เผด็จการ ประชาธิปไตย 2 คำนี้เหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน แต่ในโลกแห่งความจริงก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเกมการเมืองแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ การโคจรมาเจอกันของ 2 ขั้วความคิดทางการเมืองที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเกิดขึ้นเป็นประจำหลายยุค หลายสมัย ในหลายประเทศ และต้องยอมรับว่าในบ้านเราก็เข้าข่ายเส้นขนานนี้กลาย ๆ อยู่เหมือนกัน จากท่าทีตามหน้าสื่อการเมืองแล้ว ดูเหมือนคำพูดระยะหลังจะหมายความได้ว่า การเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้นในบ้านเราอีกไม่ช้า แต่ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเราอาจจะมีพรรคการเมืองอดีตทหารมาลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อแข่งขันกันด้วยแน่นอน ซึ่งถ้าดูจากหน้าประวัติศาสตร์โลก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผันตัวจากผู้นำทหารลงสู่สนามประชาธิปไตย ดังนั้นเราจะพาย้อนไปดูเรื่องราวการมาบรรจบกันของ 2 แนวความคิดนี้ในหลากหลายประเทศ เพื่อดูเทรนด์ว่าอนาคตของบ้านเราจะเป็นยังไงต่อไป ชิลี ปี 1973 เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศชิลี ในปี 1973 นายพล Augusto Pinochet ได้รัฐประหารรัฐบาลในขณะนั้นและก้าวขึ้นสู่บัลลังก์อำนาจ หลังจากนั้นไม่นานฝ่ายขั้วตรงข้ามทางการเมืองหลายพันคนโดนสังหาร ไม่ก็โดนเนรเทศออกจากประเทศ ก่อนจะออกกฎหมายฉบับใหม่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์และเคอร์ฟิว ชิลีตกอยู่ในภาวะไร้เสรีภาพยาวนานถึง 15 ปี จนกระทั่งปี 1988 Pinochet ยอมให้มีการทำประชามติรับฟังเสียงประชาชนว่าต้องการให้เขาบริหารประเทศต่อไปอีก 8 ปีหรือไม่ แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่เขาคิด พลเมืองชิลีรวมใจโหวต NO อย่างถล่มทลาย Pinochet ยอมรับความพ่ายแพ้นี้ และคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนในปี 1990 40% และ
วันนี้คือวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เป็นวันอังคารธรรมดา ๆ วันหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อนเชื่อว่านี่คือวันที่คนไทยหลายคนคงจำกันได้ดี เป็นวันที่มีรถถังและทหารขวักไขว่เต็มท้องถนน แน่นอนว่ามันคือวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทำการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา” ภายหลังการรัฐประหาร ทุกครั้งที่เปิดโทรทัศน์หรือรับสื่อใด ๆ ก็ตามเรามักจะได้ยินเพลง ๆ นี้ดังขึ้นมาเสมอ จนกระทั่งผ่านมาแล้ว 4 ปี ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” นี่คือขอเวลาเท่าไรกันแน่ หรือว่าเมื่อไหร่ที่ความชัดเจนในการปฏิรูปบ้านเมืองจะออกมาให้เห็น ซึ่งคงไม่มีใครจะรู้ดีเท่ากับเจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนลงมือทำงานอยู่ในขณะนี้ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบ Happy Ending งั้นเรามาย้อนดูกันดีกว่าว่าเคยมีผู้นำเผด็จการทหารคนไหนเคยผิดคำพูดอะไรไว้บ้าง ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นเพียงการรวบรวมทางสถิติที่มีจารึกไว้เท่านั้น ไม่มีใครเกี่ยวข้องกัน ไม่ได้หมายความว่าทุกคนถูกหรือผิดใด ๆ ครับ Bashar al-Assad Bashar al-Assad คือประธานาธิบดีแห่งซีเรีย ซึ่งได้รับตำแหน่งจากการสืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาของเขา Hafez al-Assad ซึ่งปกครองซีเรียมาอย่างยาวนานกว่า