Entertainment

สะกิดสาวดูหนัง ROMANTIC COMEDIES 5 เรื่องที่จะทำให้เธอยิ้มไปพร้อมกับคุณ

By: unlockmen June 14, 2018

เหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้ว หาเวลาว่างสักสองชั่วโมง สะกิดสาวชวนกันมาดูหนัง เติมความรู้สึกกุ๊กกิ๊กให้หัวใจกลับมาพองโตอีกครั้ง ถือว่าเป็นการเติมความหวานให้กันไปในตัวก็ยังได้ กับ 5 หนัง ROMANTIC COMEDIES ที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำให้หนุ่ม ๆ เก็บไว้เป็นไม้เด็ดเอาไว้ชวนสาวมานอนอิงแอบดูหนังกันในวันว่าง ๆ เพราะหนังแนวนี้ เป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่สาว ๆ หลงรักอยู่แล้ว เปิดหนังน่ารักให้เธอดูสักเรื่อง เผื่อเธอจะหันมาหลงรักหนุ่มที่เปิดหนังให้เธอกันบ้าง

Four Weddings and a Funeral (1994)

หนังแจ้งเกิดให้กับบทพระเอกรอมคอมของ Hugh Grant กับเรื่องนี้ เรื่องราวของ Charles หนุ่มที่มักจะได้รับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวอยู่เสมอ แต่ใช่ว่าเขาจะอยากเป็นเจ้าบ่าวซะเอง เขาไม่ได้อยากเป็นนักหรอก แม้เขาเองจะมีความพร้อมแล้วก็ตาม แต่ว่าเขาเองก็ยึกยักไปเรื่อยจนมาเจอกับ Carrie ที่จะมาเปลี่ยนความรู้สึกของเขาให้พร้อมที่จะเป็นเจ้าบ่าวเองเต็มตัวแทนหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวที่เขาเป็นมาตลอด จะมาเป็นเจ้าบ่าวของ Carrie นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาเองก็ไม่เคยยอมแพ้ มาดูกันว่าหนทางการจะได้เป็นเจ้าบ่าวของเขานั้น จะชวนให้ปวดหัวแค่ไหน

Notting Hill (1999)

หนังรักในตำนานที่ใคร ๆ หลายคนคงคุ้นหูกันดี แต่ใครยังที่ไม่เคยลอง รีบซะนะ เพราะไม่งั้นคุณจะพลาดความพองโตของหัวใจไปซะ  คู่รักคู่ไหนมาสายหวาน ชอบหนัง Feel Good รีบเปิดเรื่องนี้ให้ไว พร้อมกับโอบสาวไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆ ด้วย รับรองว่าต้องอินไปกันหนังจนไม่อยากจะข้ามแม้แต่ฉากเดียว 

เรื่องราวของ William หนุ่มเจ้าของร้านหนังสือ ที่จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ ดันมาปิ๊งรักกับ Anna Scott ดาราสาวเบอร์ใหญ่แบบงง ๆ เมื่อหนุ่มแปลกหน้าจากร้านหนังสือ ดันโผล่มาในชีวิตของเธอแบบไม่คาดคิด ความสัมพันธ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น กลายเป็นคนที่เธอสบายใจที่จะเดินข้าง ๆ กันในแบบธรรมดา ๆ ไม่ใช่ในฐานะดาราสาวแห่งฮอลลีวูด

ความสวยไร้ที่ติและบุคลิกเรียบหรูดูแพงของ Julia Roberts ทำให้เราเชื่อแบบสนิทใจเลยว่าเธอคือ Anna Scott จริง ๆ และความเป็นหนุ่มซื่อที่ออกไปทางซื่อบื้อของ Hugh Grant ส่งให้บท William เข้าถึงหนุ่มธรรมดา ๆ อย่างเราได้ดี

