ปี 2022 คนรักษ์โลกมีโอกาสรวย เพราะ Environment, Social and Governance หรือ ‘ESG’ กลายเป็นเทรนด์ระดับโลกที่ทุกธุรกิจต้องจับตามอง เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นสร้างกระแสความกดดันให้คนทั่วโลกต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต และผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบต่อสังคมและสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ESG ย่อมาจาก Environment, Social and Governance หรือ แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนใช้พิจารณาประกอบการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยปัจจุบันแต่ละองค์กรอาจใช้รูปแบบการวัดผลแตกต่างกัน แต่ทุกเกณฑ์ควรครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือเป็นเกณฑ์ที่วัดว่า โลกต้องอยู่ดี คนในองค์กรกับสังคมต้องอยู่ดี และบริษัทต้องอยู่ดี จึงจะเกิดความเข้มแข็งตามหลัก ESG โลกอยู่ดี – วัดการดูแลโลกผ่านการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทว่าลดการปล่อยคาร์บอนฯ หรือไม่ สร้างมลภาวะกับโลกหรือเปล่า ใช้ทรัพยากรคุ้มค่าไหมทั้งการใช้น้ำ ไฟ หรือบางบริษัทอาจนับถึงปริมาณกระดาษที่ใช้ในองค์กร สังคมอยู่ดี – วัดจากมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงาน พนักงาน ความเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดระบบนิเวศทางธุรกิจและส่งเสริมให้พนักงานเข้าใจผลกระทบที่ของ ESG ที่ส่งผลต่อธุรกิจ
เก่าไปใหม่มายังคงใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นกระแส ของที่เคยใหม่ในวันนั้นอาจจะกลายเป็นของสุดเชยในวันนี้ เราเลยจำเป็นต้องอัปเดต Trends ใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับปีนี้เทรนด์ดีไซน์ ต้องยกให้กับ Gradient ที่แทรกซึมเข้าไปในหลายแบรนด์ใหญ่ แล้วของปีหน้าจะเป็นอะไรบ้าง ไม่ต้องคอยเดาให้ปวดหัว เรารวบรวมมาให้แล้ว สำหรับเทรนด์ไหนที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรงในปีหน้า ให้หนุ่มสายดีไซน์ได้เตรียมตัวกันตั้งแต่ปลายปีนี้ Asymmetry Design by Vasjen Katro การจัดวางคอมโพสจะมาในรูปแบบที่ไร้ขอบเขต ไม่มีกรอบ ไม่ต้องสมมาตร ง่าย ๆ คือ Open compositions นั่นเอง การจัดวางแบบนี้ ฟังดูอาจรู้สึกว่ามันง่าย แต่จริง ๆ มันยากกว่าการมีกรอบมากำหนดไว้เสียอีก เพราะการจัดวางแบบไร้ขอบเขต ก็ต้องคำนึงถึงน้ำหนักของแต่ละฝั่ง ของแต่ละ Elements เพราะมันจะวางตรงไหนก็ได้ แต่ใช่ว่ามันจะสวยทั้งหมด ถือว่าเป็นเทรนด์ที่ท้าทายความสร้างสรรค์และความชาญฉลาดในการออกแบบของหนุ่มนักออกแบบอยู่ไม่น้อย Floating Elements Project by Nahel Moussi, Louis Ansa, Romain Avalle ต่อยอดจากข้อที่แล้ว นอกจากการวางแบบไร้ขอบเขตแล้ว วัตถุที่ดูเหมือนลอยเคว้งคว้างอยู่ก็มาแรงไม่แพ้กัน ทั้งสองแบบดูจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก แต่ความแตกต่างคือ Floating
ทำมาค้าขึ้นคงเป็นสิ่งที่บุรุษนักธุรกิจอย่างเราไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น หรือมือฉมังต้องการ แต่เราเรียนรู้ว่าโลกของตลาดมันขึ้น-ลง อยู่เสมอ ถ้าปรับไม่ทัน สต๊อกของเยอะ หรือดันเจอกระแสลบของสินค้าที่นำมาขายก็มีโอกาสจะจมทุนกันเห็น ๆ เพื่อไม่ให้เรื่องการค้ากำไร กลายเป็นการค้าขาดทุน เราได้ติดตามข้อมูลเทรนด์การค้าปลีกในเอเชียที่จะรุ่งในปีหมูที่กำลังจะมาถึงทั้ง 5 เทรนด์จาก Trend Watching มาฝากกัน เผื่อใครเห็นช่วงนี้ยอดตกจะได้เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร และปรับตัวได้ทันก่อนกระแสมันจะโหมใส่ในปีหน้าจาก 5 เรื่องนี้ 1. ZERO-WASTE SHOPPING เรื่อง Zero-waste หรือแนวคิด “ขยะเหลือศูนย์” ตอนนี้มันมาถึงเรื่องการค้าขายแล้ว และกำลังเบียดตัวเข้ามาเป็นกระแสหลักของการชอปปิ้งที่หนุ่มนักขายอย่างเราไม่ควรเพิกเฉย