Loneliness Kills: เป็นคนเหงามันเจ็บปวด เพราะการเหงา “อันตรายกว่าสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน”

แค่เป็นคนเหงามันก็โคตรเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งพออยู่แล้ว ยิ่งเราเหงามากเราก็ยิ่งมักจะตั้งคำถามล้อกับความว้าเหว่ตัวเองมากขึ้นว่า เฮ้ย นี่กูจะเหงาจนตายจากโลกนี้ไปเลยได้หรือเปล่าวะ? แม้จะเป็นคำถามที่ถามตัวเองระหว่างสูบบุหรี่เล่น ๆ มวน สองมวน ไว้ตลกร้ายกับตัวเองเบา ๆ แต่ใครจะรู้ว่าคำถามนี้มันจริงจังขึ้นมา “เฮ้ย นี่กูเหงาจนตายจากโลกนี้ไปเลยได้หรือเปล่าวะ?” คำตอบคือ ใช่ เรามีความเสี่ยงทางสุขภาพได้จริง ๆ จากความเหงา เพราะความเหงาทำร้ายสุขภาพได้เท่า ๆ กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน!

บอกเลยว่าประเด็นเรื่องความเหงาทำร้ายมนุษย์ได้ ไม่ได้เป็นแค่ประเด็นทางจิตวิทยาอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นประเด็นปัญหาทางการแพทย์ที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยทศวรรษที่ผ่านมาทั้งบรรดานักวิจัยทั้งหลายก็แห่กันมาศึกษาเรื่องความเหงาและความโดดเดี่ยวทางสังคมที่มีผลกระทบเชิงลึกต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการตายของมนุษย์ อย่าเพิ่งช็อคจนหมดลมหายใจไปตอนนี้ เพราะนอกจากเราจะเป็นคนเหงาแล้วเรายังเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ไวกว่าคนไม่เหงาอีกด้วย (บอกแล้วอย่าเพิ่งช็อคตาย เดี๋ยวก็ได้ไปไวกว่าคนไม่เหงาแล้ว )

งานวิจัยเกี่ยวกับความเหงาที่ UNLOCKMEN จะเอามาพูดถึงวันนี้คืองานวิจัยจาก Brigham Young University ที่เขาไม่ได้ศึกษาแบบไก่กา แต่ศึกษายาวนานกว่าอายุคนเหงาบางคนเสียอีก เพราะเขาศึกษาเป็นเวลากว่า 34 ปี โดยศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1980 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ผลการศึกษาก็ออกมาว่าความเหงานี่แม่งอันตรายกว่าที่คิดเพราะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงสุดถึง 60% แถมความเหงายังอาจเป็นปัจจัยทางสุขภาพที่สำคัญยิ่งกว่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน หรือโรคอ้วนเสียอีก

การเป็นคนเหงาจึงเจ็บปวดยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น ไหน ๆ ก็เป็นคนเหงาแล้ว เอาเวลามาอ่านบทความยาวขึ้นอีกหน่อยจะได้ไม่เหงาต่อเลยดีกว่า งานวิจัยอีกชิ้นจาก Rice University พูดถึงคนเหงาที่เป็นหวัด กับคนเหงาที่ไม่ได้เป็นหวัด ผู้ชายอย่างเราอ่านแล้วก็อาจจะงง ๆ ว่าแล้วมันเกี่ยวข้องกันยังไง? UNLOCKMEN บอกให้เจ็บปวดก่อนเลยว่าคนเหงาจะเป็นหวัดรุนแรงกว่าคนไม่เหงา เอ้า เอาเข้าไป!

งานวิจัยครั้งนี้ Rice University ทำการทดลองโดยนำกลุ่มตัวอย่างจำนวน 159 คนมาทำการทดสอบระดับความเหงาก่อน ใครเหงาก็ระบุลงไปว่า เออ ผมขี้เหงาครับ เหงามากระดับ 10 ใครไม่เหงาก็ระบุลงไปว่า ผมไม่ค่อยเหงาครับ งี่เง่ามากกว่า หลังระบุระดับความเหงาลงไปเรียบร้อยแล้ว ความพีคระดับต่อมาคือทีมนักวิจัยหยอดสารกระตุ้นเชื้อหวัดเข้าไปทางจมูกของกลุ่มตัวอย่าง

ผลที่ออกมาก็เป็นตามคาด กลุ่มตัวอย่าง 75% ติดหวัดงอมแงมจากสารกระตุ้น จากนั้นนักวิจัยก็ประเมิณความรุนแรงของอาการหวัดและพบว่าคนที่เหงามากกว่าจะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนไม่เหงา!

เห็นไหมล่ะว่าการเป็นคนเหงานี่มันเจ็บปวดจริง ๆ และไม่ได้มีเพียงงานวิจัย 2 ชิ้นนี้เท่านั้น แต่ยุคนี้มีงานวิจัยที่พบว่าความเหงาส่งผลต่อสุขภาพออกมาย้ำเตือนเราเป็นระยะ ๆ รู้อย่างนี้จะบอกว่าอย่าเหงาเลยก็คงยาก เพราะความเหงาไม่ได้สัมพันธ์กับการมีเพื่อนน้อย บางคนมีเพื่อนเยอะก็เหงาได้ เฮ้อ ก็บอกแล้วว่าเป็นคนเหงามันเจ็บปวดจริง ๆ

SOURCE1

SOURCE2