ฟังดูอาจจะรู้สึกน้ำเน่า แต่หนังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้น่ารักและไม่เลี่ยนขนาดนั้น เราจะได้เห็นความสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ให้เราเดินทางไปพร้อมตัวละคร จนเข้าใจถึงที่มาของความรู้สึกที่ทั้งสองถ่ายมีให้กัน ว่าสุดท้ายแล้ว เมื่อความรักมันเกิดขึ้น มันจะละลายกำแพงของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเชื้อชาติ ภาษา สถานะทางสังคม ที่ล้อมรอบตัวเราอยู่ให้หายไป อีกเหตุผลสำด้วยความที่ผู้ชายธรรมดา ๆ อย่างเราคงหวังลม ๆ แล้ง ๆ กันบ้างว่าจะได้ควงดาราสาวเป็นแฟนกับเขาบ้างสักวัน ทำให้หนังมันแตะความรู้สึกเราได้ง่ายเหลือเกิน 

Crazy, Stupid, Love (2011)

เรื่องนี้เป็นหนังที่ดูได้สบาย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ได้ข้อคิดอะไรกลับมามากเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องนี้จะมีตัวละคร 3 คู่ 3 วัย ที่มาพร้อมกับความรักสุดยุ่งเหยิงแบบที่เราจะขำก๊ากให้กับความวายป่วงของตัวละคร เริ่มกันที่คู่แรก Jacob และ Hannah ที่ได้นักแสดงคู่บุญอย่าง Ryan Gosling และ Emma Stone ที่เคมีเข้ากันแบบขั้นสุดมาเป็นคู่เอกในเรื่องนี้ 

Jacob หนุ่มที่หว่านเสน่ห์ไปทั่วพบว่าลึก ๆ แล้วในใจของเขาก็เหนื่อยไม่น้อยที่ต้องเปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้า แล้วสุดท้ายก็ไม่สามารถมีใครทำให้เขาอยากยืนเคียงข้างกันไปตลอดได้ เมื่อทุกอย่างได้มาง่ายมันจึงจางหายไปง่ายเช่นกัน จนกระทั่งเขามาเจอ Hannah สาวสุดห้าวที่ไม่ได้หลงคารมของเราเลยแม้แต่น้อย แต่จนแล้วจนรอดเมื่อทั้งคู่ได้วนกลับมาเจอกันอีกครั้ง (ด้วยการตื๊อของ Jacob) ทำให้ทั้งคู่ค้นพบว่าทฤษฎีความรักในใจของตัวเองมันไม่ถูกต้องเอาซะเลย

ส่วนอีกคู่เป็นเรื่องราวของ Cal หนุ่มวัยกลางคนที่มาเจอ Jacob ที่บาร์และกลายเป็นคู่หูกันไปแบบงง ๆ ต้องมาหย่ากับ Emily ภรรยาที่คบกันมานาน เพราะ Emily ดันไปจิ้มกับเพื่อนร่วมงาน Cal ที่เป็นพ่อบ้านใจกล้ามาตลอดเลยต้องกลายเป็นหนุ่มโสดไปแบบงง ๆ คู่นี้ถือว่าเป็นคู่ที่น่าสนใจที่สุด ทำให้เราเห็นว่าการใช้ชีวิตคู่มันไม่ใช่บทสรุปของความสัมพันธ์ แต่การประคับประคองความรักให้คงอยู่อย่างสม่ำเสมอต่างหาก ที่จะเป็นบทสรุปที่ดี คู่นี้จะทำให้เราหันมาทบทวนตัวเองว่าทำหน้าที่คนรักได้ดีหรือยัง

คู่สุดท้าย Robbie ลูกชายวัยกำลังโตของ Cal ที่หลงรักพี่เลี้ยงของตัวเองอย่างสาว Jessica ที่เป็นสาวรุ่นพี่อีกซะด้วย Robbie เองเชื่อว่าความรักของเขาจะเอาชนะใจเธอได้แน่ จึงพยายามทำทุกอย่างให้เธอมาสนใจเด็กผู้ชายอย่างเขา ซึ่งก็เป็นคู่รองที่ดูได้ขำ ๆ เพลิน ๆ ทำให้นึกย้อนไปตอนกำลังเป็นวัยรุ่นที่มักจะทำอะไรโง่ ๆ เพื่อความรัก

