Business

THE FUTURE IS HERE: SCB ACADEMY พื้นที่สร้างสรรค์สุดล้ำ พัฒนาคนธนาคารให้เชี่ยวชาญด้าน DIGITAL

By: anonymK October 25, 2018

ท่ามกลางกระแสการ Disruption ในยุคดิจิทัล มีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลูกนี้ สิ่งที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารที่ต้องพาพนักงานทุกคนให้พร้อมวิ่งไปด้วยกันไม่ว่าสนามแข่งขันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน หรือในปัจจุบันคือ การเปลี่ยนจากยุคออฟไลน์ที่คนต้องใช้บริการที่สาขาธนาคารหรือพกเงินสดติดตัวเพื่อจับจ่ายใช้สอยมาสู่ยุค Digital ที่ทุกคนแค่มองหน้าจอก็สามารถทำธุรกรรมได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมยังมีเทคโนโลยีใหม่ออกมาช่วยปรับเปลี่ยนประสบการณ์ให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ด้วยความรวดเร็วของเทคโนโลยี ทั้งองค์กรและคนทำงานจึงต้องร่วมมือวิ่งไปพร้อมกันเท่านั้นถึงจะเวิร์ค ดังนั้น เมื่อถึงวันนี้ที่ความรู้ และทักษะ Digital มีความจำเป็นสำหรับคนธนาคารทุกแผนก SCB Academy” จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์การเรียนรู้ด้าน Digital ที่มีความล้ำหน้าทั้งด้านเทคโนโลยี บุคลากร และบรรยากาศการทำงาน ปรับกันได้ทั้งด้าน Knowledge, Skill, Experience และ Mindset นับว่าเป็นทางออกในการเตรียมความพร้อมให้คนทุกเจนเนอเรชั่นในองค์กรมีสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน

 

คุยกับทีมสร้าง SCB ACADEMY ศูนย์กลางการเรียนรู้เฉพาะด้านการเงินการธนาคาร

เพื่อไขข้อข้องใจของวิธีสวนกระแสในยุคที่องค์กรส่วนใหญ่มุ่ง Lean และคาดเข็มขัดการพัฒนาบุคลากร แต่ SCB กลับ มุ่ง Learn แถมยังปรับเปลี่ยนพื้นที่ถึง 2 ชั้นในตึก SCB สำนักงานใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาองค์ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ยกอนาคตมาไว้ในบ้านให้พนักงานได้ใช้พื้นที่กันแบบฟรี ๆ เพื่อให้พนักงานนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน และการทำงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต มุ่งสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า UNLOCKMEN จึงได้ เดินทางไปพูดคุยถึงเบื้องหลังทุกเรื่องราวกับทีม Digital Academy ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญของ SCB Academy ทั้ง 4 ท่านต่อไปนี้

Digital Academy Team, SCB Academy
1. ดร. พลภัทร นิติธรรมยง (แฟรงค์)
2. คุณทินรัตน์ ลีนาธนกร (ฮุย)
3. คุณศิโรตม์ รอดจำรัส (เม่น)
4. คุณทินพล หวังเจริญสุข (วิว)

พี่ทั้ง 4 คนเล่าถึงที่มาที่ไปของการสร้าง Digital Academy ว่าเกิดจากโจทย์ที่ CEO ต้องการพัฒนาคนธนาคารในด้านดิจิทัล เพื่อรับคลื่นของการเปลี่ยนแปลงที่ถาโถมมาจากกระแสดิจิทัล สถานที่แห่งนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนาด้านดิจิทัลที่เปิดกว้างให้พนักงานทุกคนมาใช้งาน และคุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์ในอนาคตแบบไม่ฝืน เพิ่มสกิลการเรียนรู้ต่อยอดการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกด้าน

ดร. แฟรงค์ : CEO เปรียบเทียบโจทย์ให้เราฟังว่าถ้าเราเป็นแบงค์ที่ลอยแบบเดิมอย่างเรือเอี๊ยมจุ๊น บรรทุกคนจำนวนมาก ๆ ทำธุรกิจและให้บริการลูกค้าในรูปแบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยในขณะที่โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เวลาพายุมาก็พากันตายแน่นอน เราทุกคนต้องลงเรือเล็กและหาหนทางไปเจอกันปลายทาง ผมว่าความรู้ด้านดิจิทัลมันเหมือนเรือลำเล็กที่จะช่วยพาทุกคนไปถึงฝั่งได้อย่างมั่นคง และรวดเร็วขึ้น

 

NON-TECH TO TECH, NEW NORM FOR EVERYBODY.

