หมุนเข็มวินาทีตีเวลากลับไปตอน ปี 1949 ความงาม มนต์เสน่ห์ ความหลงใหล คือคำนิยามที่ใช้เรียกถึงเรือนเวลารุ่นหนึ่งของ OMEGA ที่มีชื่อว่า ‘Trésor’ เรือนเวลาซึ่งถูกให้ความหมายเอาไว้ว่า ‘ขุมสมบัติ’ ที่ซ่อนอยู่ในตัวนาฬิกา เวลาล่วงเลยผ่านไปจากช่วงเวลาข้างต้นหลายร้อยชั่วโมงต่อมา ชื่อของ Trésor มีความหมายเปลี่ยนไปอีกครั้ง ด้วยการใช้อธิบายถึงรูปทรงอันสง่างามของเรือนเวลาในรุ่นต่อจากโมเดลแรก มีการประดับด้วยเพชร ดีไซน์ด้วยตัวเลขโรมัน วางให้มีไซส์เล็กกระทัดรัดลง ตกแต่งด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย และแล้ววันแห่งความรักปี 2024 นี้ ชื่อของ Trésor จะสะกดให้ทุกสายตาให้ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง กับเรือนเวลารุ่นล่าสุด OMEGA Mini Trésor ที่มีทั้งหมดถึง 5 รุ่น ประกอบขึ้นจากวัสดุสุดเลิศหรู ซึ่งจะนิยามคำว่า ‘มนต์เสน่ห์’ ใหม่อีกครั้งนึง OMEGA Mini Trésor มาด้วยขนาดกระทัดรัด 26 มม. ซึ่งเป็นไซส์ที่ถูกวางมาแล้วว่าเมื่ออยู่บนข้อมือจะทำให้ทั้งคนสวมใส่และคนที่มองรู้สึกถึงความละเอียดอ่อนอันแบบบางของรุ่นนี้ หน้าปัดถูกประดับอย่างแววาวด้วยเพชรโอบร้อมลอบเรียงเม็ดเป็นรูปทรงเว้าโค้ง (Diamon Curves) เข้าคู่กันไปอย่างดีกับตัวเลขหลักโรมัน พลิกดูที่ฝาหลังของทุกรุ่นจะเห็นงานดีไซน์ดอกไม้ ‘Her Time’
ผ่านเวลามา 50 ปี ความคลาสสิกจากงานดีไซน์เรือนเวลารูปทรง TV ที่ผสานรูปร่างสี่เหลี่ยมเข้าไว้กับความโค้งมนได้อย่างกลมกล่อม พร้อมคืนชีพอีกครั้งกับ MIDO Multifort TV Big Date ตัวแทนความเก๋าด้านงานออกแบบที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน หลังจากที่ Mido เคยเผยโฉมนาฬิกาทรง TV สุดคลาสสิกมาแล้วเมื่อปี 1973, 1980 และ 2000 ล่าสุดตำนานเรือนเวลาหน้า TV ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งบน MIDO Multifort TV Big Date ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบที่คลาสสิกร่วมสมัย เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหน้าปัดสะท้อนแสงโชว์เอฟเฟกต์การไล่เฉดแสงสีที่น่าหลงใหลจากโทนสีหลักกลางหน้าปัดไปจนสุดขอบสีดำ ตัวเรือนสเตนเลสของ MIDO Multifort TV Big Date ดูลงตัวมีมิติด้วยการขัดเงาแนวนอนอย่างเด่นชัด ขาดไม่ได้กับความโดดเด่นของ ‘BIG DATE’ หน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา นอกจากนี้ภายใต้กระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเรือนยังเผยให้เห็นความงามของกลไก Caliber 80 สุดแม่นยำ พร้อมรองรับการสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง เหมาะมากสำหรับเป็น Every Day
นับเป็นเวลากว่า 55 ปีที่ SEIKO 5 SPORTS ได้ส่งมอบความน่าเชื่อถือ, ความทนทาน, ประสิทธิภาพ รวมถึงมาตรฐานระดับสูง ให้แก่ผู้นิยมนาฬิกากลไกมาแล้วทั่วโลก และยังคงเดินหน้าพัฒนานาฬิกาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด SEIKO 5 SPORTS FIELD ซีรีส์ยอดฮิตสำหรับแฟน ๆ เรือนเวลาสายลุย แนว ‘Trench Watch’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘นาฬิกาทหาร’ ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์คล่องแคล่ว แข็งแกร่ง และการบอกเวลาที่แม่นยำ ได้อัพเกรดความสามารถใหม่ในคอลเลกชัน SEIKO 5 SPORTS FIELD GMT ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ FIELD series ที่ได้มีการหยิบฟังก์ชันเข็มบอกเวลาที่ 2 หรือ GMT มาใช้ เพื่อเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานให้กับเหล่านักเดินทางชีพจรลงเท้าทุกท่าน ความโดดเด่นที่ถือเป็นไฮไลต์ของนาฬิการะบบอัตโนมัติ SEIKO 5 SPORTS FIELD GMT ขนาด 39.4 มม. เรือนนี้ คือเข็ม GMT
