รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง! ควรทำตัวอย่างไรเมื่อต้องเจอกับ พ่อ และ แม่ ของแฟนครั้งแรก

หลายๆ คนคงจะประหม่าไม่น้อยเมื่อเจอกับสถานการณ์อย่างการสัมภาษณ์งาน ซึ่งการมีสติในการตอบคำถามนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่ก็มีหลายๆ คนที่ทำได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ ซึ่งเป็นผลให้ทุกอย่างผ่านไปได้ฉลุย แต่ยังมีอีกหนึ่งการสัมภาษณ์ที่สำคัญที่สุดของความสัมพันธ์ของคุณเลยก็ว่าได้นั้นรออยู่ แถมถ้าคุณสอบตกการสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว ความสัมพันธ์และการสารต่อกับคนรักของคุณนั้นคงจะเกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ เพราะผู้ที่สัมภาษณ์คุณครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าก็คือ พ่อ และ แม่ ของคนรักของคุณนั่นเอง

ส่วนใหญ่เรื่องของความรักระหว่างหนุ่มสาวจะเกิดขึ้นระหว่างคน 2 คน และในขณะที่ความสัมพันธ์กำลังคืบหน้าขึ้นไปเรื่อย แต่กลับต้องสะดุดคลุ่นคิดกับคำถามบางคำถามจากแฟนของคุณ “คุณพร้อมเจอพ่อแม่ฉันแล้วหรือยัง” ในความเป็นจริงแล้ว นั่นคือสัญญาณที่ดีในด้านความสัมพันธ์ของคุณกับเธอ แสดวงว่าเธอพร้อมที่จะเปิดเผยและไว้ใจคุณ เพราะการเสนออยากให้คุณลองเจอกับพ่อแม่เค้ามันก็เหมือนการเปิดโอกาสที่จะให้คุณเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอแล้ว แต่ในทางกลับกันล่ะ? ตัวคุณเองนั่นแหละ ที่กังวลและคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว! คำถามอย่างเช่น ถ้าพ่อเค้าไม่ชอบหน้าเราล่ะ? ควรจะทำตัวยังไงดี? ในความรู้สึกของผู้ชายอย่างเรา มันน่ากลัวยิ่งกว่าการสัมภาษณ์งานที่แรกซะอีก ราวกับว่าคุณกำลังโดนสอบสวนที่มีเครื่องจับเท็จเตรียมเล่นงานคุณอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรคุณก็คงจะหนีไม่พ้น เพราะฉะนั้น UNLOCKMEN มีแนวการเกร็งข้อสอบการสัมภาษณ์มาเฉลยให้คุณได้เตรียมตัวเตรียมใจไปใช้กันแบบฟรีๆ กันเลย

1 สร้างความประทับใจแรกที่ดี

เมื่อคุณมีโอกาสได้พบกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงตัวเป็นๆ ทันทีที่เจอกันในครั้งแรก แน่นอนว่ามันยังไม่สามารถติดสินได้จากการพูดคุยอยู่แล้ว แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นจุดสังเกตุที่สำคัญเช่นกัน เหน็บเสื้อของคุณเข้ากางเกงซะ นั่งหลังให้ตรงเข้าไว้ และยิ้มแย้มเสมอ แม้ว่าคุณจะนั่งใบ้รับประทานอยู่ก็ตาม อย่าทำหน้าเซ็งหรืออึดอัดรำคาญเป็นอันขาดเพราะสีหน้าของคุณจะทำให้ บรรยากาศตอนนั้นอึดอัดตามแน่ๆ การแต่งตัวแบบ “Business Casual” จะทำให้คุณดูเป็นผู้ชายที่สุภาพ และสบายๆ ดูเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย

2  เป็นตัวของตัวเอง (ดีที่สุด)

