Survival Guide : วิธีเอาชีวิตรอดในสถานการณ์รถตกน้ำ

นอกจากเหตุการณ์ธรรมชาติ อุบัติเหตุเป็นอีกเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลย พวกเราอาจจะเคยเห็นคลิปอุบัติเหตุที่เกิดจากรถคันอื่นพุ่งมาชนเอง หรือความเหนื่อยล้าของผู้ขับทำให้เกิดอุบัติเหตุก็ตาม ดังนั้นคงจะดีถ้าเรารู้วิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ โดย Survival Guide ครั้งนี้จะเริ่มจากการเราตัวรอดในกรณีที่รถตกน้ำ เพราะมันเป็นจังหวะที่มีเวลาเอาชีวิตรอดไม่เกิน 1 นาที

ในกรณีที่รถยนต์ตกน้ำ เราได้ไปค้นหาวิธีเอาตัวรอดที่แนะนำโดย  Dr. Gordon Giesbrecht, University of Manitoba ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการฝึกสอนเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด้านการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ว่าให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

พยายามตั้งสติและไม่โทรขอความช่วยเหลือ

การบอกให้มีสติเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ถ้าทำได้ก็จะดี ที่สำคัญคืออย่าคิดจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเราจะไม่มีเวลามากพอที่จะทำอย่างนั้น จำไว้ว่าเมื่อรถตกน้ำ เรามีเวลาเฉลี่ยประมาณ 1 นาที ในช่วงที่รถกำลังค่อยๆ จม หรือเรียกว่า Floating period เป็นช่วงที่ง่ายที่สุดในการเอาตัวรอด

ปลดเข็มขัดนิรภัยต่อเมื่อหลังรถกระแทกน้ำเท่านั้น

จากวีดีโอคลิปด้านล่าง จะเห็นว่าเมื่อรถตกน้ำ จะมีการกระแทกอย่างแรง 1 ครั้ง ถ้าเราปลดเข็มขัดนิรภัยตั้งแต่แรก แรงกระแทกนั้นอาจจะทำให้ศีรษะโขกกับหลังคาหรือพวงมาลัยรถจนได้รับบาดเจ็บหรือหมดสติได้ ให้รอจนแน่ใจว่าแรงกระแทกหมดไปแล้ว จึงปลดเข็มขัดนิรภัยออก

ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด ให้เปิดกระจกเท่านั้น

การเปิดประตูเมื่อรถตกน้ำ จะยิ่งทำให้น้ำเข้ารถเป็นจำนวนมากและยิ่งทำให้จมเร็วขึ้น ที่สำคัญคือแรงดันในน้ำอาจจะทำให้เปิดประตูรถไม่ออก จะเปิดประตูได้อีกครั้งก็เมื่อน้ำเข้ามาในรถจนเกือบเต็ม ซึ่งแรงดันนอกและในรถเท่ากันจึงเปิดได้ แต่ก็อาจจะสายเกินไป ทางที่ดีคือการเปิดกระจกรถยนต์ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการเอาชีวิตรอดใต้น้ำ และต้องเปิดกระจกทันทีที่รถกระแทกน้ำจนนิ่งและค่อยๆ จม ก่อนที่รถจะจมลึกจนแรงดันทำให้เปิดกระจกไม่ได้

สิ่งที่ควรรู้ไว้คือ แม้กระจกรถจะเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า มันยังมีโอกาสทำงานได้หลังจากจมน้ำไม่นาน ดังนั้นให้ลองเปิดกระจกตามปกติก่อน ถ้าระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน ให้รีบใช้ของแข็งทุบกระจกโดยเล็งที่บริเวณขอบแทนที่จะทุบตรงกลางกระจก เพราะกระจกข้างถูกออกแบบมาให้สามารถรับแรงกระแทกบริเวณจุดกึ่งกลางได้ และต้องทำก่อนที่รถจะจมลงไปในน้ำ ซึ่งจะยากในการทุบกระจกให้แตก

เอาเด็กโตออกก่อนเด็กเล็ก

โดยธรรมชาติเด็กที่ไร้เดียงสากว่าอาจจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ใต้น้ำ ดังนั้นถ้ามีผู้โดยสารอยู่ในรถด้วย ให้ทำตามวิธีทั้งหมดด้านบน รีบส่งเด็กโตออกไปก่อนจะช่วยเด็กเล็กจะมีโอกาสรอดมากกว่า

ไม่ควรหนีไปเบาะหลังเพราะมีอากาศมากกว่า

โดยปกติของรถยนต์เมื่อจมน้ำ ด้านหน้ารถมักจะจมก่อนด้านหลังเสมอ ทำให้หลายคนพยายามจะหนีไปด้านหลัง เพราะคิดว่ามีอากาศมากกว่าจะทำให้มีเวลามากกว่า แต่จริงๆ แล้วเมื่อรถจมลงไปถึงระดับหนึ่ง อากาศด้านหลังจะยิ่งถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน เอาเวลากระโดดหนีไปด้านหลังทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำจะมีโอกาสรอดมากกว่า

เพื่อให้เห็นภาพ ดูคลิปวีดีโอด้านล่างอันนี้มีประโยชน์มากสุดๆ