สถิติชี้ ตำรวจอเมริกันยอดจับตายเพียง 1 วัน สูงกว่าตำรวจนอร์เวย์รวมกัน 10 ปี

FERGUSON, MO – AUGUST 12: Demonstrators protest the killing of teenager Michael Brown on August 12, 2014 in Ferguson, Missouri. Brown was shot and killed by a police officer on Saturday in the St. Louis suburb of Ferguson. Ferguson has experienced two days of violent protests since the killing but, tonight’s protest was peaceful. (Photo by Scott Olson/Getty Images)

เห็นทีกระแสเรื่องของตำรวจอเมริกันในการจับตายผู้ต้องหาคงยังไม่จบซักที เพราะล่าสุดก็มีการพาดหัวสถิติของยอดการจับตายของตำรวจออกมาให้เห็นกันอีกแล้ว จุดมุ่งหมายคงไม่พ้นปลุกระดมเรียกร้องให้กระแสกฏหมายคุ้มครองการใช้อาวุธปืนของตำรวจฟีเวอร์อีกรอบ แต่มาครั้งนี้ ถ้าไตร่ตรองดูจากสถิติจริงๆ แล้ว ถ้าไม่เห็นด้วยก็คงไม่ได้ เพราะยอดตัวเลขการจับตายของตำรวจอเมริกันเพียงหนึ่งวันนั้นสูงลิ่วถึงขนาดพุ่งทะลุยอดการจับตายของตำรวจนอร์เวย์ในระดับ 10 ปี เลยทีเดียว เรียกได้ว่าใครเห็นยอดนี้เข้าให้แล้ว ก็อย่าไปลูกเล่นกับพี่ตั้มเชื้อสายมะกันเข้าล่ะครับ อาจกลับจุดเซฟได้ไม่รู้ตัว

ล่าสุด จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการจับตายผู้ต้องหาไปแล้วกว่า 600 ศพ โดยเดือนมีนาคม มียอดเฉลี่ยสูงถึง 100 ศพ เลยทีเดียว นอกจากนี้ถึงแม้ผลการสรุปสถิติต่างๆ จะพยายามปกปิดข้อเท็จจริงมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถบิดเบือนความจริงที่ว่า identity ของบรรดาเหยื่อที่เสียชีวิต ชี้ให้เห็นถึงอคติทางด้านสีผิวอย่างชัดเจน

และเมื่อเปรียบเทียบจากการรายงานของ New report Issued ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลจากทางรัฐบาลนอร์เวย์เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของตำรวจนอร์เวย์เอาไว้ว่า ตำรวจนอร์เวย์ได้เคยใช้อาวุธปืนล่าสุดเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา และใช้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น นอกจากนี้ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น ช่วงปี 2002-2014 ตำรวจนอร์เวย์ก็ได้ทำการใช้อาวุธปืนเพียงแค่ 2 ครั้ง คือในปี 2005 และ 2006 เท่านั้น แม้ว่าในปี 2011 ที่เกิดเหตุ นาย Anders Breivik ผู้ก่อการร้ายก่อเหตุสังหารประชาชนไปกว่า 77 ศพ ในเมืองออสโลว์ และอูโตย่า ตำรวจนอร์เวย์ก็ลั่นไกออกไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น นี่เองเป็นสาเหตุให้เกิดการนำมาเปรียบเทียบกันระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศให้เป็นประเด็น ว่ามีความแตกต่างทางการใช้อาวุธปืนกันขนาดไหน

ถึงแม้ความจริงเรื่องการคร่าชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องถูกต้องไปได้ แต่หากมองในแง่หนึ่ง ว่าการสังหารที่ว่า เป็นการสังหารเพื่อยับยั้งปัญหาการเสียชีวิตของเหยื่อบริสุทธิ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตล่ะ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ปัญหาเรื่องความเหมาะสมในการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมว่าตรงจุดไหนกันแน่คือความพอดี สุดท้ายนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะครับว่าเรื่องราวของตัวกฏหมายเจ้าปัญหานี้จะไปลงเอยที่ไหน ที่เราแอบหวังก็คือ ถ้าพี่ตั้มเมืองไทยมาเห็นเข้า แล้วเอาอย่างตำรวจนอร์เวย์เขาบ้างก็คงดีไม่น้อยนะครับ

Source : businessinsider.com.au