไส้เสียล่ะ การพูดชมตัวเองมันจะส่งผลไปถึงส่วนลึกระดับจิตใต้สำนึกในสมองว่าเราทำได้จริง ๆ วิธีนี้เราลองแล้วว่าได้ผลจริง เพราะพอพูดแบบนี้แล้วไม่คิดตามว่าสิ่งที่พูดมันไม่จริงให้มันต่อต้าน เราจะรู้สึกโล่งใจยิ่งขึ้น ลดความเครียดที่มีลงได้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหลอกให้สมองฟังได้ง่าย ๆ ด้วยการพูดไม่กี่ครั้ง เราต้องเพียรบอกไปบ่อย ๆ หน่อย แล้วมันจะค่อย ๆ ฟังเราไปเอง แล้วพอจิตเราไม่ติดลบ มีแต่เรื่องบวก ๆ ไอเดียบวก ๆ มันก็จะออกมา

 

มีตั้ง 4 ข้อให้เลือกขนาดนี้ ชาว UNLOCKMEN ก็ลองเอาวิธีที่เหมาะกับตัวเองที่สุดไปประยุกต์ใช้ดู หรือถ้าคิดว่าเราสามารถผ่อนคลายตัวเองได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อหลบความเครียดสักพักอย่างการดูหนัง หรือเล่มเกมแล้วก็ทำได้เช่นกัน แต่หนทางสุดท้ายถ้ามันคิดไม่ออกจริง ๆ เราแนะนำว่าการมีหลายหัวจะช่วยคุณได้มาก ลองลดทิฐิหรือความกลัวหันหน้าไปถามเพื่อนร่วมงานคนอื่นเอาเลย คุณจะได้ไอเดียเจ๋ง ๆ ที่คาดไม่ถึงกลับมา และที่สำคัญยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนที่มีให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line