Entertainment

ย้อนรอย 5 หนังเปรี้ยงของเจ้าพ่อหนังแป้ก NICOLAS CAGE ก่อนเขาพักงานแสดงแบบถาวร

By: unlockmen April 23, 2018

ด้วยอายุและจุดอิ่มตัวในวงการการแสดง ทำให้นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง Nicolas Cage ที่ฝากผลงานไว้มากมายเลือกที่จะยุติบทบาทการเป็นนักแสดงและหันหน้าเข้าสู่วงการเบื้องหลังแทน วันนี้ UNLOCKMEN จะพามาหาคำตอบเบื้องลึกเบื้องหลังถึงการตัดสินใจของเขาครั้งนี้ พร้อมกับแนะนำ 5 หนังที่เขานำแสดง ให้เอาไปดูกันให้หายคิดถึงก่อนที่เขาจะพักงานแสดงไปยาว ๆ

Nicolas Cage คือใคร ?

เขาคือนักแสดงวัย 54 ปีที่มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เยอะมากพอที่จะทำให้เราคุ้นหน้าเขาได้บ้างในภาพยนตร์อย่าง Leaving Las Vegas, Gone In 60 Seconds และ Face Off ชื่อในวงการ Nicolas Cage นั้นใช้แทนชื่อจริง ๆ ของเขาคือ Nicolas Coppola เห็นนามสกุลนี้มันคุ้นตาซะเหลือเกิน ใช่แล้ว เขาเป็นญาติของผู้กำกับมือฉมังอย่าง Francis Ford Coppola ซึ่งมีผลงานที่สร้างชื่ออย่าง The Godfather และ Apocalypse Now เขาเรียนจบจากคณะภาพยนตร์และการแสดงในระดับมหาวิทยาลัย ทำให้นอกจากการแสดง เขาสามารถทำงานเบื้องหลังได้อีกด้วย

พักหลังนี้เราอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเขาในฐานะ Meme บนโลกอินเตอร์เน็ตเสียมากกว่า เนื่องจากเขาไม่ได้มีภาพยนตร์ที่ทำให้เขากลับมาดังเปรี้ยงนานมากแล้ว (ถ้าจะบอกว่าเป็นหลักสิบปีก็คงจะไม่เกินไป) จนถูกสถาปนาเป็นเจ้าพ่อหนังแป้กอีกคนแบบไม่มีเสียงคัดค้านสักเท่าไหร่

แม้ตอนนี้เขาจะโดนล้อเสียไม่มีชิ้นดี แต่อย่าลืมว่า เขาคือนักแสดงที่ได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายมานอนกอดไปแล้วเรียบร้อย จากบทพระเอกในเรื่อง Leaving Las Vegas เมื่อปี 1995

ถ้ามาแคะแกะเกากันถึงสาเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยมีหนังเปรี้ยงกับเขาบ้าง อาจจะเป็นเพราะหลาย ๆ สาเหตุ โดยหลัก ๆ คือ เขามักจะรับงานแสดงในหนังเกรดบีซะส่วนใหญ่ บางเรื่องบทเละเทะออกทะเลเสียจนชื่อของเขาไม่อาจช่วยให้หนังดูดีขึ้นมาได้เลย และหน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลาของเขา ที่ดูแล้วชวนให้ขมวดคิ้วตาม แม้ไม่ใช่ซีนเครียดดราม่าอะไร แต่เขาก็ยังหน้านิ่วได้แบบมหัศจรรย์ เลยรู้สึกว่าการแสดงของเขาแสดงอารมณ์ออกมาได้ดีแค่ด้านดราม่าเท่านั้น

Cage จะไปไหน ทำอะไรต่อ ?

Nicolas Cage เปิดเผยว่าเขากำลังวางแผนจะเตรียมตัวพักงานแสดงแบบถาวรในอนาคตอันใกล้นี้ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ The Blast ว่า “ในตอนนี้ ผมก็ยังเป็นนักแสดงอยู่นั่นแหละ และก็จะเป็นไปอีกสามสี่ปีโน่น แต่หลังจากนั้นก็คงพักเรื่องงานแสดง แล้วหันมาทุ่มเทกับงานกำกับ งานเบื้องหลังแทน” จริง ๆ แล้ว Cage เขาไม่ใช่แฟนของ Ghost Rider ที่เขาเป็นคนแสดงเองเมื่อปี 2007 เลย “Ghost Rider เป็นหนังที่ควรจะได้ R-rated มาก ๆ” เขากล่าวเสริมอีกว่า “David Goyer เขาเขียนบทได้เฉียบคมมาก ผมยังอยากทำงานกับ David อยู่เลย แต่จะเหตุผลอะไรก็ช่าง เขาไม่ให้พวกเราทำหนังต่อ”

