RONALDO VS MESSI เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไลฟ์สไตล์ใคร BEYOND กว่ากัน

หลังจากผ่านสัปดาห์แรกของฟุตบอลโลกมาแล้ว เชื่อว่าหลายกระแสคงจะพุ่งเป้าไปที่เรื่องผลงานในสนามของสองนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดแห่งยุคอย่าง Cristiano Ronaldo และ Lionel Messi เพราะคาดว่าทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นรายการเมเจอร์ใหญ่สุดท้ายของทั้งคู่ ที่ได้แสดงฤทธิ์เดชของตนเอง เนื่องจากตลอดสิบปีที่ผ่าน มักมีการเปรียบเทียบว่าใครกันแน่คือเบอร์ 1 ของโลก

แต่เมื่อผ่านนัดแรกไป สิ่งที่ปรากฎคือแม้จะเก็บผลเสมอมาด้วยกันทั้งคู่ ทว่า Messi กลับโดนวิจารณ์อย่างหนักทั้งเรื่องการยิงจุดโทษผิดพลาด และไม่สามารถทำประตูได้เลย แตกต่างจาก Ronaldo เพราะจัดการกระทุ้งประตูไปถึง 3 ดอกด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นจุดโทษ ฟรีคิก ยิงไกล นักฟุตบอลเจ้าของฉายา เจ็ดโด้ เก็บเรียบหมด

ซึ่ง UNLOCKMEN คงจะไม่มานั่งพูดความยาวสาวความยืดเกี่ยวกับเรื่องของฟุตบอลอีกแล้ว เพราะเชื่อว่าหนุ่ม ๆ คงได้รับข้อมูลข่าวสารนี้มาจากสื่ออื่น ๆ นับครั้งไม่ถ้วน แต่วันนี้เราจะขอมาเปรียบชีวิตไลฟ์สไตล์ของทั้งสองว่า แบบไหนที่ Beyond ในสายตาชาว UNLOCKMEN มากกว่ากัน

GIRL

ถ้าเทียบกันในเรื่องของผู้หญิงแล้วต้องบอกเลยว่า Messi ค่อนข้างจะเป็นรอง Ronaldo ชนิดแทบไม่เห็นฝุ่น เนื่องจากรายหลังนี้เปลี่ยนแฟนบ่อยเป็นว่าเล่น จนได้ฉายา Playboy แห่งวงการลูกหนัง แถมที่สำคัญรายชื่ออดีตสาว ๆ ของเจ็ตโด้นั่นเรียกได้ว่าตัวท็อปทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ดารา นางแบบ ไฮโซ ที่ล้วนเคยคั่วมาหมด แตกต่างจาก Messi ที่คบหากับ Antonella Roccuzzo ภรรยาคนปัจจุบันมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น พร้อมมีโซ่ทองคล้องใจถึงสองคนก่อนจะตกลงเข้าประตูวิวาห์เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น Messi เองก็เคยมีข่าวแอบนอกใจแฟนสาวเหมือนกัน คือตอนที่โดนช่างภาพปาปารัสซี่จับภาพขณะนัวเนียสาวอยู่ที่อเมริกา และอีกครั้งหลังจากโดนนางแบบชาวอาเจนติน่า นามว่า Xoana Gonzalez แฉสัมพันธ์สวาทของทั้งคู่ แถมเธอยังบอกว่าลีลาเซ็กซ์ของ Messi นั่นเหมือนกับคนตายอย่างใดอย่างนั้น

ส่วน Ronaldo ปัจจุบันเหมือนจะหยุดความเจ้าชู้ของตัวเองลงได้บ้างแล้ว เพราะคบหากับ Georgina Rodriguez กันมาสักระยะหนึ่ง พร้อมมีลูกด้วยกันที่ไม่ใช่การอุ้มบุญเหมือนเช่นเคย โดยคาดว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นาน Cristiano Ronaldo น่าจะพร้อมเข้าประตูวิวาห์ในเร็ววันนี้ แต่ถ้าผิดพลาดไปอย่างไร หน้าตาระดับ Ronaldo ถึงจะเป็นพ่อหม้ายลูก 4 คงไม่ใช่ปัญหาที่จะหาสาวใหม่อย่างแน่นอน

