ช่วงนี้ขายของไม่ดี ตอนนี้ทุกแบรนด์เลยงัดทุกกลยุทธ์ที่มีมาใช้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่อ่อนไหวแบบนี้ ใช่ว่าการตลาดที่คิดไว้จะได้ผลและที่สำคัญถ้าหวังจะโหนกระแสแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แคมเปญหรือสิ่งที่คิดที่เผยแพร่ช่วงนี้อาจจะพาแบรนด์ร่วงได้ไม่รู้ตัว ทุกวงการต้องมีกฎ ทุกสถานการณ์ก็มีเส้นของมันที่ห้ามข้าม และนี่คือ 6 เทคนิคต้องรู้ก่อนวางกลยุทธ์ธุรกิจช่วงนี้ หลักการหลายข้อในนี้แม้สิ้นสุดสถานการณ์นี้ไปยังไงก็ยังเก็บมาใช้ได้ ถามตัวเองว่าทำไมคนจะต้องซื้อของ ๆ เรา สถานการณ์วิกฤตที่จิตใจคนกำลังอ่อนไหว จำไว้เสมอทุกแบรนด์กำลังทำสงครามความเชื่อมั่นอยู่ ของที่คุณขายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จะต้องเน้นคุณภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต และชักจูงอารมณ์ให้คนรู้สึกว่า “ควรซื้อ” สินค้า ลองพิจารณาสินค้าที่มีในมือ หาเอกลักษณ์ที่สามารถตอบโจทย์อินไซต์คนตอนนี้ ต่อให้ไม่สามารถช่วยเรื่องการป้องกันโรคโดยตรง แต่มันอาจจะมีข้อดีอื่น ๆ ที่สร้างความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ หรือไวรัลกับฝูงชนที่เบื่อ ๆ อยู่บ้านได้ อย่าห้าวหิวเงิน เป็นฝ่ายให้และแบ่งปันก่อนเพื่อจดจำ ถึงจะต้องคิดถึงปากท้อง ต้องกินต้องใช้ แต่นาทีวิกฤตคนโลภจะอยู่ไม่ยืดอย่างที่คิด ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เราขายจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ การตลาดที่ดียังคงเป็นการจัดแคมเปญ CSR หรือสร้างคอนเทนต์ให้คุณค่ากับสังคม จำไว้ว่าเมื่อไรที่คนเครียด คนเศร้า ถ้าเราป้อนความบันเทิงหรือสิ่งอื่นที่เขาจะได้ประโยชน์จากมัน ความรู้สึกบวกกับแบรนด์และการจัดอันดับในใจอาจนำเขากลับมาสนับสนุนเราได้ ตัวอย่างของสิ่งที่ควรทำ กรองคำ ระวังการใช้ภาษาเกินจริง อย่าโม้เก่ง ยกข้อดีเกินงาม เพราะหลายคนไม่มีงานทำในสถานการณ์นี้ ดังนั้น ควรแสดงความเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจกันและกัน
ต้องยอมรับว่าวันนี้หลายคนหวั่นใจกับการไปอยู่ร่วมกับคนอื่นทั้งคนแปลกหน้าและคนใกล้ชิด เพราะยอดการติดชื้อที่เพิ่มขึ้นโดยจับมือใครดมไม่ได้ ค่าตรวจเชื้อก็โหดเอาเรื่อง แพงกว่าค่าซื้อประกันไปอีก ดังนั้น ทุกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจึงต้องออกระบบการจัดการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา UNLOCKMEN รวบรวมไอเดียจาก 5 ธุรกิจเสี่ยงที่ไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นมาปรับตัว เปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์นี้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง ใครที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมเดียวกัน เคยสับสนว่าจะทำอย่างไรนอกจากรอมาตรการเยียวยา เราว่านี่คือโอกาสดีที่ทุกคนจะลุกขึ้นมาเริ่มต้นปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อหาทางออกก่อน