ทำไมต้อง Zero Wasting Shopping: ปัญหาขยะเป็นปัญหาระดับโลก หนุ่มเมืองอย่างเราคงเข้าใจปัญหาเรื่องนี้ดี ส่วนเหตุผลที่จะทำให้เรื่องนี้ฮิตในกลุ่มทวีปเอเชียเพราะหลายคนเริ่มตระหนักเรื่องนี้แล้ว เพราะกลุ่มประเทศในเอเชียไมว่าจะเป็น จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม รวมทั้งประเทศเราเอง เป็นต้นเหตุของกองขยะในมหาสมุทรจำนวนกว่า 80% ในโลก ที่สำคัญหลายประเทศใหญ่ ๆ อย่างจีนเองก็เริ่มขยับตัวแล้วไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดการนำเข้าพลาสติกเข้าประเทศและรีไซเคิลพลาสติกจริงจังตั้งแต่ต้นปี 2018 หรือในไต้หวันที่ออกมาแบนการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียวทั้งประเทศ KEY TO SUCCESS: ใครที่มองภาพไม่ออกว่ามันมีเรื่องแบบนี้ในบ้านเราด้วยเหรอ ในสายของ retail
ถ้าพูดถึงการฉี่ ไม่ว่ายังไงผู้ชายอย่างเราก็จินตนาการออกได้อย่างเดียวว่าต้องเป็นการ “ยืนฉี่” เท่านั้น จะให้นั่งฉี่เหมือนสาว ๆ ให้ตายยังไงเราก็นึกภาพไม่ออก แถมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกูต้องนั่งฉี่ด้วยล่ะวะ? พ่อแม่ก็สอนให้ยืนฉี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ วันนี้ UNLOCKMEN อยากมาเล่าให้ฟังว่า เฮ้ย ผู้ชายก็นั่งฉี่ได้ว่ะเพื่อน แถมมันเป็นเทรนด์ที่กำลังมาในหลาย ๆ ประเทศมาก ๆ (What The F***!) แม้ในไทยจะยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กันมากนัก แถมใครที่เข้าห้องน้ำชายแล้วต้องเดินเข้าห้องส้วมเพื่อไปฉี่แทนที่จะยืนก็มักจะถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ หรือถูกยัดเยียด ตีตราให้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่แมนหรือเปล่า? การนั่งฉี่สำหรับผู้ชายไทยจึงเป็นอะไรที่โคตรใหม่และแทบจะไม่มีใครพูดถึง แต่ถ้าบินลัดฟ้าไปไกลถึงเยอรมนี (และประเทศอื่น ๆ ) ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาวัฒนธรรมการนั่งฉี่เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2004 ที่บริษัทในเยอรมันหลายแห่งได้ทำคลิปวีดีโอสั้น ๆ รณรงค์ให้ผู้ชายหันมานั่งฉี่กันมากขึ้นด้วยเหตุผลด้านความสะอาด (และอีกหลาย ๆ เหตุผล) ถัดมาในปี 2006 โรงเรียนประถมในประเทศนอร์เวย์ก็เริ่มบอกให้พ่อแม่เด็ก ๆ ฝึกลูกของตัวเองให้นั่งฉี่อย่างมีอารยธรรม จากนั้นวัฒนธรรมการนั่งฉี่ก็แพร่หลายไปอีกทั่วประเทศแถบ ๆ นอร์เวย์ แถมยังมีการเคลื่อนไหวให้นั่งฉี่ในแบบคล้าย ๆ กันที่ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ด้วย โดยรายงานพบว่าปรากฏการณ์การนั่งฉี่เริ่มปรากฏชัดเจนที่สุดในช่วงปี 2012 เมื่อพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในสวีเดนพยายามกำหนดให้สมาชิกสภาเมืองเพศชายนั่งฉี่แทนที่จะยืน
“There are no boundaries or borders in the digital age” คำพูดของ Karim Rashid ที่เราคิดว่าใคร ๆ ก็คิดเหมือนกัน ในยุคที่ดิจิตอลเข้ามีบทบาทในชีวิตของเราแบบปฏิเสธไม่ได้ จากการที่เราได้เข้าร่วม “Creativities Unfold Bangkok 2016 : Exit สู่ความจริงรูปแบบใหม่” งานชุมนุมความคิดนานาชาติ จัดโดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ที่มีการบรรยายของเหล่านักวิจัย นักออกแบบ และนักลงทุนระดับโลกที่มีชื่อเสียง ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้สรุป 6 Digital Trends ที่มีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันมาแชร์กัน TREND 1 : ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ เอไอ (AI) เวลานี้ทั่วโลกกำลังจับตามองการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเอไอ ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมอีกต่อไป แต่เข้าใกล้ชีวิตพวกเราเข้ามาเรื่อยๆ Dr. Stefan Wess นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้โชว์ภาพวาดที่วาดโดยเอไอ อย่าง