Life

เป็นผู้ชายโสดมันเจ็บปวด งานวิจัยชี้ว่า “การเป็นโสดโดดเดี่ยวฆ่าคุณได้ไวกว่าโรคอ้วนเสียอีก”

By: unlockmen August 22, 2018

โลกใบนี้มันชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน อันตรายและโรคร้ายเหมือนจะรอเราอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะกินอาหารประเภทไหนก็ดูจะพ่วงมาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดโรคหนึ่งอยู่เสมอ โดยเฉพาะอาหารที่ถูกปาก ถูกใจ แต่ไม่ถูกกับร่างกายเท่าไหร่นัก และโรคยอดฮิตใกล้ตัวผู้ชายเราที่ดูผิว ๆ ไม่น่ากลัวแต่ถือเป็นภัยคุกคามทั่วโลกอย่าง “โรคอ้วน” ก็เป็นอีกโรคร้ายที่มาพร้อมกับอาหารที่เราเอาเข้าปากอยู่ทุกวัน

แต่ใครจะรู้ว่าอันตรายและโรคต่าง ๆ มันไม่ได้มากับอาหารการกินเท่านั้น แต่มากับพฤติกรรมบางอย่างไม่เว้นแม้แต่ “ความโสด” ที่ล่าสุดมีงานวิจัยออกมาระบุว่าการเป็นโสดนี่มันเสี่ยงที่จะตายไวยิ่งกว่าโรคอ้วนที่เราว่าน่ากลัว ๆ เสียอีก!

งานวิจัยที่เรากำลังจะพูดถึงครั้งนี้ก็สอดคล้องกับเรื่องความเหงาที่ UNLOCKMEN เคยพูดถึงไว้ว่าความเหงา ความโดดเดี่ยว ความเดียวดายนี่มันมีผลกระทบต่อสุขภาพได้มากกว่าที่เราคิดจนรัฐบาลอังกฤษถึงกับต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีมาดูแลเรื่องความเหงาของประชาชนโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว

Dr. Julianne Holt-Lunstad ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามหาวิทยาลัย Brigham Young คือผู้วิจัยหลักในครั้งนี้ เธอระบุชัดเจนว่ามนุษย์ที่แยกขาดจากสังคม บรรดาคนเหงา คนโสด คนหว่อง คนเดียวดายทั้งหลายนั้นล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้มากยิ่งกว่าการเป็นโรคอ้วน โดยถือเป็นความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 30%

Dr. Julianne Holt-Lunstad ยังบอกอีกด้วยว่ามนุษย์จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับมนุษย์คนอื่น ๆ หรือเชื่อมต่อกับสังคมเพราะมันเป็นความต้องการพื้นฐานที่โคตรสำคัญและมีผลต่อความเป็นอยู่และการเอาตัวรอดเลยด้วยซ้ำ เธอยกตัวอย่างที่เห็นได้แบบชัด ๆ คือทารกที่ขาดการติดต่อกับมนุษย์ (อาจมีอาหาร น้ำ การพักผ่อน) แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์มักจะมีปัญหาด้านพัฒนาการและไปถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด รวมถึงการลงโทษที่มักจะมาในรูปแบบของการแยกมนุษย์ออกจากสังคม เช่น การขังเดี่ยว การเนรเทศออกจากพื้นที่ (เพราะมันพิสูจน์มาแล้วจริง ๆ ว่าการอยู่อย่างโดดเดี่ยวนี่แหละแม่งเลวร้ายสุด ๆ แล้ว)

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่าอังกฤษคือประเทศที่เหงาที่สุดในยุโรป และสหราขอาณาจักรต้องหมดงบประมาณกว่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปีเพื่อดูแลความเสี่ยงทางสุขภาพที่เกิดจากความเหงา

ด้านสถานการณ์ความโสด ความเหงา ความโดดเดี่ยวเดียวดายในสหรัฐฯ ตอนนี้ก็แย่ไม่แพ้ที่อังกฤษ เพราะปริมาณคนเหงาดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยความเหงา ความโสด ความโดดเดี่ยวจะทำให้มนุษย์ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่แค่ทางจิตใจอย่างที่เราคิดเท่านั้น

ไม่ใช่แค่สองที่นี้เท่านั้นแต่สถานการณ์ความเหงา ความเดียวดายดูจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก เหตุผลสำคัญคือการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกไม่เชื่อมต่อ ไม่เป็นส่วนหนึ่งกับสังคม Dr. Julianne Holt-Lunstad ระบุว่านี่คือความท้าทายครั้งสำคัญ เธอเห็นว่าโลกควรให้ความสำคัญกับเรื่องความเหงาความเดียวดายเพิ่มขึ้น โดยอาจต้องให้ความสำคัญกับงานวิจัยและทรัพยากรที่จะมาจัดการกับภัยเหงา ไม่เพียงเท่านั้นแต่โรงเรียนควรเพิ่มวิชาที่จะเพิ่มทักษาให้เด็ก ๆ เติบโตมาแล้วสามารถอยู่กับความเหงาได้ดีกว่าที่เคย

ความเหงา ความเดียวดาย ความโสดดูจะร้ายแรงกว่าที่เราบ่น ๆ กันเล่น ๆ แต่ UNLOCKMEN ก็เชื่อว่าความโสดอาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะต่อให้เราโสดเราก็อาจจะมีเพื่อน มีสังคมได้ แต่ถ้าเรามีแฟนแต่ยังรู้สึกเหงานี่แหละอันตรายที่แท้จริง ดังนั้นการเป็นคนโสดอาจจะเจ็บปวด แต่ถ้าเรารักตัวเอง หาความเชื่อมต่อของตัวเองกับสังคมรอบข้างให้เจอ ความโสด ความเหงาก็อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดนัก แต่เหนือสิ่งอื่นใดดูเหมือนว่าคนที่รู้สึกเดียวดายที่สุดอาจเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ชายอย่างเราไม่ควรละเลยพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวให้รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป

SOURCE

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line