“ตกหลุมรักแบบโงหัวไม่ขึ้น” รับมืออย่างไรดีเมื่ออาการคลั่งรักทำให้เราไม่เป็นอันทำอะไร

คำว่า “คลั่งรัก” ดูจะเป็นคำที่เราพบเห็นได้บ่อยขึ้นในอินเทอร์เน็ต และสามารถอธิบายสถานะความรักของใครหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดี ซึ่งบางคนอาจมองว่า คนคลั่งรัก เป็นคนโรแมนติก และจริงจังกับการมีความสัมพันธ์กับคนอื่น แต่รู้ไหมว่า บางครั้งคนคลั่งรักก็เป็นทุกข์หนักกว่าคนอื่นได้เหมือนกัน

เพราะพวกเขาอาจรู้สึกแย่เมื่อความรู้สึกของพวกเขาไม่ได้รับการตอบรับที่ดี หรือ พวกเขาอาจอยู่ในอาการคิดถึงคนที่ชอบตลอดเวลาจนไม่เป็นอันกินอันนอน UNLOCKMEN อยากมาอธิบายวิธีรับมือกับอาการคลั่งรัก เพื่อให้เราสามารถมีความสัมพันธ์ที่ HEALTHY กับคนรอบข้างได้มากขึ้น

อะไร คือ Limerence ？

ความรักเป็นสิ่งสวย การตกหลุมรักใครสักคนอาจทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากขึ้น แต่ถ้าเราหมกหมุ่นกับความรักมากเกินไปจนเกิดเป็นอาการคลั่งรักขึ้นมา มันก็อาจมีผลเสียที่เกิดขึ้นตามมาได้ อาการคลั่งรัก (Limerence) คือ ภาวะที่เรารู้สึกต้องการคนที่เราชอบมาก ๆ จนเกิดความคิดหมกหมุ่น และจินตนาการเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์กับคน ๆ นั้นอย่างจริงจัง ซึ่งคนที่มีอาการนี้จะกลัวการถูกอีกฝ่ายปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองอย่างหนักด้วยเหมือนกัน

คำว่า Limerence เป็นการค้นพบของ Dorothy Tennov นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือ “Love and Limerence: The Experience of Being in Love” ในปี 1979 ซึ่งเธอใช้หนังสือเล่มนี้ในการอธิบายคอนเซ็ปท์ของ Limerence ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาจากการสัมภาษณ์คนจำนวนกว่า 500 คนเกี่ยวกับเรื่องของความรัก

สำหรับคนที่มีอาการคลั่งรักนั่นสังเกตง่าย ๆ คือ อารมณ์ของพวกเขามักจะเปลี่ยนไปตามคนที่เขาตกหลุมรัก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวันไหน คนที่พวกเขาชอบ แคร์พวกเขามาก ๆ เช่น คอยตอบแชท ยิ้มให้ หรือ ทำดีด้วย วันนั้นพวกเขาก็จะมีความสุขมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าวันใด คนที่พวกเขาชอบไม่สนใจ ตอบแชทช้า หรือ พยายามตีตัวออกห่าง พวกเขาก็อาจเป็นทุกข์ และรู้สึกเจ็บปวดอย่างหนักตลอดทั้งวันก็ได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ คนที่เป็น Limerence ยังมักถูกรบกวนด้วย ‘ความคิดแทรกซ้อน’ (Intrusive thought) กล่าวคือ พวกเขามักคิดถึงเรื่องที่ไม่น่าพอใจซ้ำไปที่เกี่ยวข้องกับคนที่พวกเขาชอบซ้ำมา ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้จากการมีระดับเซโรโทนินในสมองต่ำ (ฮอร์โมนแห่งความสุข) คล้ายกับคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ OCD

ลักษณะอื่น ๆ ของ Limerence ก็เช่น มักรู้สึกอายเมื่อได้อยู่ใกล้กับคนที่ตัวเองชอบ มีแนวโน้มที่จะสนใจแค่เรื่องดี ๆ ของคนที่ชอบเท่านั้น และอาจมีอาการทางกายอื่น ๆ เช่น เหงื่อแตก เวียนหัว หัวใจเต้นแรง รวมถึง อาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ

เราจะผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้อย่างไร ?

เมื่ออาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการคลั่งรัก อาจทำให้ร่างกายและจิตใจของเราพัง ดังนั้น เราควรจะมีวิธีประคับประคองความรักให้ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเรา ซึ่งเดี๋ยวเราจะแนะนำต่อไปว่ามีวิธีอะไรบ้าง

เลิกติดต่อคนที่เราชอบ

ไม่ได้หมายความว่า ให้เลิกคุยกับพวกเขาอย่างถาวร แต่การเลิกติดต่อกับคนที่เราตกหลุมรัก หรือ พยายามหลบหน้าพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จะช่วยสร้างระยะห่าง และทำให้เรากลับมาคิดถึงเรื่องของอีกฝ่ายได้อย่างรอบด้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ข้อดีข้อเสีย รวมถึงความเข้ากัน เมื่อเราคิดถี่ถ้วนมากขึ้น เราก็จะมองเห็นความจริงเกี่ยวกับคนที่เราชอบมากขึ้น และอาจไม่ได้คลั่งรักเหมือนเดิมอีกต่อไป

จับผิดคนที่เราชอบมากขึ้น

ถ้าเกิดว่าการหลบหน้าคนที่เราชอบเป็นเรื่องยาก เราอาจเปลี่ยนมาใช้วิธีการจับผิดคนที่เราชอบมากขึ้น เพื่อต่อต้านสมองของเราที่พยายามทำให้เรามองคนที่เราคลั่งดีเลิศเพอร์เฟคอยู่เสมอ ครั้งต่อไปที่เจอหน้ากับคนที่เราชอบ ลองดูว่าพวกเขามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง หรือ ไม่เพอร์เฟกอย่างไรบ้าง การทำแบบนี้จะช่วยให้เรามองเห็นว่าพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ และออกจากอาการคลั่งรักได้ง่ายขึ้น

มูฟออนไปหาคนใหม่

ถ้าเรามองไม่เห็นโอกาสที่จะสานสัมพันธ์กับคนที่เรากำลังตกหลุมรักอยู่ด้วย อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไปหาคนใหม่ที่เหมาะสมกับเรามากกว่าคนเดิมแล้ว เพราะยิ่งเราพยายามต่อไป ก็อาจไม่ถึงจุดที่สมหวัง ต้องลองเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต มองหา ทำความรู้จัก และเปิดโอกาสให้กับคนใหม่ ๆ จะดีกว่า บางทีมันอาจทำให้เราค้นพบกับความรักที่มีความสุขมากกว่าเดิมก็ได้

บอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไป

การบอกความรู้สึกของเราออกไปตรง ๆ อาจเป็นวิธีที่ช่วยให้เราหายคลั่งรักได้มากที่สุด เพราะมันช่วยให้เราเข้าใจความจริงว่าความสัมพันธ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่  เข้าใจว่ามันเป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้หรือไม่ แม้ตอนสุดท้ายเราจะถูกปฏิเสธ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรามูฟออนไปข้างหน้าได้ บางทีถ้าเราไม่พูด เราก็อาจต้องทรมานกับความไม่ชัดเจนต่อไป และยิ่งเราเปิดเผยความรู้สึกได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมูฟออนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นเท่านั้นด้วย

Appendixs: 1 / 2