RETAIL TREND 2019: จับตา 5 เทรนด์ดาวรุ่งดาวร่วงการค้าปลีกเอเชียปี 2019

ทำมาค้าขึ้นคงเป็นสิ่งที่บุรุษนักธุรกิจอย่างเราไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น หรือมือฉมังต้องการ แต่เราเรียนรู้ว่าโลกของตลาดมันขึ้น-ลง อยู่เสมอ ถ้าปรับไม่ทัน สต๊อกของเยอะ หรือดันเจอกระแสลบของสินค้าที่นำมาขายก็มีโอกาสจะจมทุนกันเห็น ๆ

เพื่อไม่ให้เรื่องการค้ากำไร กลายเป็นการค้าขาดทุน เราได้ติดตามข้อมูลเทรนด์การค้าปลีกในเอเชียที่จะรุ่งในปีหมูที่กำลังจะมาถึงทั้ง 5 เทรนด์จาก Trend Watching มาฝากกัน เผื่อใครเห็นช่วงนี้ยอดตกจะได้เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร และปรับตัวได้ทันก่อนกระแสมันจะโหมใส่ในปีหน้าจาก 5 เรื่องนี้

1. ZERO-WASTE SHOPPING

Credit photo: Trend Watching

เรื่อง Zero-waste หรือแนวคิด “ขยะเหลือศูนย์” ตอนนี้มันมาถึงเรื่องการค้าขายแล้ว และกำลังเบียดตัวเข้ามาเป็นกระแสหลักของการชอปปิ้งที่หนุ่มนักขายอย่างเราไม่ควรเพิกเฉย

ทำไมต้อง Zero Wasting Shopping: ปัญหาขยะเป็นปัญหาระดับโลก หนุ่มเมืองอย่างเราคงเข้าใจปัญหาเรื่องนี้ดี ส่วนเหตุผลที่จะทำให้เรื่องนี้ฮิตในกลุ่มทวีปเอเชียเพราะหลายคนเริ่มตระหนักเรื่องนี้แล้ว เพราะกลุ่มประเทศในเอเชียไมว่าจะเป็น จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมทั้งประเทศเราเอง เป็นต้นเหตุของกองขยะในมหาสมุทรจำนวนกว่า 80% ในโลก ที่สำคัญหลายประเทศใหญ่ ๆ อย่างจีนเองก็เริ่มขยับตัวแล้วไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดการนำเข้าพลาสติกเข้าประเทศและรีไซเคิลพลาสติกจริงจังตั้งแต่ต้นปี 2018 หรือในไต้หวันที่ออกมาแบนการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียวทั้งประเทศ

ตัวอย่างของร้านค้าปลีกที่ใช้แนวทางนี้ /Credit photo: Trend Watching

KEY TO SUCCESS: ใครที่มองภาพไม่ออกว่ามันมีเรื่องแบบนี้ในบ้านเราด้วยเหรอ ในสายของ retail เราคงต้องบอกว่าตอนนี้พวกแหล่ง supermarket อย่าง Tops มีการจัดแคมเปญวันพุธงดใช้พลาสติกในบางช่องแล้วและใช้สติ๊กเกอร์แปะบนสิ่งของเพื่อกำกับการตรวจสอบแทน หรือกระทั่งร้านกาแฟริมทางหลายที่ก็ใช้วิธีให้พกแก้วมาเองแล้วลดราคาให้เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเราจับกระแสการสร้างมูลค่าทางการตลาดแบบลดต้นทุนเหล่านี้ (งดใช้บรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้านำมาเอง) แล้วนำมาทำเป็นกิมมิกก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

2. MAGIC POINT OF SALE

แบรนด์ยิ่งฉลาดขาย ยิ่งได้ใจผู้บริโภค

Credit photo: Trend Watching

ทุกวันนี้ถ้าแบรนด์ไหนสามารถตอบสนองความเอาแต่ใจของลูกค้าได้ ผู้บริโภคก็พร้อมจะวิ่งเข้าไปซบอกทันที กระแสการค้าแบบฉับไวทันความต้องการระดับวินาทีจึงเป็นกระแสที่ฉุดไม่อยู่ ดังน้ัน วันนี้การลงทุนเรื่องหน้าร้านออฟไลน์อาจมีความหมายน้อยลงเมื่อเทียบกับหน้าร้านออนไลน์ คีย์หลักของการค้าปลีกในปีหน้าจึงเป็นเรื่องของการเข้าถึงการขายด้วยวิธีแบบใหม่ ทำอย่างไรถึงจะเรียกดูสินค้าเราได้ด้วยวิธีใหม่ ใครตีโจทย์เรื่องนี้แตกก็เตรียมรับเงินไปได้เลย