ในขณะที่เว็บไซต์ IMDB ระบุไว้ว่างตอนนี้เขาเองก็มีงานรัดตัวไม่น้อยเลย งานโปรดักชั่นตอนนี้ก็เจ็ดงานเข้าไปแล้ว และยังมีงานแสดงในภาพยนตร์ทริลเลอร์ Between Worlds และให้เสียงพากย์ใน The Croods 2 อีกด้วย

ทำความรู้จักกับเรื่องราวของเขาคร่าว ๆ ไปแล้ว คราวนี้เราขอแนะนำ 5 หนังที่นำแสดงโดย Nicolas Cage ที่ผู้คนพูดไปในเสียงเดียวกันว่ามันเจ๋งซะจริง ๆ แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีหนังเปรี้ยงมาป้อนงานให้เขาแล้วก็ตาม จริง ๆ อาจจะมีเรื่องอื่นอีกมากที่เขาแสดงแล้วดังพลุแตก เพราะเขาเองก็แสดงหนังไว้เยอะมากเหมือนกัน แต่ขอยกมาแค่ 5 อันดับพอ เพื่อความไม่ยืดยาว ไม่เช่นนั้นคงต้องเขียนต่อกันสักสองพาร์ตแน่นอน

Leaving Las Vegas (1995)

ภาพยนตร์โรแมนติกหวานอมขมกลืนของ Ben Sanderson นักเขียนบทภาพยนตร์ที่เคยใช้ชีวิตแบบอู้ฟู่สุด ๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดพีคของชีวิต จนวันหนึ่งที่เขาต้องแยกทางกับภรรยา อยากจะบอกว่าชีวิตเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน แต่กลัวจะไม่สุภาพเอาเป็นว่าหลังมือก็แล้วกัน จากคนที่ใช้ชีวิตแบบหรูหราห้าดาว กลายเป็นไอ้หนุ่มขี้เมาสิ้นเนื้อประดาตัว ใช้ชีวิตเหลวแหลกไร้จุดหมายไปเรื่อย ๆ จนมาเจอสาวสวยลุคเซ็กซี่อย่าง Sera ที่จะมาเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ที่เหลือนี่ต้องดูต่อเอาเอง

หลายคนอาจจะเบื่อที่ต้องเห็นเคจเล่นบทดราม่าหน้านิ่งแบบนี้แล้ว (เราเองก็เช่นกัน) แต่บอกเลยว่าไม่ใช่สำหรับเรื่องนี้ บทของเรื่องนี้มันส่งให้เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับตัวละครได้แบบเชื่อจริง ๆ ว่าเขาคือไอ้หนุ่มขี้เมาคนนั้น จนเขาก็ได้ออสการ์ตัวแรก จากสาขาแสดงนำชายมานอนกอดจากเรื่องนี้นี่แหละ

The Rock (1996)

ภาพยนตร์แอ็กชั่นยิงรัว ๆ ระเบิดรัว ๆ กับผู้กำกับอย่าง ไมเคิล เบย์ เจ้าเก่าเจ้าเดิม เรื่องนี้เคจประคบคู่กับหนุ่มบอนด์รุ่นเก๋าอย่าง Sean Connery เนื้อเรื่องก็สูตรสำเร็จของหนังจับตัวประกันต่อรองกันไปมา แต่เรื่องนี้กลายเป็นฝั่งทหารที่เข้าไปช่วยตัวประกันนั้น กลับเป็นฝ่ายขอต่อรองกับทางการเสียเอง เพราะต้องการให้ทหารที่ตายไปได้รับอะไรชดเชยบ้าง ทางการก็ไม่ได้ยอมง่าย ๆ หาหน่วยเข้าไปบุกทหารกลุ่มนั้น โดยมี  John Patrick Mason นักโทษคนเดียวที่เคยแหกคุกนั้นสำเร็จ (พื้นที่ที่ตัวประกันถูกจับไว้) รับบทโดย Sean Connery โดยที่เคจรับบทเป็น Dr. Stanley Goodspeed ผู้ชำนาญการด้านเคมีที่จะมาช่วยทางการอีกแรง เราจะได้เห็นเคจในบทมาดนิ่งคิ้วขมวดเหมือนเดิม แต่เรื่องนี้หลายคนบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นหนังของไมเคิล เบย์ ที่กล้าการันตีความมันส์ได้แบบเต็มปาก

