

Business
Refresh ชีวิตคนเมือง เปลี่ยนความเครียดด้วยแนวคิดแบบ ‘สุขนิยม’ ของ Epicurus
By: Chaipohn November 11, 2016 46507
ท่ามกลางวิถีชีวิตที่เร่งรีบในสังคมปัจจุบัน คนเมืองส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตภายใต้ภาวะกดดันจากสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ข่าวสารมากมายทั้งดีและไม่ดีที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกก้าวของการใช้ชีวิต ส่งผลให้บางครั้งแม้ว่าเราจะเป็นคนที่มีทัศนคติดีอยู่แล้ว ก็อาจมีอาการเสียสมดุลได้เช่นกัน มีการพูดเปรียบเทียบว่า การเจ็บป่วยทางกายนั้นยังสามารถที่จะมองเห็น เข้าใจ และเยียวยาให้ตรงจุดได้ แต่หากเจ็บป่วยทางด้านจิตใจ นับเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและไม่ง่ายต่อการรักษา ก่อให้เกิดเป็น ‘ความทุกข์’ สิ่งที่บางคนกำลังเผชิญอยู่ทุกวัน จนกลายเป็นความเคยชินอย่างไม่รู้ตัว ว่าแต่คุณเคยถามตัวเองไหมว่า ทุกวันนี้คุณมีความสุขหรือยัง?
แน่นอนว่านิยามความสุขของแต่ละคนย่อมมีโอกาสที่จะแตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์และมุมมองของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น Amanda Seyfried สาวสวยมากความสามารถ ก็มีทัศนคติต่อความสุขในรูปแบบของการยิ้ม และหัวเราะไว้ว่า “Making people laugh is a magic. I feel like if you have humility, then you can do anything in comedy.”
หรืออย่าง Johnny Depp นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ทุกคนชื่นชอบในบทบาทโจรสลัดลีลาเย้ายวนกวนใจเป็นลายมือประจำตัวของผู้กำกับชื่อดัง Tim Burton ไปแล้วเรียบร้อย เคยพูดถึงความสุขที่ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขเงินรายได้ในธนาคารว่า “Money doesn’t buy you happiness, but it buys you a big enough yacht to sail right up to it.” แน่นอนว่าทั้งคู่ให้ความหมายของความสุขแตกต่างกันออกไป ซึ่งสะท้อนคาแรคเตอร์ของแต่ละคนออกมาอย่างชัดเจน แต่ถ้าพูดถึงแกนกลางใจความสำคัญของคำว่า “ความสุข” ที่มีอิทธิพลที่สุดและยังคงใช้เป็นแง่คิดที่มีประโยชน์ได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี คงต้องยกให้ “ความสุข” ในมุมมองแนวคิดโดยปราชญ์ชาวกรีกที่ชื่อว่า “Epicurus”
Epicurus นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ เชื่อว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตของมนุษย์คือ ‘ความสุข’ เขาเชื่อว่าความสุขที่แสวงหานั้น จะต้องไม่นำมาซึ่งความทุกข์ในภายหลัง ถ้าย้อนกลับไปในยุคหนึ่งของ เอเธนส์ แนวคิดของเขาไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมนัก แต่หลังจากที่ Epucurus เสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยปี แนวคิดของเขากลับสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งกลายเป็นแนวความคิดอันทรงอิทธิพลอย่างยิ่งต่อปรัชญาการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ก่อนจะถูกถ่ายทอดส่งต่อออกไปและถูกปรับใช้ตามแต่ละวัฒนธรรมทั่วโลก นั่นคือที่มาของคำว่า ‘สุขนิยม’ ซึ่งบอกไว้ว่า มนุษย์ทุกคนสามารถแสวงหาความสุขของการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนได้ จาก 3 ข้อหลักดังนี้
ความสุขจากการมีอิสรภาพที่ดี
ในยุคของ Epicurus นั้น ชีวิตในสังคมเมืองอย่างเอเธนส์ ยากที่จะมีความสุขตามแนวคิดของเขาได้เพราะเป็นวิถีชีวิตที่ต้องคอยทำตามกฎระเบียบ คำสั่งของสังคมอย่างเคร่งครัด ทำให้ขาดอิสรภาพในการใช้ชีวิต หากเทียบกับสังคมเมืองในยุคนี้ ก็คล้ายกับการใช้ชีวิตตามกระแสสังคม ที่แม้จะไม่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดขนาดนั้น แต่อาจจะไม่มีพื้นที่ให้แสดงความคิดหรือความชอบของตัวเองออกมาได้มากนักในพื้นที่สาธารณะ เช่นที่ทำงาน ถนนหนทาง อิสรภาพของพวกเราจึงมักจะถูกแสดงออกในพื้นที่ส่วนตัว เช่นในบ้านที่อยู่อาศัย การเลือกใช้ชีวิตที่อิสระบนพื้นที่ของเราเอง ทำในสิ่งที่อยากทำ อิสรภาพสุดอินดี้ที่สามารถมีได้ง่าย ๆ บนพื้นที่ส่วนตัวกับคนที่เราสนิทสนมด้วย เป็นสิ่งที่จะสร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นขึ้นในหัวใจของเราและคนรอบข้างได้ถาวรและสมบูรณ์อย่างแท้จริง?