ใครอยากลอกวิชาการตลาดเดียวกันนี้ไว้ก็ไม่ว่ากัน นาทีนี้คงไม่มีใครจะมานั่งคิดค่าลิขสิทธิ์ “เพราะสุดท้าย เราหวังเสมอว่า พวกเราจะไม่อดตาย ก่อนที่ไวรัสจะเข้ามาฆ่าเรา” โรงภาพยนตร์เว้นระยะห่างให้นั่งสบายเป็นส่วนตัว เริ่มต้นด้วยธุรกิจที่กระทบทั้งขึ้นทั้งล่องเป็นแห่งแรกคือ “โรงภาพยนตร์” เพราะเดิมก็มีปัญหาเรื่องต้องชนกับบริษัทสตรีมมิงทุกเจ้าทั้ง Netflix, Apple TV, Disney+ และ Youtube จนรายได้หดแล้ว วันนี้พอมรสุม Covid-19 เข้ายิ่งทำให้การตีตั๋วน้อยเข้าไปใหญ่ จากเหตุผล 2 ข้อหลัก คือ โรงภาพยนตร์เป็นสถานที่ปิดที่ต้องอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้า ตำแหน่งการใช้บริการที่คนซื้อตั๋วมาต้องนั่งติดกัน การแก้เกมเบื้องต้นเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของโรงภาพยนตร์จากเครือเมเจอร์ซินิเพล็กซ์จึงเป็นการประกาศเว้นระยะห่างในโรงภาพยนตร์ แบบแถวเว้นแถว และเว้นห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่งเพื่อเป็นมาตรการป้องกัน COVID-19 ล่าสุดโรงภาพยนตร์ทั้งเครือเมเจอร์และ SF ได้ขยายมาตรการเพิ่มระดับความปลอดภัยด้วยการประกาศปิดโรงภาพยนตร์ตามมติ ครม. ชัตดาวน์สถานบันเทิง-ร้านนวดใน กทม.-ปริมณฑล 14 วัน
ต้องยอมรับว่าสื่อทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเรื่องโควิด – 19 (Coronavirus 2019) กันจริงจัง หลายประเทศเปิดมาตรการป้องกัน ตรวจสอบ และกักกันคนที่มีอาจเกี่ยวข้องกับเชื้อนี้ แต่เจ้าที่เราเห็นชัดว่าตอนนี้กลายเป็นที่จับตาไปทั่วโลกอีกประเทศคือ “ญี่ปุ่น” หลังพบการระบาดจากเรือสำราญที่เข้าเทียบ จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลุกลามทำให้หลายประเทศเริ่มแจ้งระวังการเดินทางไปญี่ปุ่น และพิจารณานักเดินทางที่ต้องการเข้าประเทศหากเดินทางมาจากญี่ปุ่น ซึ่งจะเรียกว่าเป็นโชคร้ายหรือคราวซวยก็ว่าได้ เพราะระยะเวลาการระบาดดันไปประจวบเหมาะกับช่วงจัด Tokyo Olympic 2020 ปีนี้พอดิบพอดี กลายเป็นจุดตั้งสังเกตว่า สรุปแล้วงานครั้งนี้จะล่มหรือรอด ระหว่างที่ยังไม่ถึงเดือน 7 ตามกำหนดการจัดการของโตเกียว จู่ ๆ Shaun Bailey ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของลอนดอน (ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเลือก) ก็ดันจับเรื่องนี้ไปเป็นหนึ่งในนโยบายการหาเสียงของตัวเองในทวิตเตอร์ส่วนตัวโดยกล่าวว่า ใจความง่าย ๆ ก็คือสามารถรับเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปีน้ีแทนได้ เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาแล้ว และถ้าผมได้เป็นนายกเทศมนตรีแล้วล่ะก็ ผมจะทำให้มั่นใจเลยว่าลอนดอนรับเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง (หลังเคยเป็นมาแล้วในปี 2012) ได้อย่างแน่นอน แถมยังบอกว่าอยากให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) พิจารณาเรื่องนี้ด้วย ฝั่งผู้ว่าการกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ ก็ตอกกลับเบา ๆ ว่า “ไม่เป็นไร” แต่ให้เหตุผลเจ็บหนักที่ฟังแล้วไม่รู้ว่าทางลอนดอนจะเจื่อนแค่ไหนว่า “เหตุผลที่ทำให้ปัญหานี้กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกก็เพราะเรือสำราญลำนั้น แต่นั่นเป็นเรือสัญชาติสหราชอาณาจักร ฉันเข้าใจได้ดี