CARS

ถือว่าสูสีกันมากในเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่ต่างเป็นนักสะสมรถยนต์ตัวยง ไม่ว่าจะรุ่นใหม่ ลิมิเต็ด ล้วนมีไว้ครอบครองจนหนุ่ม ๆ ทุกคนต้องอิจฉา ซึ่งดูเหมือนว่า Messi  จะหลงใหลในรถ อย่าง Maserati และ Audi มากเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพาหนะที่เขาเลือกนำมาขับขี่จนเห็นผ่านสื่ออยู่บ่อย ๆ เช่นเดียวกับ Ronaldo ไม่ว่าจะเป็น Ferrari, Lambroghini, Porche หรือแม้กระทั่ง Bugatti Veyron ที่ล้วนมีอยู่ในโรงจอดรถของเขามากมายเต็มไปหมด ดังนั้นถ้าจะให้เทียบกันในยกนี้ถือว่าเสมอ

แต่เราอาจจะมองลึกไปถึงพฤติกรรมขับขี่ Cristiano Ronaldo เป็นตัวอย่างที่หนุ่ม ๆ ไม่ควรทำตาม เนื่องจากมีลักษณะนิสัยตีนผีบนท้องถนน เพราะเคยควบ Ferrari คันงามอัดชนอุโมงค์พังยับเยินมาแล้ว รวมถึงคลิปที่ถูกจับภาพได้ว่าเจ็ดโด้ของเราขับรถเร็วจนน่าหวาดเสียว และยังปาดหน้ารถของเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย แบบนี้ก็ไม่ควรลอกเลียนแบบ

FASHION

เป็นหัวข้อที่แทบจะไม่ต้องนำมาพูดถึง เพราะเราแทบจะไม่เคยเห็น Lionel Messi  แต่งตัวหรือสนใจในเรื่องของแฟชั่นสักเท่าไหร่ ซึ่งเขามีสไตล์ธรรมดาเหมือนนักกีฬาทั่วไปที่ชอบใส่ Activewear  จะมีก็แค่เมื่อปีก่อนที่ย้อมผมเป็นสีทอง แตกต่างจาก Ronaldo เพราะรายนี้แทบหายใจเข้าออกเป็นแฟชั่น ถึงขนาดครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมทีมออกโรงแซว Ronaldo ว่าใช้เวลาเพื่อจัดแต่งทรงผมนานกว่า 1 ชั่วโมงและเขาจะต้องส่องกระจกทุกครั้งที่เดินผ่าน เพื่อเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง

จากความที่เป็นแฟชั่นนิสต้านี้ ทำให้ Ronaldo เองมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นมากมายอาทิ Emporio Armani นาฬิกา Tag Heuer และอีกเพียบ แต่ในมุมมอง UNLOCKMEN แฟชั่นของ Ronaldo จะมีความเป็น Metrosexual สูงปรี๊ด ถ้าใครไม่ชอบความเนี้ยบเหมือนกับเขาอาจจะไม่ค่อยถูกใจกับสไตล์นี้สักเท่าไหร่ ต่างจาก Messi ที่ใส่ Sportwear ง่าย ๆ ดูเข้ากับชีวิตประจำวันได้มากกว่า ดังนั้นหนุ่ม ๆ เลือกได้ตามความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์ตัวเอง

MONEY

มาถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กันบ้าง ซึ่งถ้าพูดกันถึงเรื่องค่าจ้างในการเตะบอลแบบเพียว ๆ ตอนนี้ Messi กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดของโลก และเป็นนักกีฬาที่มีค่าเหนื่อยเป็นอันดับ 2 รองเพียงแค่ Floyd Mayweather Jr. โดยเขาจะรับเงินเบอะ ๆ ซึ่งยังไม่รวมโบนัสต่าง ๆ ซึ่งตกแล้ว Messi จะได้เงินประมาณสัปดาห์ละ $667,00 (21 ล้านบาท) ถือมากชนิดบางคนหาเป็นสิบปีก็ยังไม่ได้