ทั้ง 3 คู่จะผูกความสัมพันธ์กันไว้แบบยุ่งเหยิงและมาเฉลยในตอนท้าย ไม่มีดราม่า ไม่มีความงง ไม่มีปริศนา มีแต่ความฮากับความ Feel Good ที่เราจะได้จากเรื่องนี้

Warm Bodies (2013)

มาเห็นหนุ่มหล่อ Nicholas Hoult ในบทซอมบี้ผิวซีดกันบ้าง กับ R ซอมบี้ที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ จนคิดว่าชาตินี้คงไม่เจอมนุษย์อีกแล้ว จนได้มาพบกับ Julie สาวน้อยที่ให้ความอบอุ่นกับเขา จนทำให้เขาอยากจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง สละผิวเย็นชืด กลับมามีเลือดสูบฉีด ไหลเวียน อยู่ใต้ผิวหนังอีกครั้ง

เราจะได้เห็นความน่ารักของซอมบี้ที่พยายามจะกลับมาเป็นคน กลับมามีชีวิตอีกครั้งเพื่อความรัก พลังของความรักนี่มันเหลือร้ายซะจริง ๆ เนื้อเรื่องมันดำเนินไปด้วยความโรแมนติกเป็นแรงผลักดันล้วน ๆ จริง ๆ เราเองไม่ต้องคิดอะไรมากเลย 

The One I Love (2014)

พล็อตเรื่องนี้ล้ำจนต้องเกาหัว แล้วอยากจะเปิดดูให้รู้ไปเลยว่าเรื่องนี้มันจะจบลงยังไง เรื่องราวของคู่รักที่ระหองระแหงกัน จนต้องเข้ารับการปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ จนได้คำแนะนำให้ลองไปพักผ่อน หลีกหนีจากเรื่องวุ่นวาย ใช้ชีวิตแบบสงบ ๆ ด้วยกันสักทริปนึง ทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจไปพักผ่อนกันที่บ้านพัก แต่ความวุ่นวายมันเกิดขึ้นตรงนี้ เมื่อทั้งคู่เจอคนรักของตัวเองอีกคนกำลังอยู่ในบ้าน อ่านกันอีกที คนรักของตัวเอง แต่เป็นอีกคนนึง ที่เหมือนกันเป๊ะทั้งหน้าตา บุคลิก และยังรู้เรื่องของเรา มีความรู้สึกให้เรา เหมือนเป็นคนรักของเราจริง ๆ อีกคนหนึ่งที่มากับเราอยู่นอกบ้าน อีกคนอยู่ในบ้าน แล้วทีนี้จะทำยังไง ใครคือตัวจริงกันแน่ ?

เล่าต่อมากกว่านี้สปอยล์แน่นอน เอาเป็นว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ช่วยให้เราทบทวนและหันกลับมามองคนรักแสนน่าเบื่อที่อยู่ข้าง ๆ เราอีกครั้ง ว่าเป็นเพราะเขาจริง ๆ หรือเป็นเพราะเราด้วยเหมือนกัน ที่ทำให้ความรักมันจืดและฝืดขึ้นทุกวันแบบนี้

ดูหนังจบแล้ว อย่าลืมเติมความรักให้กับคนข้าง ๆ อยู่เสมอ ไม่ใช่แค่การเอาใจเพื่อหวังอะไร แต่มันคือการแสดงความรักให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่อยู่ข้างใน ถ้าไม่พูดไปไม่มีใครรู้หรอก โดยเฉพาะสาว ๆ เธออยากฟังอะไรกุ๊กกิ๊กจากปากเรากันอยู่แล้ว

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line