ช่วงก่อนปีใหม่ เราแวะไป Tesco Lotus สาขาประจำแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงว่า พื้นที่ที่เคยไปซื้อของตอนนี้เหลือแค่ 1 ใน 3 ของพื้นที่เดิม เพราะแบ่งเช่าให้กับ Decathlon, ร้าน Mr. D.I.Y และร้านค้าอื่น ๆ จนไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่า ตอนนี้พื้นที่เช่าเริ่มจะมากกว่าพื้นที่ขายของของ Tesco Lotus เสียอีก หลายคนคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ? เพราะเท่าที่จำได้ Hypermarket แห่งนี้ขายดีรายได้ติดอันดับ Top 5 ค้าปลีกไทยมาตลอดแท้ ๆ ยิ่งตอนได้ยินข่าวว่ากำลังเปิดดีลจะขายกิจการมูลค่าแสนล้านอีก คนก็เริ่มมาจับตามองมันมากขึ้น เราเลยคิดว่าตอนนี้ถึงเวลามาเจาะดู Corporate และสรุปข้อมูลมาแบ่งปันให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า อะไรกันแน่คือเหตุผลที่ทำให้ Tesco Lotus อาจจะยอมเทหมดตัก และมีแนวโน้มขายกิจการ HYPERMARKET คืออะไร ? เริ่มจากประเภทของธุรกิจประเภทนี้ก่อนแล้วกัน ใครที่อ่านแล้วเพิ่งเจอคำว่า Hypermarket อาจจะสงสัยว่ารูปแบบธุรกิจมันต่างจากพวก
ช่วงเวลาส่งท้ายปี 2019 กำลังจะผ่านพ้นไปและ UNLOCKMEN ก็พร้อมสำหรับการเริ่มต้นปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นธรรมเนียมส่งท้ายปีที่เราจะเลือกบุคคลที่เป็นที่สุดแห่งปี จากผู้คนจำนวนมากที่เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักและพูดคุย คราวนี้ถึงคิวของ “COOL BUSINESS OF THE YEAR” ปี 2019 ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกับเจ้าของธุรกิจหลากหลายรูปแบบที่เปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองหลงใหลให้กลายเป็นธุรกิจ เราได้รับฟังมุมมองของคนที่รักการพัฒนาผลงานและคิดค้นสิ่งใหม่ รวมไปถึงได้รับรู้อุปสรรคต่าง ๆ ที่แต่ละคนพบเจอมา และนี่คือ 5 เจ้าของธุรกิจสุดคูลที่มอบแรงบันดาลใจให้เรามากที่สุดประจำปีนี้ VOLK STORY BKK ผู้คนมากมายต่างหลงใหลรถยนต์คลาสสิกของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) แต่จะมีสักกี่คนที่นำความหลงใหลมาต่อยอดสู่ธุรกิจ ขายอะไหล่และคืนชีพโฟล์คสวาเกนคลาสสิกเหมือนกับ จุ-จุรีพร กมลธรรมกุล เจ-ธเนส กมลธรรมกุล และรัตน์-จุรีรัตน์ กมลธรรมกุล 3 พี่น้องที่หลงใหลในเรื่องราวของ VW การที่เราหาอะไหล่ดี ๆ ให้กับลูกค้าได้แล้วเขามีความสุข ตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย VOLK STORY BKK คือสถานที่ที่เกิดจากความรักในรถยนต์คลาสสิกของโฟล์คสวาเกน ที่ไม่เพียงให้บริการด้านอะไหล่ ซ่อมบำรุงและคืนชีพ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทั้ง 3 คนได้ทำคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราวของรถยนต์ที่พวกเขาหลงใหล รวมถึงเรื่องราวของรถยนต์และเจ้าของที่มาใช้บริการ
