“บุหรี่” ถือเป็นอีกเชื้อเพลิงสำคัญที่ขับเคลื่อนผู้ชายอย่างเราให้ทำงานได้คล่องตัวขึ้น อาจเพราะนิโคตินที่เราเสพ อาจเพราะช่วงเวลาพักสั้น ๆ ที่ได้ออกมาสูดอากาศนอกบรรยากาศการทำงาน อาจเพราะได้มองผู้คนจากออฟฟิศอื่นที่ก็ลงมาสูดควันเข้าปอดเหมือนกัน แต่เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงไม่ทันนึกว่า “การสูบบุหรี่” สามารถเชื่อมโยงกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ งานวิจัยจาก National Bureau of Economic Research สำรวจกลุ่มตัวอย่างจากพนักงานในสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่ โดยผลการสำรวจชี้ว่าพนักงานผู้ชายที่ใช้เวลาสูบบุหรี่กับหัวหน้าผู้ชายของพวกเขานั้นมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และเงินเดือนขึ้นเร็วกว่า ในมุมหนึ่งเรื่องนี้อาจดูไม่น่าแปลกใจนักเพราะสิงห์อมควันรู้ดีว่าการสูบบุหรี่กับใครสักคนไม่ได้หมายความแค่การสูดควันเข้าปอดข้าง ๆ กัน โดยเฉพาะการสูบบุหรี่กับเพื่อนร่วมงาน ระหว่างห้วงเวลาในควันเทาทึมนั้นมักมีบทสนทนาลื่นไหลที่บางบทสนทนานั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในบรรยากาศการทำงานในออฟฟิศได้เลย การสูบบุหรี่จึงไม่ต่างจากสารกระตุ้นความผ่อนคลายบางอย่าง แต่ก็เจือบรรยากาศเปิดเผยอย่างจริงใจ จึงไม่แปลกที่ผู้ชายอาจได้แสดงวิสัยทัศน์หรือตัวตนให้หัวหน้าประทับใจ จนนำไปสู่ความก้าวหน้าทางอาชีพการงานได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงเป็นวงกว้าง เพราะถ้าทุกคนได้แสดงความคิดเห็นหรือทำให้หัวหน้าเห็นศักยภาพบางอย่างระหว่างสูบบุหรี่จริง ทำไมพนักงานผู้หญิงถึงไม่ได้เลื่อนขั้นเร็วขึ้นอย่างพนักงานผู้ชาย? หรือทำไมการที่พนักงานไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายสูบบุหรี่กับหัวหน้าผู้หญิง แล้วถึงไม่ได้มีใครมีอัตราการเลื่อนตำแหน่งเร็วขึ้น? การตั้งข้อสังเกตเรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศระหว่างการทำงาน ไม่ได้เกิดขึ้นกับการสูบบุหรี่เป็นกรณีแรก ทฤษฎี “old boys’ club” ที่ตั้งคำถามกับกิจกรรมแบบผู้ชาย ๆ ที่เอื้อประโยชน์กันแค่ในหมู่ผู้ชายและสร้างโครงข่ายคอนเนคชั่นทอดยาวไม่รู้จบนั้นมีมานานแล้ว ถ้าจินตนาการไม่ออกให้ลองนึกถึงการไปตีกอล์ฟแบบผู้ชาย ๆ หรือการไปกินดื่มเที่ยวในสถานบันเทิงบางรูปแบบที่มีแต่ผู้ชาย เพราะไม่สามารถชวนพนักงานผู้หญิงหรือเจ้านายผู้หญิงไปมีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อในทฤษฎี “old boys’ club” แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เชื่อแน่ ๆ และเถียงหัวชนฝา พวกเขาตั้งสมมติฐานขึ้นมาว่า “ที่พนักงานผู้ชายได้ขึ้นเงินเดือนและเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าตอนที่ทำงานกับหัวหน้าผู้ชายก็เพราะว่าหัวหน้าผู้ชายเข้าใจเราและรู้จักวิธีบริหารดีกว่าไงล่ะ” สมมติฐานนี้คล้ายจะฟังขึ้น