แต่เมื่อเทียบกับ Ronaldo ที่กำลังงอแงกับทางต้นสังกัดเนื่องจากได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่า Messi อยู่มากโข เพราะสัญญาปัจจุบันได้รับเพียงแค่ $490,000 เหรียญสหรัฐ (16 ล้านบาท) แต่พอเทียบสัดส่วนจริง ๆ แล้ว ทั้งคู่กับมีรายได้ที่สู้สีกันอยู่ที่ราว $200 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก Ronaldo ได้รับค่าโฆษณา โชว์ตัว รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง มากกว่า Messi

BUSINESS

ดูเหมือนว่า Ronaldo จะปูเส้นทางในด้านธุรกิจไว้ก่อน Messi เนื่องจากปัจจุบันเขามีธุรกิจโรงแรมหรูและร้านอาหารของตัวเองในประเทศบ้านเกิดรวมถึงบราซิล พร้อมกับไลน์สินค้าแฟชั่นอย่าง CR7 ที่กำลังเฟื่องฟูเติบโตขยายไลน์สินค้าไปตั้งแต่ เสื้อผ้า กางเกงชั้นใน กางเกงยีนส์ น้ำหอม

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางด้าน Messi เองก็เพิ่งซื้อกิจการโรงแรมในแคว้นคาตาลัน เมืองบาร์เซโลน่า เพื่อเสริมสร้างรายได้นอกเหนือจากการเตะฟุตบอล แถมเปิดตัวบริษัทลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับพี่ชายในนามว่า Rosotel ถือว่าทั้งคู่เรียนรู้ที่จะทำเงินให้งอกเงย เพราะมีตัวอย่างของนักกีฬามากมายที่รวยล้นฟ้า แต่ไม่รู้จักนำเงินมาต่อยอดและใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายเมื่อแก่ตัวไป กลายเป็นคนล้มละลายต้องมาเริ่มต้นตัวเองจากศูนย์ใหม่อีกครั้ง

CHARITY

เหมือนเป็นธรรมเนียมของชาวต่างชาติ เมื่อคุณเป็นคนดังมีชื่อเสียงก็จะต้องทำประโยชน์คือสู่สังคม เริ่มจาก Messi ที่เป็นตัวแทนของ UNICEF ที่ค่อยส่งเสริมและช่วยเหลือเด็กพิการ พร้อมมอบเงินบริจาคนับครั้งไม่ถ้วน เป็นนักฟุตบอลใจบุญคนหนึ่งของวงการ

เช่นเดียวกับ Ronaldo ที่มักจะมอบเงินช่วยเหลือเด็ก ๆ ผู้ประสบภัยต่าง ๆ แถมยอมที่จะไม่สัก Tattoo บนร่างกายของตนเอง เพราะต้องการที่จะบริจาคเลือดให้กับผู้ที่ต้องการ แถมยังบริจาคไขกระดูกหลังจากที่เขาได้รับรู้เรื่องราวของอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ต้องพบกับช่วงเวลาที่สุดแสนยากลำบาก โดย Carlos Martins  มีลูกชายที่ต้องการไขกระดูก และ ยอดแข้งเลือดโปรตุกีส ได้บริจาคไขกระดูกให้กับเด็กคนดังกล่าว จึงนับได้ว่าทั้งคู่ล้วนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม

ทั้งหมดนี้ก็เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของทั้งสองยอดนักฟุตบอลแห่งยุค โดยเราไม่จำเป็นต้องฟันธงว่าใครดีกว่า เพราะแต่ละคนย่อมมีลักษณะการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออก ขอเพียงแค่คุณไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับสังคม เท่านี้ไม่ว่าจะเลือกใช้ชีวิตแบบไหนก็ล้วนแต่ดีหมด

สำหรับเรื่องของฟุตบอลโลกในหนนี้ แม้เราเองจะชอบ Ronaldo มากแค่ไหนก็ตาม แต่แอบเอียงอยากให้ Messi พาประเทศอาเจนติน่าคว้าแชมป์โลกให้ได้สักครั้ง เพราะเหมือนว่าเขาไม่เคยถูกชะตากับการเล่นให้ทีมชาติตัวเองเลย จะได้เลิกถูกคนครหาในความสามารถเสียที เพราะสุดท้ายไม่ว่า Messi หรือ Ronaldo ล้วนเก่งเกินเหนือมนุษย์ธรรมดาทั่วไปหมดหละ ดังนั้นไม่ต้องมานั่งเถียงกันให้เสียเวลา