ผมไม่ทนแม่งแล้วครับ! “5 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่ทนกับงาน” และบอสอย่างเราห้ามมองข้าม

การได้ขึ้นเป็นบอสคน นอกจากการทำตามตำแหน่งหน้าที่ที่เรามีแล้ว การดูแลทรัพยากรบุคคลก็เป็นสิ่งสำคัญ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายที่น่าเคารพด้วยตำแหน่งและน่านับถือด้วยวิถีลูกผู้ชายที่แท้จริง หลายครั้งที่บอสยุคเรามักบ่นกันว่าคนในทีมไม่มีความอดทนเอะอะ ๆ ก็ลาออก ถ้าเราแค่ปล่อยเขาออกไปแล้วหาคนมาใหม่ก็จบกัน แต่ถ้าเราพิจารณาดูว่าสาเหตุที่คนไม่ทนเป็นเพราะอะไร แล้วจะได้นำมาปรับปรุงต่อไปในอนาคตก็เป็นเรื่องดี ๆ ที่บอสอย่างเราไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

การทำงานซ้ำซาก

การทำงานซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไปเป็นเวลานานอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่สร้างความเบื่อหน่าย และผู้ทำงานรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้พัฒนาตัวเองเลย จึงเป็นเหตุให้พวกเขาทยอยลาออกกันไปทีละคนสองคน ถ้าเราเป็นบอสที่ไม่ได้อยากปรับอะไรก็อาจจะคิดว่า อ้าว ก็จ้างมาทำงานเดิม ๆ ทำงานเดิม ๆ ก็ต้องทนสิ ถ้าไม่อยากทำก็ลาออกไป เดี๋ยวหาคนใหม่ แบบนี้เราอาจจะต้องหาคนใหม่มาทดแทนไม่จบไม่สิ้น

แต่ถ้าอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก็จงสร้างความท้าทายให้กับคนในทีมอยู่เสมอ เพราะแม้จะเป็นงานเดิม ๆ แต่ถ้าเพิ่มความท้าทายเข้าไปเรื่อย ๆ ลูกน้องเราก็จะรู้สึกว่าเราให้ความไว้วางใจเขา และเปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาตัวเอง ดังนั้นต่อให้เป็นงานแบบเดิม แต่มีอะไรให้เขาพัฒนาศักยภาพ ไม่จำเจ เขาก็อยากอยู่กับเราไปนาน ๆ แน่นอน

ให้ความสำคัญกับเวลาเข้างานมากกว่าเรื่องงาน

รู้ว่าความตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญ แต่การทำงานกับคน GEN Y ที่ให้ความสำคัญกับการยืดหยุ่นเรื่องเวลามาก ๆ เราก็จำเป็นต้องปรับตัวตามไปด้วยเพื่อซื้อใจเขาให้อยู่กับเรานานขึ้น แต่ก็ไม่ใช่อยู่ ๆ จะยืดหยุ่นมั่วซั่วตามใจลูกน้อง โดยเราอาจมีกฎว่า เฮ้ย ทำงานนี้ให้เสร็จแล้วออกมาดีที่สุดนะ แล้วพรุ่งนี้จะเข้าสายหน่อยก็ได้ เรียกได้ว่ามีเวลาพอเป็นพิธี แต่ที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จและออกมาเฟี้ยวมาก ๆ คืองาน จำให้ขึ้นใจว่าสนใจคุณภาพของงานเป็นหลัก ขับเคี่ยวเรื่องเวลาเป็นรอง แต่ไม่ใช่ลูกน้องไม่เข้าเลย หรือเข้าเที่ยงแล้วยอมทน นั่นก็ผิดวิธีไปหน่อย เป็นบอสแล้วใช้วิจารณญาณให้หนัก ๆ เข้า!

เป็นเจ้าคนนายคนแต่ไม่เปิดกว้าง

การที่หัวหน้าไม่รับฟังความคิดเห็นของคนใต้ปกครองเลย ก็เป็นสิ่งที่คนใต้ปกครองรู้สึกรับไม่ได้มากที่สุดอย่างหนึ่ง ดังนั้นการจะซื้อใจใครสักคนให้ทนกับงานตรงหน้า เราจำเป็นที่จะต้องเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นให้มาก ๆ ส่วนจะเชื่อไหม ทำตามที่เขาเสนอหรือเปล่าก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกรอบ แต่ขั้นแรกควรรับฟังด้วยท่าทีเปิดกว้าง ไม่ปิดกั้นความคิดเห็นแค่เพราะเขามีสถานะต่ำกว่าเรา

ไม่สนับสนุนลูกน้อง

บางทีคนทำงานก็มีไอเดียกระฉูด คิดนั่น คิดนี่มากมาย แต่ถ้าเราในฐานะบอสไม่เคยสนับสนุนไอเดียที่เขาเสนอเลย โอกาสที่เขาอยากจะอยู่เสนอไอเดียกับเราต่อก็แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นนอกจากเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นเขาแล้ว ไอเดียดี ๆ ของเขาก็จงสนับสนุนซะ! เพราะประโยชน์นอกจากได้พัฒนาศักยภาพคนทำงานแล้ว ผลประโยชน์ดี ๆ ยังเข้ากับองค์กรของเราเองนี่แหละ ไม่ต้องห่วงไป

เพื่อนร่วมงานแก่งแย่งชิงดี

นอกเหนือจากเรื่องของบอสแล้ว บรรยากาศของทีมก็เป็นสิ่งสำคัญ เราอาจคิดว่าเราเป็นบอสเราจะไปจัดการอะไรได้ แต่ UNLOCKMEN บอกเลยว่าการบริหารไม่ได้บริหารแค่งานเท่านั้น แต่เราต้องสามารถบริหารคนได้ด้วย เราควรแบ่งงานในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แต่ละงานมีทั้งการท้าทายศักยภาพของแต่ละคน แต่ก็ต้องเปิดโอกาสให้แต่ละคนในทีมได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วย รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่อาจจะเปิดโอกาสให้คนในทีมแข่งขันกัน แต่เพื่อพัฒนาตัวเองไปพร้อม ๆ กัน มากกว่าจะแก่งแย่งชิงดีเอาชนะกัน

การเป็นบอสคนทั้งทีมมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ แต่ UNLOCKMEN เชื่อว่าถ้าคุณได้รับโอกาสนี้มาอยู่ในมือแล้วคุณก็ต้องมีประสิทธิภาพไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ทำมันให้ดีที่สุด เต็มที่ที่สุดเท่าที่บอสคนหนึ่งจะเป็นได้เลยดีกว่า!