“เคล็ดลับพัฒนาศักยภาพ” จากนักวิ่งมาราธอนญี่ปุ่น ที่เอามาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง

กีฬาวิ่งกับชาวญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายสืบทอดกันมายาวนาน เผื่อใครยังไม่รู้ ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในสามชาติมหาอำนาจในเรื่องการวิ่งระยะทางไกล รองจาก เคนย่า และเอธิโอเปีย โดยที่มาซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นหลงใหลในการวิ่งอาจเพราะมีประเพณีการวิ่งที่เรียกว่า Ekiden ตั้งสมัยเอโดะ จึงไม่น่าแปลกใจหากเมื่อมีกิจกรรมการวิ่งระยะทางไกล จะมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากให้ความสนใจไปร่วมลงแข่งขัน

จากเรื่องดังกล่าวทำให้ฝรั่งหลายคนสงสัยและเกิดความสนใจ จึงได้ไปทำการสำรวจ ค้นคว้าข้อมูลว่าจริง ๆ เพราะเหตุใดนักวิ่งชาวญี่ปุ่นที่ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน กลับสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม จนสามารถบรรยายออกมาได้ด้วยกัน 3 ข้อ ซึ่งทีมงาน UNLOCKMEN มองว่าทั้ง 3 ข้อ แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่ใช่นักวิ่งมาราธอนอย่างเรา ๆ ก็สามารถนำมาปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้

ความแข็งแกร่งของร่างกาย

นักวิ่งชาวญี่ปุ่นที่ต้องการจะลงแข่งขันวิ่งรายการต่าง ๆ  มักจะเข้าสู่โปรแกรมการฝึกที่เรียกว่า “การทำลายหัวเข่า” เพราะพวกเขาจะต้องวิ่ง 320 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ เพียงเพื่อจะสามารถวิ่งในระยะทางต่าง ๆ ได้ในเวลา/รอบ ที่ดีที่สุด  โดยต้องฝึกวิ่งในตอนเช้าเป็นเวลา 60 นาที , กลางวัน 90 นาที และตอนเย็นอีก 60 นาที เพื่อที่จะให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแกร่ง ซึ่งมันเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้นักวิ่งชาวญี่ปุ่นเป็นเลิศในการแข่งขัน

และสิ่งที่ UNLOCKMEN มองว่าสามารถนำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้เพื่อจะประสบความสำเร็จในชีวิตก็คือ เรื่องของร่างกายที่แข็งแกร่งสุขภาพดี เพราะต่อให้คุณเป็นคนฉลาด และทำงานเก่งมากแค่ไหน แต่หากต้องป่วยออด ๆ แอด ๆ มันก็ไม่มีความหมายในการทำงานหาเงิน เคยได้ยินคนเคยบอกว่าการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ จงเชื่อคำนี้เถอะ เพราะมันคือเรื่องจริง

หลงใหล และทำงานหนัก

ความแตกต่างระหว่างชาวญี่ปุ่นกับชาติอื่น ๆ คือพวกเขาจะเชื่อในเรื่องของการทำงานหนัก เพราะพรสวรรค์นั้นมีขีดจำกัด แต่การฝึกซ้อมไม่มีขีดจำกัด ซึ่งจะเห็นได้ว่าชาวญี่ปุ่นไม่ใช่เฉพาะนักวิ่ง มักมีอุปนิสัยที่เรียกได้ว่าเป็นดีเอ็นเอ เมื่อเขาสนใจหลงใหลสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พวกเขาก็จะทำงานหนักเพื่อที่จะบรรลุสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายเอาไว้

เช่นเดียวกับในชีวิตจริง เพราะหากคุณทำอะไรโดยปราศจากความหลงใหลในสิ่งที่ทำ มันก็จะเป็นเพียงการกระทำให้พอผ่าน ๆ ไป แต่ความหลงใหลเพียงอย่างเดียวก็มิอาจจะนำพาไปซึ่งความสำเร็จได้ หากขาดซึ่งการทำงานหนัก ไม่เชื่อลองไปไล่ดูประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในโลก พวกเขาล้วนต้องผ่านอะไรมามากมายกว่ายิ่งใหญ่ได้

ระเบียบวินัย และความเพียร

สำหรับคนญี่ปุ่นเชื่อว่าการวิ่ง 42.2 กิโลเมตรได้ถือว่าต้องใช้ความพากเพียร และระเบียบวินัยอย่างสูงเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย เพราะจะไม่มีการปริปากบ่น หรือทางลัดสำหรับความสำเร็จ การวิ่งระยะไกล จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นจะใช้เพื่อท้าท้ายตัวเอง และบอกต่อถึงความยากลำบากในการฝึกฝนอันหนักหน่วงกว่าได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาครอบครอง

เช่นเดียวกับปัจจุบันแม้ว่าจะมีความสำเร็จแบบจานด่วนมากมายที่เราสามารถพบเห็นคนอายุน้อยที่ไม่ได้ใช้ระเบียบวินัย และความเพียรอะไรสักเท่าไหร่ก็ยังสามารถได้รับผลสำเร็จได้ แต่สิ่งนั้นจะยืนยันได้อย่างไรว่ามันจะยั่งยืนตลอดไป แต่กลับกันหากคุณมีความเพียร ระเบียบวินัย ที่คอยฝึกปรือเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่จะมาถึง เมื่อมีโอกาสเราเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต

UNLOCKMEN  เชื่อว่ามีแนวคิดอีกหลายอย่างจากชาวญี่ปุ่นที่มีประโยชน์ และพวกเราสามารถนำมาใช้ปรับปรุงให้กับชีวิตได้ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่คุณภาพชีวิต และความเจริญก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากประชากรของเขามีคุณภาพสูง ซึ่งถ้าหากเราเจอแนวคิด หรือหลักการใช้ชีวิตที่ดี ๆ เช่นนี้อีกจะรีบนำมาฝากทุกคนแน่นอน