ขออีกตอนจะนอนแล้ว! ชวนมาดู 5 ซีรี่ส์อาชญากรรมทางการเงินทุกรูปแบบ ปล้น โกง ฟอก

นอกจากซีรี่ส์ Gangster ที่ทำให้ผู้ชายอย่างเราติดหนึบเพราะความเท่ ความเก๋า ของ Gangster Culture ที่มันฝังอยู่ใน DNA ของเพศชายอย่างเรา ๆ ก็คงเป็นซีรี่ส์ปล้น อาชญากรรม โดยเฉพาะเมื่อเป็นลูกผสมของ Action และ Thriller ยิ่งทำให้คูณความตื่นเต้นเข้าไปอีกหลายเลเวล UNLOCKMEN ชวนมาดู 5 ซีรี่ส์เกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงิน ที่จะมาช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนของคุณให้เลือดสูบฉีดและร่วมลุ้นไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง

ขอเสริมหน่อยว่า นี่ไม่ใช่การจัดอันดับหนังดี ซีรีส์ในดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจไปถ้าซีรีส์หรือหนังในใจของคุณไม่อยู่ในลิสต์นี้ เพราะทั้งหมดนี้คือการแนะนำเหมือนเพื่อนชวนกันดูแค่นั้นเอง

Money Heist

แค่ปล้นธนาคาร ถือปืน กวาดเงิน มันยังไม่เหนือชั้นพอ ลองมาปล้นโรงกษาปณ์ไปพร้อมกับพวกเขาในเรื่องนี้ เรื่องราวโจรกลุ่มหนึ่งที่เข้ายึดโรงกษาปณ์และพิมพ์ธนบัตรให้กับตัวเองแม่งเลย พร้อมตัวประกันอีกกว่า 50 ชีวิตที่อยู่ในมือพวกเขา แม้จะหาทางต่อรองยังไงก็ไม่เป็นผล เพราะพวกเขาไม่ได้แค่นึกได้แล้วก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปยึดแบบเฉย ๆ ซะเมื่อไหร่ เพราะพวกเขาเตรียมตัววางแผนปล้นกันมากว่า 5 เดือน ทีมของพวกเขานำโดย “โปรเฟซเซอร์” อัจฉริยะผู้ควบคุมการปล้นครั้งนี้ และลูกทีมเดนตายไม่มีอะไรจะเสียมารวมตัวกัน

ความเจ๋งมันอยู่ตรงที่เราจะได้ดูแผนอันแยบยลและเหนือชั้นของโปรเฟซเซอร์ ที่เรียกได้ว่าวางแผนมาแทบจะไม่มีจุดบอดตรงไหน ตัวละครแต่ละตัวจะมีลักษณะนิสัยที่หลากหลายมารวมตัวกัน และเป็นสูตรสำเร็จของซีรี่ส์ประเภทนี้ที่จะมีตัวจอมยุ่งที่จะเข้ามาปั่นประสาทคนในทีม (และคนดู) จนเรื่องราวยุ่งเหยิงไปกันใหญ่

เหมาะกับใคร : ใครที่ชอบแนววางแผนเหนือชั้น มากกว่าการปล้นปืนจ่อหัว รับรองว่าต้องชอบเรื่องนี้ เพราะเราจะสนุกไปกับการคาดเดาแผนของโปรเฟซเซอร์ ต้องคิดตามและกดดันเหมือนตัวเองเข้าไปปล้นกับพวกเขาด้วย

Peaky Blinders

เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นการปล้นเงินโดยเฉพาะเหมือนเรื่องแรก แต่ยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์การก่ออาชญากรรมแบบ Gangster แถมด้วยดราม่าครอบครัวพวกพ้อง ที่ช่วยให้เนื้อเรื่องมีมิติมากขึ้น เรื่องหลัก ๆ เป็นเรื่องราวของแก็ง Peaky Blinders ที่ต้องกลับมารวมตัวกัน ผสานรอยร้าวในแก็งของตัวเอง เสริมความแข็งแกร่ง เพื่อรับมือกับมาเฟียอีกกลุ่มที่เข้ามาป่วนพวกเขา และหมายเอาชีวิตคนใน Peaky Blinders อีกด้วย

เหมาะกับใคร : ใครมาทางพีเรียดห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด เพราะโปรดักชั่น เสื้อผ้าหน้าผม บุคลิกตัวละคร หรือแม้แต่สำเนียงการพูด ก็พีเรียดแบบเปิดประตูมิติกลับไปในสมัยนั้นเลย  และความเป็น Gangster อย่างเช่นในเรื่องนี้ก็ยังเป็นอะไรที่ขายได้เสมอ