เมื่อปฏิทินเปลี่ยนผ่านมาถึงหน้าสุดท้ายของปี ทุกคนคงสัมผัสได้ได้ถึงบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง กับเทศกาลแห่งการให้ ส่งต่อของขวัญแทนความรู้สึกแก่คนสำคัญ วันนี้เราจึงอยากแนะนำไอเดียของขวัญทรงคุณค่า อย่างเรือนเวลาสุดพิเศษจาก OMEGA ซึ่งแต่ละเรือนต่างมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร โดดเด่นด้วยตัวตน สไตล์ และวัสดุที่น่าหลงใหล เปรียบได้กับเกล็ดหิมะที่เมื่อขยายดูโครงสร้างภายในจะพบกับเสน่ห์ของรูปทรงที่แตกต่าง รับรองว่าแต่ละรุ่นแต่ละเรือนคือของขวัญที่เหนือกาลเวลา พร้อมเติมเต็มความสุขที่สมบูรณ์แบบทั้งผู้ให้ และผู้รับแน่นอน เริ่มต้นที่เรือนแรกกับ OMEGA Seamaster Diver 300M ตัวเลือกคลาสสิก ในฐานะของขวัญสำหรับผู้รักการเดินทางและการผจญภัย กับคุณสมบัติสุดแกร่งผสานดีไซน์งดงาม สามารถติดตามผู้สวมใส่ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม, งานเลี้ยง, ลุยป่าเขา หรือแม้กระทั่งในมหาสมุทร ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ทว่าพร้อมที่จะไปทุกแห่งหน นาฬิกาขนาด 42 มม. รุ่นตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลและทอง Sedna™ 18K นี้มาพร้อมกับหน้าปัดและขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิกสีดำ โดดเด่นด้วยรายละเอียดระดับไอคอนิกอย่างลวดลายคลื่นอันโด่งดังและเข็มนาฬิกาแบบฉลุ สำหรับ OMEGA De Ville Prestige ที่ได้มีการปรับเส้นสายงานออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่บริสุทธิ์และเพรียวบางมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก็ยังคงติดอันดับคอลเลกชันของขวัญที่เจิดจรัสอยู่เสมอมา ทั้งในรุ่นขนาด 34 มม. ที่ผลิตจากวัสดุสเตนเลสสตีลและทอง Sedna™ 18K มาพร้อมกับหน้าปัดเปลือกหอยมุกซึ่งดูคล้ายกับหิมะที่โปรยปราย รวมไปถึงเรือนเวลา De
Ventura Dragon คอลเลคชั่นใหม่ของ แฮมิลตัน (HAMILTON) ถือว่าเป็นตัวแทนแห่งความแข็งแกร่งและโชคดี รวมถึงจิตวิญญาณแห่งพลัง จึงเป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับโอกาสและความสำเร็จ ซึ่งสามารถผสมผสานกับการออกแบบที่ประณีตและสวยงามได้อย่างลงตัวด้วยตัวเรือนแสดงใบหน้าของมังกรที่เต็มไปด้วยพลังและความกล้าหาญ ใบหน้าของมังกรหัน 90° ทางเข็มนาฬิกา ที่เข้ากับความเป็น Ventura มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสสตีล หน้าปัดขนาด 42.5 x 44.6 มล. และความหนา 12 มล. การขับเคลื่อนด้วยกลไกระบบไขลานอัตโนมัติ ที่สามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง และมีความทนทาน โดยมีให้เลือกถึง 2 สี คือเคลือบ PVD สี Rose Gold สุดหรูหรา และ สีดำสุดคลาสสิก ความพิเศษที่มากกว่านั้นคือตัวเรือนที่มีการเคลือบป้องกันการสะท้อนแสงและ Super-LumiNova® สีขาวทำให้นาฬิกาเหมาะสำหรับการสวมในทุกช่วงเวลาตั้งแต่กลางวัน จนถึงกลางคืน พร้อมสายลวดลายมังกร 3 มิติเพิ่มความสมบูรณ์ในการสวมนาฬิกานี้ และนอกจากนี้ แฮมิลตัน (HAMILTON) ยังมาพร้อมกับ Boulton 4 สีใหม่สดใส ในคอลเลคชั่นนี้นาฬิกา Boulton