ขาย “ขยะ” ซื้อ “ขยะ” ใช้ของในมือไม่ให้เกิด “ขยะ” คุณเชื่อไหม? ทุกวันนี้โลกทั้งใบกำลังหมุนด้วยเรื่อง “ขยะ” โดยสมบูรณ์ อ่ะ ถ้ายังไม่เชื่อว่าวันนี้ผู้คนเริ่ม crazy เรื่องขยะมากน้อยแค่ไหน ลองดูว่าธุรกิจในอุตสาหกรรมไหนบ้างที่ไม่เอาเรื่องขยะเข้าไปบรรจุในกลยุทธ์นั้น? แคมเปญที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศมีหลายระดับตั้งแต่ระดับอสังหาฯ จนมาถึงบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารในมือ “พี่ ๆ มาซื้ออันนี้หน่อยดิ มันรีไซเคิลจากขยะนะ รักษ์โลก” ถ้าใครพูดประโยคนี้เมื่อหลายปีที่แล้วก่อนกระแสรักษ์โลกจะมาถึง เราจะแค่ฟังมัน แต่ไม่อยากจะควักเงินในกระเป๋าให้เท่าไหร่ เราอาจจะถามราคามัน แต่พอรู้ว่า process อื่นของมันที่ทำให้มันแพง เราจะบอกว่า “งั้นซื้อของใหม่ดีกว่า” ส่ายหน้าแล้วก็ซื้อของใหม่เพิ่มขยะกันไป ส่วนของมือสองนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะมักจะมีคนพูดว่า “เอามาจากศพไหนก็ไม่รู้” หรือไม่ก็เรื่อง “ระวังเชื้อโรค” ค่านิยมเรื่องการรักษ์โลกก็เลยมีแต่จิตสำนึก แต่จิตอยากจะซื้อไม่ค่อยเกิดเท่าไหร่ แยกขยะไม่ใช่หน้าที่เรา โลกร้อนก็ไม่น่าจะเกิดทันเราตาย ก่อนหน้านี้คนในประเทศเราไม่มีความคิดเรื่องระบบการแยกขยะ เราคิดว่าถ้าแยกจากต้นทาง พอรถเขียว กทม. เก็บไปก็เอาไปรวมกัน ไม่เชื่อประโยชน์ที่มหาศาลที่กลับมาจากขยะ และไม่เชื่อเท่าไหร่ว่าขยะจะนำกลับมาสร้างคุณค่าได้ วันนี้พอธารน้ำแข็งละลาย อุณหภูมิสูงขึ้น ทั่วโลกตื่นตัว มาเรียม พะยูนที่คนไทยรักต้องสังเวยชีวิตไป จนถึงสารพิษจากไมโครพลาสติกที่เรากำลังจะได้กินมันผ่านเนื้อสัตว์ในแหล่งน้ำปนเปื้อน ทำให้เรารู้สึกว่ามันใกล้ตัวกว่าที่คิด
ย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คณะดนตรี Guns N ‘Roses วงร็อกระดับตำนานแห่งยุค 80 ได้ยื่นฟ้องร้องบริษัท ‘Oskar Blues Brewery’ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์แห่งหนึ่งในรัฐ Colorado โทษฐานนำชื่อวง Guns N ‘Roses ไปตั้งเป็นชื่อแบรนด์เบียร์ตัวเองหน้าตาเฉย! งานนี้เล่นเอาเสด็จพ่อทั้งหลายถึงกับฉุนจัด เพราะสมาชิกดั้งเดิมอย่าง Axl Rose, Slash และ Duff McKagan ถึงกับรวมตัวกันเพื่อทุบ เอ๊ย! ฟ้องร้องบริษัทเบียร์นี้โดยพร้อมเพรียงกัน เอาให้รู้ไปเลยว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ โดยได้ตั้งข้อพิพาทจำเลยว่า “ล่วงละเมิดนำชื่อวงไปใช้ขายสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และจงใจทำให้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของวงเสื่อมเสีย” นอกจากนั้นวงยังแจ้งอีกข้อกล่าวหาว่า Oskar Blues Brewery ได้นำชื่อวงไปใส่ในสินค้าประเภทอื่นอย่าง เสื้อยืด ผ้าโพกผม และสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย โดยทาง Oskar Blues Brewery เผยว่าเคยยื่นเรื่องขออนุญาตใช้โลโก้ที่มีชื่อ Guns N ‘Roses ไปแล้วแต่ไม่ผ่าน (เขาไม่ให้แล้วยังใช้ต่อ ช่างกล้า!) แต่หลังจากถูกยื่นฟ้อง ทางบริษัทก็ลบภาพสินค้าทั้งหมดออกจากเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บทสรุป: ล่าสุดทางสำนักข่าว Reuters