MAGIC POINT OF SALE STYLE: รูปแบบธุรกิจในเอเชียที่สนับสนุนความคิดนี้ ได้แก่ บริการแชร์สินค้าทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นพาวเวอร์แบงก์, รถจักรยาน พาวเวอร์แบงก์ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถใช้บริการได้จากการใช้จ่ายระบบ cashless ผ่านมือถือ

ไม่ใช่แค่จำนวนร้านค้าที่ย้ายฟากมาให้บริการพร้อมจ่ายแบบ cashless เพิ่มขึ้นเท่านั้นที่ออกมายันกระแสว่ามันจะมาแน่ ๆ เท่านั้น แต่ยังมีการคาดการณ์ตัวเลขค่าใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้เป็นจำนวนมหาศาลในปี 2021 ด้วยว่าจะสูงถึง สามหมื่นสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Credit photo: Trend Watching

KEY TO SUCCESS: การ Integrate ให้ลูกค้าตามหาได้เจอผ่านแพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้งานประจำ ไม่ว่าจะเป็น WECHAT, GOOGLE หรือ ALIBABA และ INTIME ที่สำคัญควรจะ go beyond กว่านั้นด้วยการหาช่องทางเชื่อมกับอุปกรณ์อัจฉริยะแบบ Alexa หรือ Google Assistant เพื่อนักช้อปสุดสมาร์ทสามารถเข้าถึงร้านเราได้จะยิ่งเป็นแต้มต่อ

3. FOOT SOLDIERS


สร้างร้านย่อยกระจายตามท้องถิ่นเติมเต็มทุกความต้องการ

Credit photo: Trend Watching

ใครที่เป็น Retails เจ้าใหญ่หน่อย หรือลูกค้าติดเยอะ การกระจายสินค้าด้วยการเปิดร้านเล็กตามพื้นที่ท้องถิ่น ก็ยังเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการและสร้าง Impact ให้การขายได้ดียิ่งขึ้น เรื่องนี้เรามองว่าสัมพันธ์กับเทรนด์ก่อนหน้าด้านบน เพราะมันไม่ใช่แค่การเข้าถึงร้านได้ และจ่ายไวเท่านั้นที่ลูกค้าต้องการ แต่การจัดส่งสินค้าเองก็ต้องไวตามด้วย

Credit photo: Trend Watching

KEY TO SUCCESS: คิดการให้ใหญ่ขึ้นและทำการบ้านเรื่องนี้ไว้ บางทีการเพิ่มอำนาจการขายก็เป็นเรื่องของการชิงพื้นที่การขายเช่นกัน หลายบริษัทในแดนมังกรที่ทำ E-commerce เองมีการวางแผนการเปิดร้านย่อยเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น JD.COM , KIOSON หรือ WALLMART ในประเทศอินเดีย จำไว้ว่ากำลังซื้อมหาศาลไม่ได้มาจากเมืองอย่างกรุงเทพฯ แห่งเดียว ถ้าเจาะตลาดพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ก็ยังมีให้เห็นอีกถึง 76 จังหวัดเลย

4. PLAYTAIL


“การเล่นเกม” เป็นแทคติกใหม่เรื่องการแข่งขันเรียกความสนใจจากนักช้อป

Credit photo: Trend Watching

นักขายที่ดีต้องหูตาไว อย่าประมาทเรื่องพื้นที่ขายเป็นอันขาด และกระแสเทรนด์การขายในปีหน้าคือเรื่องของการบุกเข้าตลาดเกม เพราะมันเป็นหนึ่งช่องทางที่เราจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเราได้แบบเนียน ๆ สร้างภาพจำให้แบรนด์ได้ดีด้วย ที่สำคัญมันยังไม่มีขอบเขตเรื่องเพศ วัย หรือฐานะ รวยจนข้นแค้นแค่ไหนคนเราก็ยังรักการเล่นเกม จริงไหม! ซึ่งกระแสการ Retail ใน พ.ศ. แบบนี้ เขาตั้งชื่อเรียกมันว่า “PLAYTAIL”