คำว่าเป็นตัวของตัวเองในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำตัวเหมือนอยู่ที่บ้านของคุณเอง หรือเฮฮาบ้าบอเหมือนเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนของคุณ แต่หมายความว่า คุณต้องเริ่มมีการสนทนาในบางจังหวะ มันก็เหมือนเป็นการเปิดตัวคุณ คุณแค่ทำตัวสบายๆ ตอบคำถามอย่างจริงใจ และตรงไปตรงมา ที่เหลือจะเป็นหน้าที่ ว่าที่พ่อตา แม่ยาย คุณวิเคราะห์เอง เช่นบ้านทำไร คุณทำงานอะไร ฯลฯ สิ่งที่คุณต้องทำคือคุณต้องพยายามที่จะไม่เลี่ยงการตอบคำถาม ไม่ว่าจะด้วยความเขินอาย หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เดธแอร์ เพราะโอกาสที่คุณจะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นนั้นน้อยมากอยู่แล้ว อย่าลืมเป็นอันขาด ว่าคุณเป็นฝ่ายที่กำลังพยายามจะเข้าไป มีดีอะไรแสดงออกมาในแบบที่ตัวคุณเป็น เพราะการที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงเห็นตัวตนของคุณจริงๆ ของคุณ ก็ทำให้รู้ว่าคุณนั้นจริงใจไม่สร้างภาพ

3 เก็บโทรศัพท์มือถือไว้เล่นทีหลัง ปิดเสียงและเสียงการแจ้งเตือนต่างๆ

คุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณนัดใครคนนึงมา แต่เค้าเอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ยิ่งถ้าเกิดขึ้นกับคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ยิ่งแล้ว เพราะมันดูเป็นการไม่สนใจในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ โดยอีกฝ่ายจะมองว่า “จะมาเป็นแฟนลูกสาวเรา แต่ไม่สนใจที่จะทำความรู้จักพ่อแม่เลยรึ?” มันเป็นเรื่องของการให้ความใส่ใจในการพบกันครั้งแรก บวกกับเรื่องของมารยาทบนโต้ะอาหารอีกด้วย เพราะฉะนั้นเก็บไว้ในกระเป๋าน่ะดีที่สุด แม้ว่าคุณจะอยากหยิบขึ้นมาพิมพ์แก้เขิน หรือระบายความกังวลในบรรยากาศที่คุณกำลังทำตัวไม่ถูกกับเพื่อนก็ตาม เพราะนี่คือห้องสอบของคุณ มันคงดูไม่ดีใช่มั้ยล่ะ ถ้าคุณใช้โทรศัพท์ในห้องสอบ

4 แสดงความเป็นสุภาพบุรษของคุณให้เห็น

เมื่อถึงโต้ะเพื่อที่จะรับประทานอาหารร่วมกัน แทนที่คุณจะนั่งพรวดก่อนเลยทันที หยุดยืนให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจเลือกที่นั่งก่อน จากนั่งคุณก็ไปเลื่อนเก้าอี้ของแฟนคุณเพื่อให้เค้านั่งลงก่อน จะว่าไปมันอาจจะดูเหมือนการแสดง สร้างภาพ แต่คุณคือผู้ชายและควรทำให้เป็นนิสัย คุณจะดูเป็นผู้ชายที่สามารถดูแลและเทคแคร์ลูกสาวของเค้าได้ดี

5 พูดคุยในเรื่องที่เป็นเชิงบวก

พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ งานอดิเรกของคุณ หรือสิ่งที่คุณทำกับแฟนของคุณแล้วมีความสุข เช่น เล่าให้เค้าฟังว่า ไปเที่ยวไหนด้วยกันมาบ้าง รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นการปูเรื่องของคุณไปในตัวด้วย และสิ่งที่ไม่ควรขึ้นมาพูดก็คือเรื่องประเภท การเมือง หรืออะไรก็ตามที่อาจจะทำให้เสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย หรือการบ่นด่าว่าคนอื่นให้ทุกๆ คนในที่นั้นฟัง เพราะนั่นคือการแสดงว่าคุณเป็นคนอย่างไร