Gone in Sixty Seconds (2000)

เรื่องราวของหนุ่มเซียนรถ ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับรถแทบจะทุกอณูเหมือนรู้จักร่างกายของตัวเอง แต่ว่าเขาต้องเอาความรู้ที่ตัวเองมีมาใช้โจรกรรมรถ จนกลายเป็นนักขโมยรถระดับเซียน ซึ่งความสามารถของเขาอยู่ในระดับที่สามารถหยิบฉวยรถนั้นไปได้ภายใน 60 วินาทีเท่านั้น (ตามชื่อเรื่อง) แต่เมื่ออยากจะรีไทร์ตัวเองออกจากวงการดำมืดนี้ ตามสูตรหนังโจรกรรม ก็ต้องมีคนตามให้เขากลับมาทำภารกิจสุดท้าย โจรกรรมรถหรู 50 คันใน 24 ชั่วโมง เพื่อแลกกับชีวิตน้องชายของเขา ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นเคจในมาดกระตือรือร้นมากกว่าเรื่องอื่น ประกบคู่กับตัวแม่แห่งวงการอย่างแองเจลีนา โจลีอีกด้วย ใครอยากเห็นเขาในบทบาทที่แตกต่างออกไปบ้าง (เล็กน้อย) ลองหาเรื่องนี้มาดูกันได้

Face/Off  (1997)

คอหนังแอ็กชั่นต้องคุ้นเคยเรื่องนี้เป็นอย่างดี กับหนังหักเหลี่ยมระดับตำนานเรื่องนี้ สำหรับในตอนนั้นถือว่าเรื่องนี้เป็นพล็อตที่ล้ำนำสมัยอยู่ไม่น้อย เรื่องราวคร่าว ๆ คือ ฌอน เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ อยากแก้แค้นทรอย ศัตรูคู่อาฆาตของเขาที่กำลังนอนเป็นผักอาการโคม่าด้วยการเอาใบหน้าของทรอย มาผ่าตัดแปะที่หน้าตัวเอง แล้วแทรกซึมเข้าไปในกองโจรเพื่อทำลายแผนชั่ว ๆ ที่พวกนั้นกำลังจะทำ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทรอยที่อาการโคม่าดันตื่นขึ้นมา แล้วเอาหน้าของณอนไปใช้บ้าง และใช้ชีวิตเป็นณอนแทนมันซะเลย ทั้งคู่จะสะสางชำระแค้นกันยังไง บอกเลยว่าโคตรมันระดับตำนาน ใครที่ยังไม่ได้ดูรีบหามาดูแบบด่วน ๆ

และเรื่องนี้นี่แหละที่เป็นที่มาของ meme ตาเหลือกและฉากหัวเราะในตำนานของเขานั่นเอง

Con Air (1997)

เรื่องราวสุดดราม่าของ คาเมรอน โพ ทหารหนุ่มที่กลับมาเยี่ยมแฟนสาว แต่ดั๊นมีเรื่องกับนักเลงหัวไม้จนต้องเข้าซังเตไปทั้งที่เมียยังท้องอยู่ เขานับวันคอยที่จะได้ออกจากคุกเพื่อที่จะได้พบลูกสาวเขาที่เขาไม่เคยเห็นหน้าเลย ในวันที่เขาได้รับอิสรภาพ เครื่องบินที่ย้ายนักโทษดันโดนปล้น เรื่องราววุ่นวายเลยเกิดขึ้น โพจะทำยังไงให้ตัวเองได้กลับไปเจอหน้าลูกเมียที่คอยเขาอยู่ มาดูกันว่าเขาต้องฝ่าฝันอะไรบ้าง ไปนั่งลุ้นและช่วยกันขมวดคิ้วส่งกำลังใจให้เคจได้ในเรื่องนี้

แม้ว่าจะโดนล้อเลียนไปบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีผลงานมากมายอีกคนหนึ่ง อาจจะมีบางบทที่แป้กบ้างจืดบ้าง แต่บทไหนที่เหมาะกับเขา มันเข้าทางซะจนเราเชื่อได้เลยว่าเขาคือตัวละครนั้นจริง ๆ ใครที่กำลังใจหายกับการพักงานแสดงของเขา ลองหยิบหนังที่เราได้แนะนำไปมาดูกันให้หายคิดถึงได้

SOURCE

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line