The Mechanism 

พักการปล้นถือปืนเอาไว้ก่อน มาใช้สมองขบคิดให้ทันเกมไปกับเรื่องนี้ ที่ว่าด้วยการเปิดโปงการทุจริตในชื่อ Operation Car Wash ที่คนของรัฐกลุ่มนึงจากหลากหลายอาชีพเกี่ยวกับการเงินและกฎหมายมาร่วมมือกันยักยอกทรัพย์ของแผ่นดินเอาเข้ากระเป๋าตัวเองแบบเนียน ๆ และยังแถมเรื่องการฟอกเงินระดับประเทศ ซึ่งมีพื้นหลังเป็นประเทศบราซิล ซีรี่ส์จะเล่าเรื่องการทุจริตให้เราฟังแบบเป็นขั้นเป็นตอน การจับกุม การไขคดี ที่ชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อย

เหมาะกับใคร : เป็นซีนไดอะล็อกเล่าเรื่องราวแบบ Overvoice ซะเยอะ เลยอาจทำให้น่าเบื่อไปบ้าง แต่ถ้าใครชอบหนังเควนตินก็คงจะรับไหวกับไดอะล็อกระดับนี้ เรื่องนี้ไม่มีอะไรบู๊เท่าไหร่ มีแค่ความตื่นเต้นเล็กน้อยที่คอยหยิกให้เราตื่นตอนเผลอง่วง ๆ ไปเท่านั้นเอง แต่จุดเด่นที่สุดของเรื่องนี้ที่เจ๋งไม่แพ้บทก็คงจะเป็นการถ่ายภาพในเรื่อง ที่ดึงความสวยงามของประเทศบราซิลออกมาได้แบบไหลลื่น

Ozark

หนุ่มดวงซวยที่ต้องมาชดใช้หนี้ที่เพื่อนตัวเองก่อเอาไว้ จนต้องหอบครอบครัวไปอยู่ที่ Ozark เพื่อหมุนเงินให้ทันสำหรับการคืนเงินแก่เจ้าหนี้สุดโหดที่พร้อมจะเป่ากระบาลของเขาอยู่ตลอดเวลา โดยเขาอาศัยความรู้และประสบการณ์ในวงการตัวเลขของเขาในเการฟอกเงิน ความอึมครึมของบรรยากาศในเรื่องยิ่งกดดันให้เรารู้สึกขนลุกและลุ้นไปกับตัวละครได้ เหมือนกับเราต้องไปช่วยเขาใช้หนี้ยังไงอย่างงั้น

เหมาะกับใคร : ฟีลคล้ายเรื่องที่แล้วนั่นแหละ ที่จะเน้นไปที่เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ไดอะล็อก การฟอกเงิน แต่ว่าเรื่องนี้จะมีแอ็กชั่นเข้ามาแทรกให้เราขวัญผวากันนิดหน่อยกับความโหดของฝ่ายทวงหนี้ ที่เลือดเป็นเลือด แผลเป็นแผล

Animal Kingdom

เรื่องนี้ Underrated ในไทยมาก ๆ อาจไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่  โดยเป็นเรื่องราวของ Jay หนุ่มน้อยวัยเพียง 17 ปี ที่สูญเสียแม่ไปเพราะเสพยาเกินขนาด จับพลัดจับผลูมาอยู่กับยายและน้าอีกสามคน ซึ่งเจ้าหนูไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวนี้คือมาเฟียและรันวงการสีเทาแบบไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น Jay จึงต้องเอาตัวเองเข้าไปในวังวน Animal Kingdom ที่ทุกคนต้องไต่ขึ้นไปให้ถึงข้างบน ไม่เช่นนั้นก็จะโดนเขี่ยทิ้งแบบ no mercy แบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก

แม้จะขึ้นชื่อว่าครอบครัว แต่ก็ไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น เพราะต่างคนต่างต้องการอำนาจเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ความมันอยู่ตรงที่แต่ละคนไม่มีใครไว้ใจใคร แผนซ้อนแผน พร้อมจะหักกันไปมาแบบ เห้ย ! เอางี้จริงหรอ

เหมาะกับใคร : ลืมภาพดราม่าครอบครัวน้ำเน่า พี่รักน้อง น้องรักพี่ ทิ้งไปได้เลย เพราะเรื่องนี้ ฆ่าได้ฆ่า พี่น้องหรอ ? ช่างแม่งดิ ! ขอแค่ตัวเองรอดก็พอ เหมือนกับชื่อเรื่องนั่นแหละ ที่แต่ละคนก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองกันทั้งนั้น

ได้นอนดูซีรี่ส์ในวันหยุดแบบนี้ก็เป็นอะไรที่ผ่อนคลายไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องที่มันแมตช์กับรสนิยมของเรา จะยิ่งทำให้เราดูได้ไหลลื่นมากขึ้น แต่อย่าได้หักโหมกันเกินไป อีกตอนต้องนอนแล้ว อย่าได้รอให้ฟ้าสางค่อยนอนล่ะหนุ่ม