ความสุขจากการมีเพื่อนที่ดี
‘Happiness in the garden’ ไม่ใช่แค่คำพูดของนักปราชญ์ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสวนของ Epicurus ผู้ควักเงินซื้อบ้านพร้อมสวนขนาดใหญ่ โดยมีจุดมุ่งหมายในการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานศึกษาที่เขาตั้งใจสร้างขึ้น เพื่อให้เพื่อน ๆ รวมถึงคนที่สนใจเข้ามารวมตัวกันเป็น community และตั้งชื่อว่า Kepos หรือแปลว่า Garden นั่นเอง ในยุคนั้น Garden Community มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ทุกคนได้มีพื้นที่ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เป็นสังคมตัวอย่างที่รวมไว้ซึ่งผู้ที่มีความคิดดี ๆ และมีจิตใจช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แม้ตัว Epicurus จะเสียชีวิตลงไป แต่แนวคิด Community นี้ก็ถูกส่งต่อกันออกไป และแน่นอนว่ายังสามารถปรับใช้ได้กับสังคมคนเมืองในปัจจุบัน การมีเพื่อนที่ดี จะมีได้ในสังคมที่ดี เพราะมิตรภาพที่แท้จริงไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน แต่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ร่วมกัน ทั้งในชั้นเรียน ที่ทำงาน รวมถึงเพื่อนบ้านซึ่งถือว่าเป็น Community ที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะถือเป็นปัจจัยที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยอย่างยาวนาน แต่ถ้าได้อยู่ในสังคม community ที่ดี ก็เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่สมบูรณ์แบบอีกข้อนึงเลยทีเดียว
ความสุขจากการมีชีวิตอย่างคนมีความคิดความอ่านที่ดี
การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ เข้าใจในเป้าหมายที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง และรู้ลำดับขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไรจึงจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ รู้จักเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวและการงาน เรียกได้ว่าเป็นคนฉลาดใช้ชีวิต รู้จักคิด รู้จักเลือก ถ้าเป็นคนในปัจจุบันก็น่าจะหมายถึงคนที่รู้จักวางแผนชีวิตให้ตัวเอง เห็นภาพตัวเองในอนาคตอย่างชัดเจน และทำทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ยอมรับความท้าทายเพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ยอมทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุข รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่ควรหยิบยื่นให้ตัวเองและคนรอบข้าง เมื่อพยายามจนได้สิ่งนั้นมาครอบครอง จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุดยอดที่สมบูรณ์แบบ
ถ้าถามคนวัยรุ่นอาจจะได้คำตอบว่า ความสุขที่สมบูรณ์แบบคือการได้ครอบครองรถเท่ๆ สักคันเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง แต่ถ้าถามคนวัยทำงาน หรือแม้แต่คนเดิมที่โตขึ้น เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วความหมายของความสุขที่สมบูรณ์แบบจะเปลี่ยนไป จากรถเท่ๆ สักคัน จะกลายเป็นบ้านสวยๆ มีพื้นที่พอประมาณ ในสังคมที่ดีสักหลัง เพื่อเป็นการรองรับความต้องการของครอบครัวในอนาคต อีกทั้งบ้านยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญเป็นลำดับแรกสำหรับคนที่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก่อนจะสร้างเนื้อสร้างตัวไล่ตามความฝันอันถัดไป เพราะนอกจากจะใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาวแล้วบ้านที่อยู่อาศัยยังให้มูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป เป็นการลงทุนที่เกิดประโยชน์สูงในอันดับต้นๆ
ปัจจุบันนี้ความสุขที่สมบูรณ์แบบไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยจำนวนเงินมหาศาล อย่างเช่นบ้านในโครงการ The City บ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพสูงของเมืองหลวง เพื่อตอบ สนองการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นกับครอบครัว การทำงาน หรือ Hang out กับเพื่อนฝูง เพียบพร้อมไปด้วยอิสรภาพสไตล์บ้านหลังเดี่ยว ซึ่งเป็นพื้นที่ให้คุณและครอบครัวได้สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ใช่มิตรภาพจากเพื่อนบ้านที่ดี และราคาที่น่าลงทุน เพื่อมอบความสุขสมบูรณ์แบบในทุกวันของการใช้ชีวิต ให้กับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในแถบสุขสวัสดิ์ และ บางใหญ่ เพราะที่นี่ ไม่ใช่แค่เพียงคุณจะได้ที่อยู่อาศัย แต่คุณจะได้ที่พักกาย พักใจ เพื่อเติมเต็มชีวิตให้ไร้ที่ติกว่าเคย
พบกับความ perfectionist ของคุณได้ที่ The City 2 ทำเลใหม่ The City สุขสวัสดิ์ และ The City บางใหญ่ ลงทะเบียนเพื่อสัมผัสความสุขสมบูรณ์แบบที่ The City คลิก https://goo.gl/Ss8nQj