ย้อนอดีตจุดเริ่มต้นที่มาของคำว่า ‘Fuck’ ที่เราคุ้นหู

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราคงเคยได้ยินคำๆ นี้กันอย่างชินหูอยู่แล้ว คำๆ นี้มักถูกพูดขึ้นได้ในหลายเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ทั้งเวลาตกใจ เวลาด่าทอ หรือเวลาทึ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ เราก็อาจเอ่ยคำนี้ออกมาได้อย่างไม่รู้ตัวเหมือนกัน แม้ความจริงคำๆ นี้จะถือเป็นคำหยาบคายแต่อย่างที่รู้กันว่ามันก็ได้ถูกใช้อย่างเป็นประจำในชีวิตประจำวันไปแล้วเหมือนเป็นคำสามัญทั่วไป

ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN ขอเป็นตัวแทน พาท่านย้อนอดีตไปถึงที่มาของคำๆ นี้กันครับว่าแท้จริงแล้วมันมีประวัติความเป็นมายังไงกันแน่

คำว่า ‘fuck’ เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษแท้ๆ คำหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ส่วนมากในปัจจุบัน ศัพท์ภาษาอังกฤษที่เราได้ยินกันอยู่ในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วแต่มีรากศัพท์มาจากภาษาอื่นๆ แทบทั้งนั้น คำๆ นี้ตามรากศัพท์มีความหมายถึง “พฤติกรรมร่วมเพศ” จากการสันนิษฐานพบว่า คำๆ นี้ถือกำเนิดขึ้นในราวช่วงปี ค.ศ. 1475 แต่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าอาจมีความเก่าแก่กว่านั้น

หลักฐานของคำว่า ‘fuck’ ที่เก่าแก่ที่สุด ถูกค้นพบขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1503 ในบทกวีเรื่อง “Brash of Wowing”  ของ วิลเลียม ดันบาร์ นอกจากนี้ คำๆ นี้ ยังถูกค้นพบในบทกวีโบราณอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง คำว่า fuck ยังมีรหัสลับที่สื่อไปถึงความหมายเดียวกัน ซึ่งคำๆ นี้มาถูกยอมรับเป็นที่แพร่หลายในศตวรรษที่ 15 จากกวีที่ผสมผสานระหว่างภาษาละตินและภาษาอังกฤษ ในบทกวีที่ชื่อ Flen, Flyys and freris ในปัจจุบันในประเทศไอร์แลนด์ก็มีการใช้คำว่า feck แทนคำว่า fuck เพื่อเป็นการให้คำหยาบลดลงนั่นเอง

ในความหมายร่วมสมัยของ ‘fuck’ เป็นที่รู้กันว่ามีความหมายได้หลากหลาย บ่งบอกถึงสถานการณ์ อีกทั้งสื่อถึงอาการต่างๆ ของอารมณ์ได้อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะทั้ง โกรธ, ยินดี, ผิดหวัง, ดีใจ, เสียใจ จนกระทั่งในปัจจุบันพบว่าคำๆ นี้ สามารถอยู่ในรูปอะไรก็ได้ของประโยค ไม่ว่าจะเป็น คำเรียก, คำกริยา, คำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์ โดยมีจุดเริ่มต้นในศตวรรษที่ 19 เช่นคำว่า “Let’s fuck” หรือ “Fuck that!!” เป็นต้น จนกระทั่งเป็นที่ยอมรับมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งจากผลการสำรวจในเกาะอังกฤษพบว่า คำว่า fuck เป็นคำหยาบคายที่ถูกใช้บ่อยที่สุด รองลงมาคือคำว่า motherfucker และคำว่า cunt

คำว่า “Fuck” ถูกใช้ในวงการนักการเมืองเป็นที่ฮือฮาครั้งแรกในปี 1965 โดย ประธานาธิบดี Lyndon B.Johnson แห่งสหรัฐอเมริกา เขาได้ใช้คำนี้ต่อ เอกอัครราชทูตประเทศกรีก ซึ่งกำลังมีปัญหาทางการเมืองกันอยู่ในขณะนั้น

ตั้งแต่ปี 1970 วงการภาพยนตร์ของอเมริกันก็ได้ทำการแบนคำว่า fuck อย่างถาวร โดยเป็นผลให้หนังที่ต้องการตลาดแมสทั่วโลกต้องทยอยตัดคำนี้ออกไปจากหนังด้วย

อีกทั้งในปี 1997 คำๆ นี้ ยังถูกใช้เป็นชื่อในวงการธุรกิจครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ชื่อ “Fcuk” จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเล่นคำมาจากคำว่า Fuck นั่นเอง ทำให้เกิดปรากฏการณ์การตั้งชื่อจากการที่ใช้คำว่า “Fcuk” เพื่อหลีกเลี่ยงคำตรงตัวด้วย

เห็นไหมครับ เราจะเห็นได้ว่าทุกคำที่เราใช้พูดกันในชีวิตประจำวันมักมีที่มาเสมอ ทุกอย่างบนโลกนี้ ถ้าพอได้เห็นประวัติของมันแล้ว เราก็มักเห็นคุณค่าของมันมากขึ้น ดังนั้นคงจะไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่าบางทีทุกอย่างบนโลกอาจมีค่า แต่เราแค่อาจไม่เคยได้รู้ประวัติของมันก็ได้นะครับ