FASHION

ROYAL ASCOT งานแข่งม้าสุดยิ่งใหญ่แห่งเกาะอังกฤษที่มีเรื่องราวยาวนานกว่าสามร้อยปี

By: TOIISAN June 21, 2019

การแข่งม้าสำหรับอังกฤษอาจไม่ใช่การแข่งม้าธรรมดาเหมือนอย่างบ้านเรา แต่เป็นงานสังคมของชนชั้นสูง ตามที่หลายคนมักชอบพูดกันว่า “ชาวบ้านเป็นคนเลี้ยงม้า แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของม้า” เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงม้าเป็นอะไรที่สูงมาก แถมยังต้องมีเนื้อที่เพียงพอสำหรับทำคอกม้าอีก ดังนั้นกีฬาที่เกี่ยวกับม้าอย่างโปโลหรือการแข่งขันความเร็วของม้าจึงเป็นเสมือนที่รวมตัวและออกงานของผู้มีอันจะกิน

ด้วยความหรูหราและค่านิยมที่แตกต่างของการเข้าไปชมกีฬาแข่งม้าของบ้านเรากับอังกฤษ ทำให้ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปดูสไตล์ธรรมเนียมและเรื่องราวของ Royal Ascot การแข่งขันม้าที่โด่งดังที่สุดของเกาะอังกฤษ ที่จะทำให้เห็นว่าไม่ได้มีแค่ม้าเท่านั้นที่เป็นตัวเอกแต่ยังมีอะไรให้เห็นมากกว่าที่คิด

Longines

สำหรับการแข่งม้า Royal Ascot จากเดิมที่เป็นแค่การแข่งขันปัจจุบันกลายเป็นเทศกาลหนึ่งของอังกฤษไปแล้ว และถือว่าเป็นการแข่งม้าที่หรูหราและยิ่งใหญ่ที่สุดของเกาะอังกฤษที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1711 เพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 274 ล้านบาท) ด้วยจำนวนเงินรางวัลที่เย้ายวนทำให้ภายในงานที่ดำเนินมา 300 กว่าปี เต็มไปด้วยเหล่าม้าแข่งสายพันธุ์ดีที่มาจากทั่วโลก และจัดการแข่งขันทั้งหมด 5 วันด้วยกัน

Longines

เนื่องจากงานแข่งม้า Royal Ascot มีผู้เข้าร่วมมากมายทั้งราชินีอังกฤษ  เจ้าชาย เหล่าเชื้อพระวงศ์ไปจนถึงคนธรรมดาอย่างเรา ๆ แต่วัฒนธรรมดั้งเดิมที่จัดต่อเนื่องมาหลายร้อยปีรวมถึงการมีผู้ชมชนชั้นสูงเข้าร่วม จึงทำให้ทางผู้จัดจำเป็นที่จะต้องออกข้อบังคับเรื่องการแต่งตัวของผู้ที่จะมาร่วมชมงานแข่งม้าในสนามนี้ โดยจะแบ่งการแต่งตัวออกเป็น 3 กลุ่ม ตามโซนที่นั่งเรียงจากราคาที่แพงที่สุดคือ Royal Enclosure ตามมาด้วย Queen Anne Enclosure และ Village Enclosure ตามลำดับ 

Royal Ascot

Royal Enclosure คือโซนที่นั่งสำหรับเหล่าสมาชิกราชวงศ์อังกฤษรวมถึงประชาชนที่สามารถซื้อตั๋วที่นั่งนี้ได้ (ต้องใช้คำว่าสามารถซื้อได้เพราะตั๋วจะหมดเร็วมาก) แถมเมื่อได้ตั๋วที่นั่งมาแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือดูกฎการแต่งกายในโซนนี้กันอย่างละเอียด 

สำหรับสุภาพสตรีจะต้องสวมใส่ชุดยาวคลุมเข่าหรือถ้าใส่สายเดี่ยวก็จะต้องมีเสื้อคลุมสวมทับและสวมหมวก ส่วนสุภาพบุรุษต้องใส่เสื้อเชิ้ตพร้อมกับสวมทักซิโด้ ห้ามผูกหูกระต่าย สวมรองเท้าหนังสีดำเท่านั้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือหมวกทรงสูงสีดำหรือสีเทาที่ทำให้ดูคล้ายกำลังย้อนกลับไปช่วงยุค 80

Longines

Royal Ascot

จากงานแข่งม้ากลายเป็นพื้นที่ประชันแฟชั่นแบบกลาย ๆ นี้ช่วยทำเราเห็นสไตล์การแต่งตัวแบบจัดเต็มของชาวผู้ดีอังกฤษ โดยเฉพาะกับชั้นนี้ที่ถือเป็นชุดออกงานทางการมาก ๆ และหาดูได้ยาก เพราะการแต่งตัวจัดเต็มของคนอังกฤษล่าสุดคืองานอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ที่เหล่าคนดังอังกฤษตบเท้าเข้าวังกันด้วยชุดแบบที่นั่งชั้น Royal Enclosure 

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานแข่งม้าปีนี้คือพระเอกหนุ่มชาวไทยอย่างมาริโอ เมาเร่อ ก็ได้ไปนั่งอยู่ชั้น Royal Enclosure กับเขาด้วยเช่นกันในฐานะ Friends of Longines แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากสวิตฯ ซึ่งมีความผูกพันกับงาน Royal Ascot มาอย่างยาวนานเพราะเป็นทั้งพาร์ทเนอร์และผู้จับเวลาในการแข่งขัน และแน่นอนว่าเมื่อได้ไปนั่งถึงในชั้น Royal Enclosure เขาก็ต้องแต่งตัวตามกฎข้อบังคับของงานด้วยเช่นกัน

Longines

Longines

 

ที่นั่งโซนรองลงมาอย่าง Queen Anne Enclosure และ Village Enclosure จะไม่เคร่งครัดเท่ากับโซน Royal Enclosure ที่เต็มไปด้วยสมาชิกเหล่าราชวงศ์อังกฤษ อิสระของการสวมใส่แบบสบาย ๆ และมีให้เลือกจึงเพิ่มขึ้น เช่น โซน Village ผู้ชายสามารถเลือกสีรองเท้าได้ตามใจ สามารถเลือกผูกเนคไทหรือหูกระต่ายก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่ทักซิโด้ แค่สวมสูทออกงานทั่วไปก็เพียงพอแล้ว

แม้รู้ว่าการเข้าไปชมการแข่งม้าครั้งนี้อาจยุ่งยากกว่าที่คิดเพราะต้องแต่งตัวย้อนเวลาเหมือนเข้าวังเมื่อร้อยปีก่อน แต่สำหรับหลายคนมองว่านี่คือโอกาสที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักกับคนต่างวงการ เหมือนเป็นการออกงานสังคมที่ได้มากกว่าการดูม้าแข่งจึงไม่ค่อยมีใครบ่นเรื่องกฎเกณฑ์อันแสนเข้มงวดเกี่ยวกับเราการแต่งกายเท่าไหร่นัก หลายคนมองว่ามันคุ้มค่ามากกว่ารวมถึงเริ่มหาเสื้อผ้าที่ใช่มาใส่แทนที่จะมามองเรื่องหยุมหยิม ส่วนใครที่เกาะขอบสนามแต่ไม่สนใจเรื่องการแข่งม้า อาหารตาจากแฟชั่นชนชั้นสูงที่เราไม่ได้เห็นบ่อย ๆ แบบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับชม 

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line