ไม่เพียงแค่การรีโนเวทพื้นที่ใหม่ให้น่าใช้ หรือการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดขององค์กรเท่านั้น แต่เป้าหมายที่แท้จริงของการมี Digital Academy คือการเปลี่ยน Mindset เดิมของพนักงาน สร้างทัศนคติว่าคน Non-Tech ก็สามารถสร้างความรู้เรื่อง Tech ติดตัวได้ทุกคน ซึ่งการสร้างวัฒนธรรมด้านดิจิทัลนี้ต้องตอบโจทย์ให้ครบทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ลูกค้า องค์กร และพนักงาน

คุณฮุย : ถ้าพูดถึงดิจิทัล แต่ละองค์กรอาจจะคิดไม่เหมือนกัน สำหรับทิศทางที่เหมาะกับแบงค์เราคิดว่ามันต้องมี 3 แกนที่ต้องเรียน คือ 1. Data เราเน้นเรื่องการใช้ประโยชน์ของข้อมูล ต่างจากการทำงานแบบเดิมที่ใช้สัญชาตญาณ 2. Technology หลายอย่างที่เกิดขึ้น ก็เป็นสิ่งที่แบงค์ไม่รู้ไม่ได้ เพราะส่งผลกระทบโดยตรงกับแบงค์เช่นกัน ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม เช่น Blockchain, Chatbot, AI (Artificial Intelligence), Cloud หรือ IoT (Internet of Things) อย่างน้อยพวกเราก็ควรรู้ว่ามันคืออะไร และ 3. New Way of Working แนวการทำงานแบบใหม่ที่จะนำทั้ง 2 ข้อแรกไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ส่วนนี้จะแยกออกเป็น Design Thinking กับ Agile ที่ตอนนี้เราใช้ในเกือบจะทุกโปรเจกต์ในแบงค์ครับ และจากผลลัพธ์ก็ชัดเจนว่ามันเวิร์ค

คุณเม่น : ที่จริงก่อนเปิดตัว SCB Academy การฝึกพัฒนาคนที่ SCB มีมานานแล้วในรูปแบบการเข้า Classroom Training แต่ตอนนี้ยกระดับให้ดีและครบครันมากขึ้น ซึ่งทางเราก็ได้ใช้พื้นที่ใน SCB Academy ชั้น 18-19 เพื่อจัดการเรียนรู้แบบใหม่ เพิ่มพื้นที่ในการทำกิจกรรม นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาถ่ายทอด คิดหลักสูตรการพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญให้ครบทุกด้าน ไม่เฉพาะแค่ด้าน  Hard Skill, Soft Skill, Leadership ที่จำเป็นในปัจจุบันเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึง Future Skills ที่ต้องเสริมให้พนักงานด้วย เรามีการนำ Massive Open Online Course (MOOC) ของแพลตฟอร์มระดับโลก เข้ามาเสริมกับคอร์ส E-learning ของเราเอง  โดยเน้นให้ผู้เรียนเรียนได้อย่างสนุกจากที่ไหน เวลาใด ก็ได้  เพื่อให้เราสามารถที่จะ Scale Up การเรียนรู้แบบก้าวกระโดดให้กับพนักงานของเราได้

นอกจาก On-Line Learning ผ่าน MOOC แล้ว บน SCB Academy ของเรายังมี Immersive Learning Zone ที่เราจัดทำเป็นห้อง Tomorrow Land เพื่อใช้ในการจัดแสดงนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีล้ำ ๆ หมุนเวียนมาให้พนักงานได้เรียนรู้ ผ่านการรับชมนิทรรศการ โดยในเฟสแรกเราเน้นให้ผู้เข้าชมตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ต้องทำให้พนักงานรู้สึกว่า Digital Tsunami มันมาเก็บกวาดเราแล้ว ถ้าเราไม่รีบปรับตัวและเตรียมพร้อมกับชีวิตในยุคดิจิทัล เราจะถูกคลื่นลูกใหม่นี้กลืนหายไปอย่างแน่นอน