ในยุคที่ผู้ชายเราไม่ได้มีหน้าที่แค่ล่าสัตว์เหมือนยุคหิน แต่ต้องทำ Multi-Tasking หลายอย่างพร้อม ๆ กัน เปลี่ยนจากการใช้แค่แรงกายไปให้น้ำหนักกับแรงสมองมากกว่า ภาวะความกดดัน การตัดสินใจมากมายที่รออยู่ รวมทั้งการลงมือสะสางทุกอย่างให้จบลงในแต่ละวันมักทำให้พวกเราหมดไฟไปดื้อ ๆ เหมือนกัน “อยากมีเวลาคิดให้มากกว่านี้” ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณได้แต่คิดกับตัวเองมาหลายหนแต่ไม่มีโอกาสทำกับเขาสักที ลองหาวันตัดขาด วางมือจากทุกอย่าง จัดเวลาเพื่อ “คิด” เพียงอย่างเดียวสักครั้งดู เพราะนี่เป็นเทคนิคที่เจ้าพ่อ Microsoft อย่าง Bill Gates ใช้อยู่สม่ำเสมอช่วงที่เขาทำงานเป็น CEO ของ Microsoft และเรียกวิธีการนี้ว่า “Think Week” Think Weeks คือเทคนิคที่ Gates คิดค้นและลงมือทำในปี 1980 เพื่อสร้างประสิทธิภาพด้านการตัดสินใจ ต่อกรกับความกดดันที่พุ่งเข้าใส่แทบทุกวันจากความรู้สึกหมดพลัง หมดไฟ และหมดใจ ด้วยการลี้เข้าถ้ำไปอยู่ลำพัง 1 อาทิตย์ เดินทางไปยังกระท่อมลับส่วนตัวในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ หรือที่เรียกว่า Cascadia และลงมืออ่านเอกสารต่าง ๆ ที่ได้มาจากพนักงาน Microsoft ในภาวะที่ตัดขาดจากทุกคน เมื่อสิ้นสุดการปลีกวิเวกเข้าถ้ำไปใช้เวลากับการใช้ความคิดช่วง Think Weeks แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคือการเปิดตัวของ
โลกของธุรกิจมีมากกว่าตัวเงิน สำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องตัวเลขหรือต้นทุนเลยอาจจะมองว่าน่าปวดหัว แต่ความจริงมันยังมีหลายมิติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแง่ของการตลาดและการโฆษณา เพราะมันคือแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ล้วน ๆ ซึ่งถ้าเรารู้ทันและเข้าใจมัน เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อและนำความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดได้ ช่วงนี้ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็เริ่มบุกตลาด AI และ AR กันเป็นแถบ อย่างล่าสุดที่เราเพิ่งนำเสนอกันไปก็เป็น Application วัดขนาดเท้าของ Nike อย่าง “Nike Fit” เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการซื้อรองเท้าแต่ขนาดไม่ตรงกับความจริง แต่ล่าสุดเราเพิ่งไปพบรูปแบบการตลาดของ AI ที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่เขย่าวงการด้วยการใช้ AI กับ “สุนัข” เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างจริงจัง ร้านขายสัตว์เลี้ยงประเทศบราซิลในเครือ Petz แหวกแนวเปิดชอปปิงออนไลน์สำหรับสุนัขอย่างแท้จริง โดยเรียกมันว่า Pet-Commerce หรือการซื้อของออนไลน์ที่เลือกจากความต้องการของสัตว์เลี้ยงเอง โดยใช้ AI ดักจับความสนใจของสุนัขผ่านกล้องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ การเลือกซื้อของระหว่างสุนัขกับระบบ AI จะใช้วิธีการ access เข้าเว็บไซต์ก่อนโดยให้สุนัขนั่งอยู่ที่หน้าตักเราหรือจุดไหนก็ได้ที่มองเห็นกล้องหน้า จากนั้นให้เราเลือก Pet Commerce หน้าจอจะแสดงคลิปสินค้าแบบแรนดอม ไม่ว่าจะเป็นกระดูก บอลยาง ฯลฯ ขั้นตอนนี้เอง