อัพเดท Hot Item ส่งท้ายปี กับซีรีส์เรือนเวลารักษ์โลกขวัญใจสายสตรีท รวมถึงชาวแฟชั่นนิสตาทั้งหลาย อย่าง AIKON #tide จาก MAURICE LACROIX ที่ได้เวลาปล่อยของ ออกคอลเลกชันใหม่ AIKON #tide Camo ที่แรกเริ่มเดิมที มีไอเดียในการหยิบลาย Camo หรือลายพรางมาใช้เพื่อให้ได้ฟีลกลมกลืนไปกับธรรมชาติ แต่ท้ายที่สุดต้องบอกเลยว่า เมื่อรูปทรงสปอร์ตของตัวเรือน มาเจอกับลวดลาย Camo และสีสันที่หลากหลาย ทำให้ AIKON #tide Camo กลายเป็นความกลมกลืนที่เฉิดฉาย สะท้อนสไตล์สนุกจัดจ้านของเหล่า City Girls, City Guys ให้โดดเด่น โดดเด้งขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยนาฬิกา AIKON #tide Camo รุ่นใหม่ มาพร้อมตัวเรือนขนาด 40 มม. จัดเต็มสีสัน 4 สี 4 สไตล์ ลงตัวกับ Total Look ทุกรูปแบบ
เปิดตัวพร้อมเติมเต็มทุกสไตล์เท่ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection (NJ015) คอลเลกชันเรือนเวลาเรียบหรูผสานความแกร่งสมชื่อ “TSUYOSA” ที่สื่อความหมายถึง “ความแข็งแกร่ง” ในภาษาญี่ปุ่น ตัวเรือนขนาด 40 มม. รังสรรค์ขึ้นจากสเตนเลสสตีลดีไซน์โค้งมน หล่อลงตัวกับสายสเตนเลสขัดเงา หน้าปัดปิดทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมเลนส์ขยายหน้าต่างวันที่สุดคลาสสิก สำหรับเม็ดมะยมของ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection ถูกจัดวางในตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งโดดเด่นแตกต่างจากนาฬิกาข้อมือทั่วไป ด้านหลังตัวเรือนสวยสะกดใจด้วยฝาหลังขันเกลียวแบบเปลือยโชว์ให้เห็นกลไกอัตโนมัติยอดนิยม Caliber 8210 รองรับการสำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง กันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร พร้อมให้สวมใส่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใส่หล่อออกงาน หรือใส่ชิลในวันสบาย ๆ และไฮไลต์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องราวของสีสันอันสดใส ที่ตอกย้ำให้ CITIZEN The “TSUYOSA” Collection เป็น Everyday Watches ที่ลงตัวกับทุกสไตล์ที่แตกต่าง ด้วยหน้าปัดหลากสี มีให้เลือกเท่ไม่ซ้ำวัน NJ0151-88M – Tiffany
เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ ทาง SEIKO ก็ไม่พลาดที่จะมีของดีมายั่วใจนักสะสม และต้องบอกเลยว่าเรือนเวลารุ่นล่าสุดเรือนนี้นั้นไม่ธรรมดา เพราะถือเป็นเรือนส่งท้ายปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระสุดพิเศษภายใต้ปีแห่งความภาคภูมิใจ ครบรอบ 55 ปี SEIKO 5 SPORTS กับ SEIKO 5 SPORTS YUTO HORIGOME LIMITED EDITION ที่ได้ร่วม Collab กับนักสเก็ตบอร์ดดาวรุ่งชื่อดังแห่งประเทศญี่ปุ่นอย่าง Yuto Horigome (ยูโตะ โฮริโกเมะ) อีกครั้ง ซึ่งความสามารถของ Yuto Horigome ได้เริ่มฉายแสงตั้งแต่วัยเด็ก โดยได้รับอิทธิพลความหลงใหลในสเก็ตบอร์ดมาจากคุณพ่อ และเริ่มหัดเล่นตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนที่จะขยับตัวเองให้ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของการแข่งขันในประเทศญี่ปุ่น