คุณวิว: เป้าหมายของเราในการสร้างองค์ความรู้ด้านดิจิทัลไม่ใช่แค่เพื่อสนับสนุนการทำงานในองค์กรอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราพยายามคิดกันต่อว่าดิจิทัลเทคโนโลยีต่าง ๆ สามารถช่วยปรับชีวิตของทุกคนให้ Smart ขึ้นอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้เห็นความสำคัญและผลกระทบของดิจิทัลในภาพรวมทั้งหมด โดยเราแบ่งออกเป็น 4 Smart คือ Smart Life ช่วยปรับปรุงการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีขึ้น สะดวกขึ้น, Smart Work ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น, Smart Bank ช่วยให้กระบวนการทำงานและการทำธุรกิจของธนาคารตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น และ Smart Business ช่วยในการปรับใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และเทรนด์ในการทำธุรกิจใหม่ ๆ

ดร. แฟรงค์ : เรื่องการพัฒนาคนด้านดิจิทัล เราแบ่งออกเป็น 5 Levels คือ Level 1: Awareness ในขั้นนี้เป้าหมายของเราคือทำให้เกิดการรับรู้ว่าดิจิทัลคืออะไร มีผลกระทบกับชีวิตกับเราทั้ง 4 Smart อย่างไรบ้าง และมี Use Cases ที่ไหนอย่างไรบ้างที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ Level 2: Resident เป็นการต่อยอดจาก Level 1 โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเริ่มใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี หรือ Way of Working ใหม่ ๆ ในชีวิตประจำวัน Level 3: Native เป็นการเจาะลึกเฉพาะด้าน Data, Technology หรือ New Way of Working ตามความสนใจเฉพาะบุคคล โดยเราจะมี Learning Path ที่เน้นเฉพาะด้านนั้น ๆ ให้และจะมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอนให้เข้าใจลึกซึ้งในด้านนั้น ๆ ผ่านทั้งทาง On-Line และ Off-Line เหมือนที่คุณเม่นได้เกริ่นไปแล้ว Level 4: Master คนที่เป็นหรือมีความรู้ และทักษะในระดับนี้จะต้องสามารถทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับคนในระดับ Native ได้ ในขณะเดียวกันจะต้องสามารถผลิตหรือสร้างโปรเจกต์ที่เป็นประโยชน์กับหน่วยงานของเขา และแบงค์ได้ และ Level: Expert จะเป็นเหมือนกูรูในด้านนั้น ๆ ได้รับการยอมรับจากคนภายนอกและสามารถแชร์มุมมองความคิดที่เป็น Forward Thinking ในเรื่องนั้น ๆ ได้

การจะสร้าง Digital Academy ขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านกระบวนการวางแผนและ Roadmap เป็นอย่างดีว่าเป้าหมายของการทำสิ่งนี้คืออะไร และทำเพื่ออะไร เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะคิดแล้วทำได้เลย แต่ต้องคิดจากปลายทางว่าลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตต้องการเซอร์วิสแบบไหน เราจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร มีความรู้และทักษะด้านใดบ้างที่จำเป็นในการตอบสนองความต้องการเหล่านั้น อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังมีสิทธิเลือกที่จะปลูกฝังความรู้ด้านดิจิทัลในระดับที่ตนเองต้องการและเห็นความสำคัญเพราะเหนือสิ่งอื่นใด ความสุขของทุกฝ่ายยังคงเป็นเป้าหมายปลายทางที่แบงค์ต้องการ

 
คุยกับผู้ใช้บริการ :  SCB Academy ในสายตาชาวแบงค์

เปิดมุมมองของคนทำงานในฝ่าย SCB Academy กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาคุยกับคนใช้บริการบ้าง ในสายตาของชาวแบงค์ สิ่งนี้มันตอบโจทย์จริงหรือไม่ พวกเขารู้สึกอย่างไร เรามาฟังไปพร้อมกัน

คุณนภัทร โรมรัน (แมงป่อง) – Project Manager, Digital Banking (SCB CONNECT)