“หากปราศจากความเชื่อใจ ความเป็นทีมก็ไร้ความหมาย” Paul Santagata ผู้เป็น Head of Industry แห่ง Google กล่าวไว้แบบนี้ และเราก็เห็นด้วยแบบปราศจากข้อกังขา คำพูดนี้ยังเชื่อมโยงกับทีมที่ทำงานมีประสิทธิภาพสูง ๆ ส่วนใหญ่มีสิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือ “ความรู้สึกมั่นคงทางใจ” ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า“ความมั่นคงทางใจ”เชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ การกล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าที่ทำงานที่เรามัวแต่กลัว กังวล ไม่มั่นใจว่าพูดอะไรก็ผิด พูดอะไรก็โดนต่อว่า โดนจ้องโจมตีตลอดเวลา จนเราไม่สามารถเชื่อใจหรือมั่นใจได้อีกต่อไป สมองเราจะค่อย ๆ หยุดกระบวนการคิดหรือสร้างสรรค์ไปแล้วเอาแต่คิดว่าทำยังไงถึงจะเอาชนะได้เท่านั้น ซึ่งถ้าทุกคนในทีมคิดแต่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ก็คงไม่ต้องพูดถึงคุณภาพงานอีกต่อไปว่ามันจะห่วยลงแค่ไหน “ตื่นไปทำงานหรือตื่นไปรบ?” ถามตัวเองก่อนจะสายเกินไป ในทางกลับกัน ถามตัวเองสิว่าวันนี้เราตื่นขึ้นมาไปทำงานด้วยความรู้สึกแบบไหน? ถ้ามีความสุขเต็มเปี่ยมอยากไปทำงานที่รักเต็มที่ดีใจด้วยที่คุณรู้สึกมั่นคงทางใจกับงานตรงหน้า แต่ถ้ากำลังรู้สึกว่าการทำงานไม่ต่างอะไรจากการเดินเข้าสนามรบหรือสังเวียนต่อสู้ ต้องไปฟาดฟันเอาชนะกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าอย่างหนักตลอดเวลา แถมเป็นการสู้ที่ไม่ได้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า แต่คล้ายว่าต้องสู้เพื่อหาว่าใครแพ้ใครชนะ ใครผิดใครถูกตลอดเวลา เสียใจด้วยคุณอาจกำลังอยู่ในทีมที่ไม่มีพื้นที่ปลอดภัยทางใจให้ และมันคือส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของคนทั้งทีมห่วยลง! แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ทุกปัญหามีทางออก ในเมื่อเรารู้แล้วว่า“ความรู้สึกมั่นคงทางใจ”เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ทีมทำงานได้มีประสิทธิภาพ เรายิ่งต้องสร้างพื้นที่และบรรยากาศการทำงานให้เป็นแบบนั้น เพราะไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหัวหน้างาน คนทำงาน หรือตำแหน่งไหน เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของทีมและองค์กรทั้งนั้น องค์กรควรจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้คนทำงานรู้สึกท้าทาย แต่ไม่ใช่รู้สึกไม่ปลอดภัย พร้อมปะทะและเอาอีกฝ่ายให้ถึงตายตลอดเวลา ถ้าอยากสร้างความมั่นคงทางใจไม่ใช่สนามรบ