ป่ากระจุยยย!! “Rambo Lambo” 1990 Lamborghini LM002 พบกับกระทิงสายลุยสุดหายาก

ใครต่างก็ทราบกันดีว่ากระทิงเปลี่ยว Lamborghini คือแบรนด์ Supercar ความเร็วสูงที่เปี่ยมล้นไปด้วยสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าชื่อเสียงของ Lamborghini จะเริ่มปรากฎในทำเนียบยานยนต์เพียง 50 กว่าปี แต่ชื่อชั้นของเจ้ากระทิงเปลี่ยวนี้ กลับขึ้นมาผงาดอยู่บนหัวแถวของวงการยนตรกรรมได้อย่างไม่มีข้อกังขา

แน่นอนว่าคนทั่วไปมักจะได้ยินคำร่ำลือ ชื่อเสียงของ Lamborghini จาก  350 GTV, Diablo, Gallardo,  Murcielago และ Aventador ซึ่งเป็นรถสปอร์ตกันซะเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เราจึงถึอโอกาสหยิบเอารถสุดพิเศษจาก Lamborghi ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ยลโฉมกัน

ที่สำคัญกว่านั้น ถ้าหากใครคิดไว้ว่ามันต้องเป็นรถสปอร์ตล่ะก็ บอกเลยว่าคุณทายผิดซะแล้ว

Lamborghini รุ่นที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อเล่นว่า “Rambo Lambo” หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Lamborghini LM002 เป็นรถประเภท SUV/SUT ที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Lamborghini Automobile ในช่วงปี 1986 – 1993

LM002 ถือเป็นรถที่ทาง Lamborghini ตั้งใจผลิตออกมาให้มันเป็นรถสำหรับบุกตะลุยท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพสูง และยังสามารถให้อารมณ์สปอร์ตในยามขับขี่ได้แบบเต็มๆ

ซึ่งการที่จะทำให้รถคันหนึ่งสามารถลุยไปได้ในทุกๆ สภาพถนนนั้น เรื่องของระบบขับเคลื่อนคือสิ่งสำคัญลำดับแรกๆ Lamborghini จึงได้หยิบเอาระบบขับเคลื่อน 4WD มาใส่ลงไปใน LM002 และนี่นับเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4WD ที่ Lamborghini ได้ผลิตออกมา

ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ ถ้าหากหลายคนไม่เคยรู้จักกับ LM002 คันนี้มาก่อน เพราะทาง Lamborghini ได้จำกัดจำนวนการผลิตเพียงแค่ 300 คันเท่านั้น และมีเพียง 48 คันที่ถูกจับนำมาอัพเกรดต่อยอดไปให้กลายเป็น “Rambo Lambo”

ไม่ว่าจะเป็นการหุ้มหนังที่เบาะใหม่, กระจกไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศ และชุดเครื่องเสียงชุดใหญ่จาก Alpine ทางด้านเครื่องยนต์ก็ถูกอัพเกรดชุดใหญ่ โดยการนำเครื่องยนต์ขนาด 7.2 ลิตร L804 marine V12 มาใส่เอาไว้ พร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำให้รถสุดลุยคันนี้มีพละกำลังมากพอที่จะแหวกป่าดงพงไพรเข้าไปได้สบายๆ

หากใครสนใจ “Rambo Lambo” Lamborghini LM002 คันนี้ลองดู VDO ที่ด้านล่างนี้ได้เลย และถ้าหากใครครั่นเนื้อครั่นตัวอยากได้เป็นเจ้าของลองเข้าไปเช็คข้อมูลพร้อมราคาได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เช่นกัน

ซึ่งผู้ที่ใจรักอยากจะลองนำเข้ามา อาจจะต้องเหนื่อยหาซากเพื่อ  Restoration  แถมยังน่าจะต้องเตรียมเงินภาษีก้อนโตจากจำนวน cc และอัตราการปล่อยควันพิษเลยทีเดียวเชียว

CHECK IT OUT!!