6 จำไว้ว่าทุกการกระทำของคุณกำลังถูกตัดสิน

ถ้าคุณโชคดีที่พ่อแม่ของแฟนคุณ พูดคุยกับคุณอย่างถูกคอและออกรสชาติ อย่างเพิ่งคิดว่าคุณเป็นยอมรับแล้วในทันที เพราะมันอาจจะเผลอหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมไป คำนึงไว้เสมอว่าพ่อแม่ของแฟน โดยเฉพาะพ่อแล้ว ไม่มีทางจะซี้กับคุณง่ายขนาดนั้นหรอก เพราะถ้าคุณเกิดตีซี้แบบผิดๆ ขึ้นมาเช่นเจอกันครั้งแรกแต่ดันไปเจ๊าะแจ๊ะ คุณพ่อครับ คุณพ่องั้นงี้ อาจจะเจอกับ “ใครพ่อง” จนหงายตกเก้าอี้ก็เป็นได้

เข้าทางพ่อ ถึงแม้ว่าทุกอย่างอาจจะไม่ราบลื่นเท่าไร่นัก ก็อย่าเพิ่งท้อไป สุภาพไว้แม้ว่าคุณอาจจะโดนคำพูดตรงๆ แรงๆ เพราะเค้าคือผู้ปกครองแฟนคุณตัวจริง เค้าย่อมมีสิทธิเต็มๆ ที่จะปกป้องคนที่เค้าไม่รู้จัก และยังไม่ไว้ใจที่พยายามจะเข้ามาเป็นส่วนนึงในครอบครัวอยู่แล้ว หรือเป็นอีกนัยนึงก็คือเค้าต้องการดูปฏิกิริยาของคุณอยู่ว่าคุณมีความพยายามจะพิสูจน์ตัวเองให้เค้าไว้ใจได้ขนาดไหน นั่นคือกำแพงของผู้เป็นพ่อ ถ้าคุณยังข้องใจว่าทำไมผู้ที่เป็นพ่อของแฟนต้องทำเข้มใส่เราตลอด ทั้งๆ ที่ผมก็บอกไปแล้ว ว่า “ผมรักลูกสาวคุณจริงๆ” คำตอบก็คือ ความรักของคุณมันเด็กน้อยมาก สำหรับผู้ที่เป็นพ่อมอบให้ลูกสาว เพราะฉะนั้นอย่าเอาคำว่ารักของคุณไปเสนอขอแลกเอาลูกสาวใครมาเป็นอันขาด เอาง่ายๆ ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่มีลูกสาว และยังไม่เข้าใจความรู้สึกนั้น ลองเปลี่ยนเป็น พี่สาวคุณ หรือน้องสาวคุณดู แล้วคิดเล่นว่าๆ ผู้ชายแบบไหนที่คุณอยากให้มาเป็นคนรักของ พี่ น้องคุณ และคุณอยากเห็นความพยายามอะไรบ้างในตัวเค้า และจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการยอมรับคน คนนึง

ส่วนการเข้าทางแม่ก็อาจจะง่ายหน่อยแต่คุณต้องทำให้พอดีๆ เกิดออกหน้าออกตาเกินไป เดี๋ยวจะโดนคิดว่าจะทะลึ่งจีบแฟนพ่อ โดนอีกเด้งจะไปกันใหญ่ ทางง่ายๆ อย่างเช่นถ้าคุณได้ไปทานอาหารที่บ้านของแฟนคุณ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ อาจจะช่วยเก็บกวาด ล้างจานทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ก็เป็นการแสดงออกที่ดีไม่น้อย แถมได้ช่วยแบ่งเบาภาระภายในบ้านได้ อาจจะได้คะแนนไม่มากก็น้อย

ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อภาระกิจในการพบกันครั้งแรกกำลังจะจบลง อย่าลืมคำว่า “ขอบคุณ” เป็นอันขาด ไม่ว่าคุณจะรวย จะหล่อ หรือจะเก๋ามาจากไหน การขอบคุณพวกเค้าในตอนท้าย และบอกว่าคุณรู้สึกยินดีที่ได้มาพบปะ หรือรับประทานอาหารร่วมกับทางบ้านของแฟนคุณ ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับคุณและคุณก็เห็นคุณค่าของช่วงเวลานั้น ถึงแม้จะไม่เป็นความจริงซะทั้งหมดก็ตาม รับรองว่าทั้งแฟนคุณ และผู้ปกครองของแฟนคุณ จะต้องมีความรู้สึกต่อคุณในแง่บวกมากกว่าแง่ลบแน่นอน