“ผมอยู่มาประมาณเกือบ 4 ปี เห็นความเปลี่ยนแปลงของแบงค์มาเยอะ วันนี้ SCB มีสถานที่ทำงานที่มีบรรยากาศแบบที่หลายคนใฝ่ฝัน บรรยากาศใน SCB Academy ส่งเสริมให้เราคิดนอกกรอบ อุปกรณ์กับพื้นที่ก็พร้อม บางทีเราเบื่ออาจจะแจ้งหัวหน้าว่าขอมาทำงานที่ SCB Academy ได้ มีอะไรสำคัญก็โทรตามกัน ช่วยให้สามารถคิดโปรเจกต์ได้เยอะขึ้น

ยิ่งตัวผมต้องทำงานที่อิงกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ได้ที่นี่เป็นที่คิดโปรเจกต์ทำ Agile หรือการจัดกิจกรรม Town Hall ก็ไม่ใช่รูปแบบเดิมที่เรานั่งหลับ ฟังผู้ใหญ่พูดอย่างเดียว ที่นี่มีจอ LED ใหญ่มาก กระตุ้นให้เราอยากทำ Presentation ที่มันเด่น ดึงดูดคน ที่นั่งก็ไม่ได้เป็นเก้าอี้กางเรียงกัน แต่กลายเป็นเรานั่งแสตนด์มองไปที่จอ LED อารมณ์เดียวกับ Central BNK Concert ที่ผ่านมา แง่นี้ผมว่าน่าสนใจมาก ๆ”

“ส่วนเรื่องคอร์สเรียนเองก็ต่างจากข้างนอก เพราะ Academy ให้เรียนสิ่งใหม่ที่ทั่วโลกใช้จริง ทั้งคอนเซ็ปต์ Agile และ Design Thinking รวมถึง Outward Mindset ที่นำมาประยุกต์กับการทำงานได้เพราะผมต้องทำงานด้านดิจิทัลที่ใช้คอนเซ็ปต์การทำงานเดียวกันนี้ อย่างล่าสุดมีอีเว้นต์เกี่ยวกับการใช้ AI มาทำ Alternative Credit Risk หรือการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนตามรายบุคคล เป็นอะไรที่เปิดโลกให้พนักงานมากครับ”

 

คุณพีรพัฒน์ ตันเจริญ – Assistant Vice President, Data Visualization

“ตอนนั้นรู้จักที่นี่จาก Intranet พอมีโอกาสมาประชุมที่นี่ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจว่า SCB มีสถานที่แบบนี้ด้วย มันเป็นอีกพื้นที่หนึ่งนอกเหนือออฟฟิศที่เราสามารถใช้ความคิดได้ มีมุมส่วนตัวเยอะ รอบข้างเป็นกระจก มองออกไปแล้วโปร่ง เปิดสมอง เราเคยมาเข้าร่วมประชุมเรื่อง Chatbot ของ Abacus เป็นทอล์กที่สนุกเพราะผู้บรรยายกับเราอยู่ใกล้ชิดกันและตรงกับโปรเจกต์งานที่เราต้องทำ พัฒนาความรู้เราอย่างตรงจุด ได้บรรยากาศที่แตกต่าง และได้เพื่อนใหม่แผนกอื่นจากการเข้าคอร์ส

บางคนอยู่ตึกเดียวกันไม่เคยทำงานด้วยกัน มาเจอใน Training มันเปิดโอกาสให้ทีมได้เชื่อมต่อกันมากขึ้น พอเชื่อมกันแล้วตอนหลังเราก็มีโอกาสได้ขอความช่วยเหลือโปรเจกต์ที่ทำด้วยกัน คอนเนคชั่นที่เพิ่มขึ้นมันช่วยในงานของเราได้ดีมาก”

คุณชรีญา ธรรมนิยม (ออม) – Data Analyst

“ออมไม่ได้เรียน Engineer มาก่อนแต่สนใจเรื่องเทคโนโลยี ทาง SCB ก็เปิดโอกาสให้เราได้ลองเรียน ซึ่งเหมาะกับเราที่ชอบเปิดหูเปิดตาอยู่แล้ว ที่ SCB มีกิจกรรมให้ทำเยอะ เคยเลือกเข้าคอร์ส Gamification ออกแบบเกมเอง เค้าพูดถึงการประยุกต์ใช้เกมในธุรกิจ มีเกมให้เราเล่น ตอนนั้นใครเป็นใครเราไม่สนใจ รู้แต่ว่าพอมันเป็นเกม เราก็มีความสนุกกับมัน และได้ไอเดียมาต่อยอดการทำงานได้

