‘THINK WEEK’ เทคนิคแบ่งเวลาหลบเข้าถ้ำปีละสองครั้ง จุดไฟการทำงานสไตล์ BILL GATES

ในยุคที่ผู้ชายเราไม่ได้มีหน้าที่แค่ล่าสัตว์เหมือนยุคหิน แต่ต้องทำ Multi-Tasking หลายอย่างพร้อม ๆ กัน เปลี่ยนจากการใช้แค่แรงกายไปให้น้ำหนักกับแรงสมองมากกว่า ภาวะความกดดัน การตัดสินใจมากมายที่รออยู่ รวมทั้งการลงมือสะสางทุกอย่างให้จบลงในแต่ละวันมักทำให้พวกเราหมดไฟไปดื้อ ๆ เหมือนกัน

“อยากมีเวลาคิดให้มากกว่านี้”

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณได้แต่คิดกับตัวเองมาหลายหนแต่ไม่มีโอกาสทำกับเขาสักที ลองหาวันตัดขาด วางมือจากทุกอย่าง จัดเวลาเพื่อ “คิด” เพียงอย่างเดียวสักครั้งดู เพราะนี่เป็นเทคนิคที่เจ้าพ่อ Microsoft อย่าง Bill Gates ใช้อยู่สม่ำเสมอช่วงที่เขาทำงานเป็น CEO ของ Microsoft และเรียกวิธีการนี้ว่า “Think Week”

Think Weeks คือเทคนิคที่ Gates คิดค้นและลงมือทำในปี 1980 เพื่อสร้างประสิทธิภาพด้านการตัดสินใจ ต่อกรกับความกดดันที่พุ่งเข้าใส่แทบทุกวันจากความรู้สึกหมดพลัง หมดไฟ และหมดใจ ด้วยการลี้เข้าถ้ำไปอยู่ลำพัง 1 อาทิตย์ เดินทางไปยังกระท่อมลับส่วนตัวในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ หรือที่เรียกว่า Cascadia และลงมืออ่านเอกสารต่าง ๆ ที่ได้มาจากพนักงาน Microsoft ในภาวะที่ตัดขาดจากทุกคน

เมื่อสิ้นสุดการปลีกวิเวกเข้าถ้ำไปใช้เวลากับการใช้ความคิดช่วง Think Weeks แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคือการเปิดตัวของ Browser ที่เก่าแก่ระดับตำนาน โลโก้ e สีฟ้าอย่าง Internet Explorer ปี 1995 เอาชนะ Browser คู่แข่งอย่าง Netscape ได้สำเร็จ

ถึงเรื่องของ Gates จะเริ่มจากการอ่านกองเอกสาร แต่ต่อให้คุณไม่มีเอกสารก็สามารถแบ่งเวลาไปใช้กับ Think Week ได้จากเหตุผลสำคัญ 2 เรื่องต่อไปนี้

จุดไฟจากความสันโดษ

การระดมสมอง ฟังเสียงคนอื่นอาจทำให้ได้ไอเดียใหม่ ๆ ก็จริง แต่บางครั้งการถอยออกมาจากความวุ่นวายเพื่อขบคิดเพียงลำพังก็เป็นขุมพลังความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ควรมองข้าม วิธีการนี้ไม่ใช่แค่คนดังอย่าง Gates เท่านั้นที่การันตี แต่กูรูการลงทุนอย่าง Warren Buffett ก็เคยกล่าวว่าเขาใช้เวลากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของตัวเองไปกับการอ่านและการคิด และการใช้เวลาลำพังไร้การรบกวนแบบนี้ ซึ่งช่วยทำให้เห็นภาพรวมได้ดีกว่าแถมยังได้ตระหนักเรื่องการใช้ชีวิตมากขึ้นอีกด้วย

การทำงานสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิต ถ้างานมันยุ่งเหยิงเสียจนเราไม่มีเวลากลับมามองตัวเอง บางครั้งแค่ตอเล็ก ๆ ซึ่งข้ามได้สบาย ๆ ก็อาจทำให้เราสะดุด สร้างแผลขนาดใหญ่ให้ได้เหมือนกัน ดังนั้น การเบรกชั่วขณะเพื่อถอยออกมาจากมุมที่ยืนอยู่อาจสร้างทางออกที่ดีกว่าให้ได้