ได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น ๆ เท่านั้น ภายหลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายในประเทศญี่ปุ่น Horigome ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ความสามารถและพรสวรรค์ของเขา ได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกของเขาเมื่อปี 2017 ใน Street League Skateboarding (SLS) ซีรีส์การแข่งขันสเก็ตบอร์ดชั้นนำของโลกแค่เพียง 1 ปี
MB&F จักรกลสุดซับซ้อนอันดับต้นของโลก เปิดตัว Machine รุ่นใหม่ล่าสุด HM11 ด้วยแนวคิด “une maison est une machine à habiter“ (a house is a machine to live in) ที่ Maximilian Büsser อยากทดลองวางกลไกในสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากบ้านเรือนในช่วง mid-to-late 1960s ตัวเรือนดีไซน์ให้เป็น three-dimensional กว้าง 42mm ผลิตจากวัสดุ Grade-5 titanium ที่แข็งแรงที่สุด รูปทรงแปลกตาเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่มีห้อง 4 ห้องทำมุม 90 องศา มองจากด้านบนจะพบหัวใจหลัก Central flying tourbillon movement ไขลานด้วยมือ ทำหน้าที่เสมือนเสาหลักของบ้าน ไขลานโดยการหมุนเคส 45 องศา โดยหมุนครบ 10 ครั้งจะได้พลังงานเต็ม 96
คอลเลกชันนี้เป็นการสานต่อความมุ่งมั่นของดีไซเนอร์ในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดกีฬา และนำเสนอรูปแบบเสื้อผ้าซึ่งเป็นมรดกของอาดิดาสที่ถูกปรับโฉมใหม่ในสไตล์เรียบหรู โดยสินค้าที่มาในคอลเลกชันประกอบด้วย เสื้อผ้าถักสีน้ำตาลมาฮอกกานี จับคู่เข้าเช็ทกับกางเกงฟุตบอลขาสั้นผ้าไนลอนสี Sand ที่ตัดด้วยแถบสี 3 แถบด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีสินค้าหลักที่ถูกผลิตด้วยผ้าไนลอนน้ำหนักเบาอันได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงยุค 70s ถึงยุค 90s ได้แก่ ชุดแทรคสูทมาในสีฟ้าอ่อนสะท้อนแสง และเสื้อไนลอนสีดำที่โดดเด่นด้วยปกสีเขียวสดใสที่ตัดกันอย่างลงตัว และเสื้อผ้าทุกชิ้นไม่จำกัดเพศ ทำให้ทุกคนสามารถเป็นสวมใส่เสื้อผ้าในคอลเลกชันนี้ได้ สำหรับรองเท้าในคอลเลกชัน โมเดลสุดไอคอนิกอย่างรุ่น Samba ยังคงถูกหยิบมาพัฒนาและออกแบบในสไตล์ของ Wales Bonner อีกเช่นเคย โดย 2 คู่แรก โดดเด่นด้วยอัปเปอร์ที่ทำจากขนม้าเทียมและพื้นรองเท้ายาง มาในลายพิมพ์เสือดาวและสีแทนอ่อนที่ถ่ายทอดความหรูหราของตัวรองเท้าออกมาได้อย่างลงตัว ในขณะที่อีก 2 คู่ ประกอบด้วยวัสดุหนังกลับและการตัดเย็บแบบตัดกันอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความแตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ ภาพในแคมเปญจึงได้ถูกเปลี่ยนฉากหลังจากวิวภูมิทัศน์ให้กลายเป็นฉากเรียบๆ ในสตูดิโอ พร้อมผสมผสานระหว่างนาย/นางแบบและสายสตรีท รวมถึงนักสเก็ตบอร์ดอย่าง Na-Kel Smith มาร่วมถ่ายภาพในแคมเปญ โดยเน้นไปที่การถ่ายทอดความมินิมอลของเสื้อผ้าในคอลเลกชัน และความซับซ้อนในคาแรกเตอร์ของแบบแต่ละคน นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังมาพร้อมวีดีโอบทสัมภาษณ์สั้นๆ พร้อมภาพเคลื่อนไหว โดยคำถามในการสัมภาษณ์ถูกจัดโดยนักเขียนบทละครและนักแสดงผู้ใจบุญอย่าง Jeremy O. Harris