หรือคอร์สเรียนแบบ Self-Learning เราเห็นชัดว่าที่ SCB เขาทำต่างจากที่อื่น เนื้อหาที่ดี และการมีความพร้อมในทุกด้าน ทำให้เป็นคอร์สเรียนที่เรารู้สึกว่ามีประโยชน์ ได้ความรู้ ไม่เหมือนการนั่งเรียนทั่วไป มันมีความตั้งใจ มีความสนุกสนาน รู้สึกว่าเรื่องดำเนินไปไม่เร็วมาก เข้าใจง่ายที่สำคัญมันช่วยเรื่องการทำงานด้วยเพราะตอนนั้นเรากำลังทำงานวิเคราะห์เกี่ยวกับ SMEs ที่มีผลิตภัณฑ์เยอะ ตรงนี้ทำให้เราจำได้ง่าย ร่นระยะเวลาการทำงานได้ค่ะ

ล่าสุดมีหลักสูตร Wealth 101 ที่เป็น E-learning และใช้ทีมถ่ายทำจาก Club Friday เป็นเรื่องราวการจัดการการเงินที่แทรกเรื่องดราม่าเข้าไป ก็ทำให้เรียนรู้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือไม่ต้องไปเสียเงินเรียนพิเศษอีกเลยจริง ๆ เป็น Skill ที่จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต”

ทั้งหมดนี้คือหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ที่บ่งบอกถึงความใส่ใจขององค์กรที่มีต่อพนักงาน และความประทับที่มีของพนักงานกับ SCB Academy แต่ใช่ว่าเรื่องราวดี ๆ ที่มาจากที่นี่สิ้นสุดเพียงเท่านั้นเพราะตอนนี้ทางทีม Digital  Academy ยังต่อยอดโปรเจกต์ดี ๆ สนับสนุนให้เกิด New Norm นอกองค์กรให้คนทั่วไปเกิด Awareness ด้านดิจิทัลและก้าวทันโลกว่าวันนี้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด โดยได้สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้บนเว็บไซต์ ให้พวกเราทุกคนสามารถเข้าถึงได้ฟรี ๆ ในชื่อ พลเมืองดีดอทคอม www.phonlamuangdee.com แถมยังมีช่องทางให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษด้านดิจิทัลและเป็นแหล่งชุมชนด้านดิจิทัลที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมสร้างคอนเทนต์ดี ๆ ร่วมกัน

นอกจากนี้ยังมี Application ที่เราบอกได้เลยว่าเจ๋ง เพราะมีโอกาสได้สัมผัสตัว Prototype จริง ๆ กับมือมาแล้ว ใน Application มีทั้งการทำ AR และ VR ให้เราได้ประสบการณ์การเรียนรู้แบบ 360 องศา จากทุกที่ทุกอุปกรณ์ ซึ่งความเฉียบอยู่ที่มันสามารถบันทึกการเข้าใช้งานของเราได้ พักการเรียนรู้ไว้ตรงไหนก็เข้าชมต่อได้ในครั้งถัดไปโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ทุกครั้งที่เข้าไปเสมือนเราเก็บแต้มเล่นเกมไม่ใช่การเรียน อ้อ… แต่สำหรับชาว UNLOCKMEN ที่อ่านจบแล้วตั้งถามว่า เข้าไปเก็บแต้มเรียนจบคอร์สแล้วจะมีส่วนร่วมอะไรได้อีกไหม ทางทีม Digital Academy กระซิบมาว่าจะสร้างลิงก์ไปสู่ตำแหน่งงานใน SCB เพื่อให้เห็นว่าปลายทางของการเรียนรู้อาจมีตำแหน่งงานสนุก ๆ รอให้กด Apply อยู่ เอาสิ! ได้รู้ ได้สร้างสรรค์ แถมยังได้งานอีก มีที่ไหนให้มากกว่านี้อีกไหม

ขอบคุณ SCB Academy ที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำงานดี ๆ และแบ่งปันการเรียนรู้ดี(จิทัล) เพื่อเราทุกคน

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line