หลังจากที่คอลเลกชันนาฬิกา Neo-Tokyo ทั้ง 4 เรือนเพิ่งปล่อยออกมาหมาด ๆ G-SHOCK ก็ไม่รอช้า เตรียมคอลแลปส์โมเดลนาฬิกากับ Herschel Supply Co. แบรนด์แฟชั่นยอดฮิตระดับโลก การผสมผสานที่ลงตัวของสองแบรนด์นี้เกิดเป็นเรือนเวลารุ่น ‘Herschel G-Lide’ ที่ถอดแบบความแข็งแกร่งของกองทัพสหรัฐฯ มาได้อย่างแยบยล Herschel นำโมเดลยอดนิยมในหมู่นักโต้คลื่น นักกีฬา และผู้ชายสายสตรีตอย่าง G-SHOCK GLX5600-1 มาเป็นต้นแบบและต่อยอดงานดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีเหลืองอ่อนจากกระจก mineral ที่ผนวกความเท่แบบย้อนยุคและความทันสมัยเข้าด้วยกัน ตัวบอดี้และสายรัดข้อมือของ Herschel G-Lide ห่อหุ้มด้วยเคสเรซิ่นแบบด้านสีเขียวมะกอก สะท้อนกลิ่นอายของเหล่าทหารผู้กล้า พร้อมสลักโลโก้ Herschel Supply ไว้ที่สายนาฬิกา ไฮไลต์ของนาฬิการุ่นนี้คือฝาหลังที่ใช้สเตนเลสสตีลสลักว่า “YOU CAN SURF LATER” ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทหารอเมริกัน เพราะเป็นประโยคที่มักจะสลักไว้บนซิปโป้ เพื่อให้เหล่าทหารรู้สึกว่าไฟแช็กของพวกเขาเป็นเหมือนเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มอบกำลังใจให้พวกเขาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงโดยสวัสดิภาพ Herschel G-Lide ยังคงเอกลักษณ์ของฟังก์ชันนาฬิกาจาก G-SHOCK ที่สามารถกันกระแทกและกันน้ำลึก 200 เมตร ใช้เทคโนโลยี Electroluminescent Backlight
สหรัฐอเมริกาในยุค 50 เป็นช่วงเวลาแห่งความเท่ที่เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อไหร่ก็จะสัมผัสได้ถึงความคลาสสิกที่มีสไตล์ทุกครั้ง โดยเฉพาะกับเมืองลาสเวกัส (Las Vegas) ที่คนทั่วโลกตั้งฉายาว่าเมืองแห่งบาป (Sin City) เมืองที่เต็มไปด้วยเหล่าสตาร์ชื่อก้องโลก คาสิโน เป็นแหล่งบันเทิงชั้นนำของโลก ด้วยความวินเทจและตื่นตาที่เมืองอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกันยังไม่สามารถจัดจ้านได้เท่า จึงทำให้เราสนใจเมืองแห่งบาปและอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลาสเวกัสหลังสงครามโลกครั้ง 2 หรือในช่วงยุค 50 เพื่อพบกับความงามของเมืองหลังสงคราม คงจะถูกใจคอรถเก่าสุดคลาสสิกกันไม่น้อยกันรูปถ่ายถนน Fremont ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่พาดผ่านคาสิโนหลายแห่งของลาสเวกัสในปี 1955 รูปดังกล่าวทำให้เราเห็นรถรุ่นเก่า ๆ ที่ในปัจจุบันแทบไม่เหลืออยู่แล้ว รวมถึงได้เห็นบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองปี 1958 ที่ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเมื่อไหร่ลาสเวกัสก็ไม่เคยหลับ แถมยังเห็นโรงแรมในตำนานอย่าง Golden Nugget โรงแรมและคาสิโนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในย่าน downtown ที่ในตอนนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ป้ายไฟนีออนหลากสีที่กระจายตัวอยู่เต็มสองฝั่งถนน รวมถึงรถยนต์คันโก้ที่จอดสนิทอยู่ริมทางเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยมาใช้บริการเพื่อความรื่นรมย์ที่เมืองแห่งบาปนี้ สระว่ายน้ำถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยบรรเทาอากาศที่ร้อนระอุ และในปี 1955 ผู้คนในยุคนั้นก็เห็นถึงความสำคัญของสระน้ำเช่นเดียวกับปัจจุบัน เพราะอากาศของเมืองลาสเวกัสในฤดูร้อนก็อบอ้าวเกินกว่าหลายคนจะทนไหว ด้วยความร้อนที่พุ่งสูงกว่า 100 ฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 38 องศาเซลเซียส ทำให้การได้แหวกว่ายอยู่ในน้ำเย็น ๆ ก็จะช่วยสามารถคลายความร้อนได้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเอง การมาใช้บริการในโรงแรมพร้อมกับเสี่ยงโชคไปด้วยจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เหล่านักท่องเที่ยวและนักแสวงโชคแห่แหนกันมายังเมืองเพื่อคาสิโน อย่างในปี 1957
แม้จะอยู่ในประเทศที่การพนันไม่ใช่สิ่งถูกกฎหมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความหอมหวานของการพนันมันช่างเย้ายวนใจเราซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นวงไพ่เล็ก ๆ ยามรวมตัวกับเพื่อน หรือจะบ่อนคาสิโนใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ล้วนแต่กระตุ้นอะดรีนาลีน กระตุ้นต่อมกล้าได้กล้าเสียของผู้ชายอย่างเราให้พุ่งพล่าน แม้ชีวิตจริงจะไม่มีโอกาสใส่ทักซิโด้เดินเข้าคาสิโนแบบในหนังสุดเท่ UNLOCKMEN เลยชวนมาดู 10 หนังการพนันกันไปพลาง ๆ ระหว่างรอให้ประเทศนี้มีคาสิโนแบบถูกกฎหมายเสียที 21 (2008) Director : Robert Luketic การพนันกับการโกงเป็นอะไรที่ตีคู่กันมาแต่ไกล มีหนังการพนันที่ไหน ก็ต้องมีการโกงที่นั่น เรื่องนี้ก็เช่นกัน เมื่อมิคกี้ โรซา อาจารย์คณิตศาสตร์ ตั้งแก๊งนักศึกษาหัวใสมารวมตัวกัน และไปเล่นแบล็กแจ็กแบบดัดหลังคาสิโนกันทุกสัปดาห์ด้วยกลโกงการนับไพ่ นำทีมโดย เบน แคมป์เบล นักศึกษาหนุ่มที่มีมันสมองเป็นกรด ที่เป็นเหมือนหัวหน้าทีม และมีอาจารย์คอยเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง พวกเขากอบโกยเงินมาได้แบบนับไม่ถ้วน แต่มีหรือจะรอดพ้นสายตาของเจ้ามือไปได้ และนั่นก็เป็นอีกความสนุกที่เราต้องคอยลุ้นให้พวกเขารอดจากเงื้อมือเจ้ามือไปให้ได้ ความสนุกคือ แม้มันจะดูเป็นแค่เกมโกงไพ่ธรรมดา แต่มันมีการชิงไหวชิงพริบ มีแรงจูงใจให้ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด ทำให้ตัวละครมีมิติมากกว่าเป็นนักศึกษาที่อยากได้เงินมาปรนเปรอตัวเอง ถ้าใครชอบหนังหักมุมก็ขอแนะนำเรื่องนี้ไว้อีกเรื่อง Focus (2015) Directors : Glenn Ficarra, John Requa หนังของคนรักการต้มตุ๋นแบบเวอร์ ๆ