Deload เพื่อสร้างความแกร่ง

ใครที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ น่าจะเคยได้ยินคำว่า Deload กันบ้าง คำนี้แปลว่า “พัก” เพื่อปรับสภาพร่างกาย คลายความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นก่อนจะเริ่มตารางการออกกำลังใหม่ แต่การพักแบบนี้ไม่ใช่พักนอนนิ่งตาย ไม่ไหวติงอย่างขี้เกียจเท่านั้น มันคือการบาลานซ์ ฟื้นฟูร่างกายและสลายความเครียดโดยผ่อนวิธีการจากการออกกำลังกายเดิมลง

เรื่องการทำงานหรือทำธุรกิจก็ไม่แตกต่างกัน การ Deload จึงเป็นการพักเพื่อคิด นอนหลับให้เพียงพอ กินข้าวให้ครบโภชนาการ ถึงเราจะไม่สามารถตัดใจลาขาดจากพฤติกรรมเดิมได้ 100% แต่แค่ห่างออกมาบางส่วนก็ช่วยได้แล้ว เดินหนีออกมาจากสภาพแวดล้อมเดิมไปทุ่มเวลาให้งานอดิเรกและมองภาพให้กว้าง พอชาร์จเรียบร้อย รวบรวมข้อมูลนั้นมาสร้างไอเดียใหม่ให้งานราบรื่นต่อได้สบาย ๆ

Think Week แบบคนเวลาน้อย

เรารู้ว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินทองจะไปดามใจ จุดไฟตัวเองด้วยการลามันทั้งอาทิตย์แบบบิลเกต เพราะวันลาเราไม่พอ ลาติดกันก็ไม่ได้ ขืนทำคงยุ่งเหยิง ดังนั้นลองปรับรูปแบบลงตาม 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ รับรองว่าใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน

1. กำหนดเวลาเป็นช่วงสั้น ๆ จาก Think Week เป็น Think Day หรือ Think Morning แทน

ถ้าคุณไม่ได้มีเวลาให้หยุดเหลือเฟือ ลองปรับเวลาการทำกิจวัตรเป็นช่วงสั้นให้เหลือในระดับวัน หรือแค่บางช่วงอย่างตอนเช้าเพื่อคิดทบทวน และเมื่อทำสำเร็จอาจจะปรับตารางเพิ่มเวลาได้ตามความเหมาะสม

2. ตัดตัวเองจากสิ่งรอบข้าง

หลังจากได้เวลาที่พอใจ ก็ถึงเวลาเลือกสถานที่และปรับพฤติกรรมเพื่อตัดความวุ่นวาย จำไว้ว่าตอนนี้เราต้องการฟังเสียงของตัวเองให้มาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องเริ่มทำก่อนคือการตัดอุปกรณ์สื่อสารและสิ่งเร้าทั้งหลายออกเพื่อป้องกันการเสียสมาธิ แต่ถ้าวางไกล ๆ แล้วจิตใจยังไปจดจ่อกับมัน แนะนำให้ปิดเครื่องไปเลย หรือถอนแอปพลิเคชันที่รบกวนเราออกชั่วคราว หมดช่วงเวลา Think เมื่อไหร่ค่อยกลับไปใช้ใหม่ อย่างไรก็ตามก่อนจะลงมืออย่าลืมบอกคนรอบข้างไว้ก่อนด้วย เพราะถ้าจู่ ๆ หายไปคนรอบข้างอาจจะเดือดร้อนใจได้

3. ตั้งหัวข้อการคิดเสมอ

หยุดไปคิดทบทวน คิดไตร่ตรอง ไม่ใช่การไตร่ตรองแบบสายลมแสงแดดแล้วไม่ได้อะไรกลับมา การสร้าง Think Week ที่ได้ผล ต้องตั้งเป้าหมายในการคิด เป้าหมายที่ดีต้องเป็นเป้าหมายที่คุณไม่ค่อยได้ใช้เวลากับมันในวันปกติเพื่อให้มองภาพรวมได้กว้างขึ้น เช่น การทำงานให้เร็วขึ้น การสร้างสรรค์งานดีขึ้น การต่อยอดไอเดียงาน ฯลฯ

ทุกวันนี้เราฟังเสียงคนอื่นมากกว่าเสียงของตัวเอง ทำตามคำแนะนำไปโดยไม่ทันไตร่ตรองว่าเหมาะสมกับตัวเองหรือเปล่าหรือมีผลกระทบอะไรบ้างด้วยความรีบเร่ง ปรับเวลาให้ช้าลง เริ่มด้วยการแบ่งช่วงวันหยุดยาวนี้ไปเริ่มทำ Think Week สักครั้ง ไอเดียใหม่ที่ซ่อนอยู่จะได้พุ่งกระฉูดพร้อมใช้วันทำงาน ไม่ต้องความคิดตันหรือหมดไฟอีกต่อไป

SOURCE: 1 / 2