ภาพลักษณ์แสนดุดันและน้ำเสียงทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Corey Taylor ทำให้เขาเป็นเหมือน Trademark ของทั้งสองวงที่เขาเป็นสมาชิก ทั้ง Stone Sour และ Slipknot แม้เขาจะไม่ได้เป็นฟรอนต์แมนคนแรกแบบดั้งเดิมของวง แต่พอก้าวเข้ามารับตำแหน่งเขากลายเป็นที่รักของแฟน ๆ และเพื่อน ๆ ในวงชนิดที่ไม่มีใครกังขาในจุดที่เขายืนอยู่เลยแม้แต่น้อย ทว่าทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว เบื้องหลังความสำเร็จและภาพลักษณ์อันดุดัน ยังมีมุมมืดที่เขาต้องเผชิญและก้าวผ่านมันมาได้ด้วยตัวเอง มาดูเรื่องราวในอีกมุมที่ปลุกปั้นให้เขาเป็น Corey Taylor อย่างในวันนี้ หลายคนคงเคยทราบกันมาบ้างว่า Corey เอง เคยต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามานาน สาเหตุมาจากเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจในวัยเด็กอย่างการถูกล่วงละเมิดทางเพศในช่วงวัยรุ่นเหมือนกับคนอื่น เขากลายเป็น “เหยื่อ” ของผู้ไม่หวังดี ที่แฝงตัวมาในรูปแบบของเพื่อนบ้านที่แสนดี เขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันอย่างรวดเร็ว กิน เที่ยว ดื่ม เล่นดนตรีด้วยกัน จนกระทั่งวันที่เปลี่ยนทุกอย่างไป หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาเลือกที่จะปิดปากให้สนิทเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวเองและแม่ จนมันกลายเป็นแผลในใจของเขาเสมอมา เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนเขาเรื่อยมา จนทำให้เขาค้นพบว่าการมองหาแสงสว่างให้กับตัวเองส่งผลให้ตัวเขาดีขึ้นรวมถึงผลงานเพลงของเขาด้วยเช่นกัน สำหรับบางคนเรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นบาดแผลที่ยังคงคอยทิ่มแทงให้จมอยู่กับฝันร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ Corey เลือกทางที่แตกต่างออกไป เขาเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาหล่อหลอมให้ตัวเองแข็งแกร่ง ให้มันเป็นอุปสรรคที่หินที่สุดแล้วก้าวออกจากมันมาให้ได้ แล้วมันจะกลายเป็นเพียงด่านง่าย ๆ ที่เราเคยก้าวผ่านมันมาแล้ว และทำให้เขาแข็งแกร่งอย่างที่เป็นในทุกวันนี้ “ผมมองโลกด้วยสายตาที่ชัดเจนมากขึ้น” “ผมเริ่มมองหาความสงบให้ตัวเอง