นอกจากนี้สถิติจำนวนคนเล่นเกมในเอเชียยังเทียบได้เป็นสัดส่วนจำนวนสูงถึงครึ่งหนึ่งของตลาดเกมทั่วโลก เฉพาะในประเทศอินโดนีเซียมีจำนวนสูงถึง 43.7 ล้านคน ขณะที่ตลาดเกมของอินเดียก็มีการพยากรณ์ว่าจะโตขึ้นอีกถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 อีกด้วย ตัวเลขการเติบโตพวกนี้แหละที่ Retail guys อย่างเราไม่ควรมองข้าม

ลองมาดูการลงทุน จับมือระหว่างแบรนด์ดังในตลาดกับการลงทุนในตลาดเกมกับเขาดูบ้าง ทั้งรูปลักษณ์ด้านนอกไปจนถึงดีเทลแบรนด์สินค้าที่ไปโผล่ในเกมเลย

KEY TO SUCCESS: อย่ามองว่าเกมเป็นเรื่องของแอปฯ หรือเล่นออนไลน์ได้เท่านั้น เพราะงาน on-ground ที่น่าสนใจก็เป็นการขยายช้อปให้สนุกขึ้นและเป็นที่จดจำของลูกค้าได้แบบเดียวกับที่แบรนด์ Channel ไปโผล่เชื่อมกับเกม arcade แต่ก็อย่าลืมขยายไปสู่โซเชียลเพื่อโปรโมตด้วย ที่สำคัญการสลายกรอบไปแอบดีลกับบริษัทเกมที่มีคนเล่นเยอะ ๆ ดอดไปสร้าง Visual ในนั้นก็จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าได้ไม่น้อย ดีไม่ดีได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มอีกเยอะ

ที่สำคัญกระแส E-sport ที่กำลังมาในเอเชียน่าจะเพิ่มช่องทางให้ Retail ทั้งหลายหาที่ลงทุนจ่ายเม็ดเงินลงไปถมแบบได้ผลลัพธ์กลับมาเป็นกอบเป็นกำแทนการละลายเงินในช่องทางอื่นด้วย

5. OMNICHANNEL WELLNESS 

เหล่า Retailer จงหาวิธีบูสต์การรักสุขภาพ

Credit photo: Trend Watching

ทุกวันนี้คนเอเชียอย่างเราใส่ใจเรื่องสุขภาพ โภชนาการ และการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังมีผลวิจัยพูดถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายและโทษของการไม่ออกกำลังกายกันโครม ๆ ด้วย ประกอบกับอัตราการเติบโตที่สูงถึง 10.4% ของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพประเทศจีนระหว่างปี 2013 – 2018 ยังแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าคุณจะเป็น retail ขายอะไรจงอย่าลืมหาทางไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพเป็นอันขาด

Credit photo: Trend Watching

KEY TO SUCCESS: เช็กของให้ดีว่าของที่เราขายมันคืออะไร จะเชื่อมโยงกับการสร้างสุขภาพที่ดีได้บ้างไหม และสวมวิญญาณฮีโร่ที่พร้อมมอบสุขภาพที่ดีให้กับลูกค้าอย่างเหมาะสม เช่น บางสายการบินเสนอให้ทำสมาธิระหว่างบิน รถไฟฟ้าใต้ดินของ Tokyo Metro เปิดเพลงคลาสสิกในขบวนผ่อนคลายผู้คน เป็นต้น

การจับกลิ่นทิศทางความรวยทั้ง 5 เทรนด์ธุรกิจ Retail ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ แม้ว่าเป็นการสรุปภาพกว้างในส่วนของเอเชียแต่ก็เห็นได้ชัดว่าบางอย่างเริ่มทยอยเกิดขึ้นแล้วในบ้านเรา ที่สำคัญสถิติข้อมูลทางการตลาดที่เกิดขึ้นกับตลาดใหญ่อย่างแดนมังกรก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น หนุ่มคนไหนที่อยากขายของก็ฟังหูไว้หูกับการทักเรื่องเทรนด์นี้ไว้สักหน่อย แต่อย่าลืมล่ะว่านอกจากการประสบความสำเร็จที่ไม่ได้มาจากความบังเอิญแล้ว เรื่องสินค้าขายดีก็ไม่ใช่ปรากฏการณ์ และกระแสไม่ได้มาด้วยความบังเอิญด้วย

SOURCE